เมื่อเวลา 09.09 น. วานนี้ (15 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เดินทางเข้าปฏิบัติงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อย่างเป็นทางการเป็นวันแรก ซึ่งนายกฯได้สวมสูทสีเทาหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เดินทางด้วยรถเบนซ์หมายเลขทะเบียน ศท 1251 ซึ่งเป็นรถยนตร์ประจำตำแหน่ง ผบ.ทบ. ขณะที่การรักษาความปลอดภัยในขบวน มีรถสารวัตรทหาร (สห.) นำขบวน 3 คัน มอเตอร์ไซด์ (มดดำ) ประกบข้างรถ 1 คัน รถเบนซ์รักษาความปลอดภัย ปิดขบวน 1 คัน และรถของทีมรักษาความปลอดภัยอีก 3 คัน รวมมีรถในขบวนทั้งสิ้น 9 คัน ทั้งนี้มี พล.อ.วิลาศ อรุณศรี ว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และน.ส.เรณู ตังคจิวรางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ให้การต้อนรับ โดยนายกฯ ได้กล่าวขอบคุณผู้บริหารที่มาให้การต้อนรับพร้อมขอความร่วมมือให้ช่วยกันทำงานด้วยเจตนาที่ดี เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าก้าวหน้าต่อไป โดยตนเองจะตั้งใจทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีให้ดีที่สุด เพื่อบ้านเมือง
สำหรับในช่วงบ่ายนายกฯ มีกำหนดการ เป็นประธานในการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ และยุทธศาสตร์ทหาร พ.ศ. 2558-2562 ที่ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี เวลา 13.30 น. ซึ่งจัดขึ้นโดยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โดยมีตัวแทนผู้บริหารระดับสูง ทั้งจากภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมในนามคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นปี 2556 โดยมุ่งเน้นยุทธศาสตร์ให้ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง มีเกียรติและศักดิ์ศรีในสังคมโลก ให้ไทยเป็นสังคมแห่งความรู้ควบคู่คุณธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ดี รักษาสิ่งแวดล้อม
**"หม่อมอุ๋ย"เน้น "ดิจิทัลอีโคโนมี"
เมื่อเวลา 13.30น.วันเดียวกันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าสักการะสิ่งศักสิทธิ์ ประจำทำเนียบฯ ก่อนเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ ที่ตึกบัญชาการ 1 ว่า ตามนโยบายที่แถลงไปในส่วนของข้อ 6 ที่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการเขียนในสิ่งที่ทำได้จริง และจะต้องทำให้ลุล่วงภายใน 3 เดือน เพราะจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อจากนั้นจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวที่ค้างอยู่ อาทิ โครงสร้างราคาน้ำมัน เรื่องของภาษี การปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมเกษตร เป็นต้น และนโยบายในส่วนสุดท้าย คือ การวางรากฐานอนาคต ที่เป็นระยะยาว ซึ่งอันไหนทำได้ ก็จะดำเนินการเป็นฐานไว้ให้คนอื่นมาต่อ เช่น โครงการคมนาคมที่ต้องใช้เวลาหลายปี แต่เราจะลงรากฐานไว้ และถ้าเป็นโครงการที่ดี สังคมชอบ ใครเข้ามาก็ต้องดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ เรื่องที่ยากที่สุด จะเป็นในส่วนของ Digital Economy (ดิจิทัลอีโคโนมี) ซึ่งแต่เดิมเศรษฐกิจจะประกอบด้วย ภาคอุตสาหกรรม เกษตร การเงิน และการบริการ แต่ปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นมาคือ เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ แต่มีมากกว่านั้น นั่นก็คือเป็นพื้นฐานให้เศรษฐกิจภาคอื่นขยายตัวต่อไป ยกตัวอย่างเช่น ภาคการธนาคาร ถ้าไม่มีการใช้ดิจิทัลเข้าไป ก็ไม่สามารถโตได้ หรืออุตสาหกรรมรถยนต์ ก็ต้องใช้ระบบดิจิทัลเข้าไปเพิ่มเติม ดังนั้นเราต้องสร้างฐานดิจิทัลอีโคโนมี เพื่อเข้าไปรองรับการขยายตัวของฐานอื่น ซึ่งประเทศเกาหลีใต้ ญื่ปุ่น และสิงคโปร ก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ประเทศเราอาจช้ากว่า แต่ก็ไม่ช้าเกินไป ซึ่งต้องสร้างฐานให้ได้ดีที่สุด ภายใน 1 ปี
ส่วนเรื่องการตั้งเป้าค่าจีดีพีเศรษฐกิจปีนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ตนไม่ถือว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่จะเน้นการเร่งการสร้างงาน และเร่งอนุมัติการลงทุนให้เกิดเร็วขึ้น ภายใน 3 เดือนนี้ ซึ่งเมื่อมีเรื่องใดเป็นชิ้นเป็นอัน พร้อมที่จะชี้แจงทุกรายละเอียดกับประชาชน
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้เสนอชื่อ นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อดีตอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นเลขานุการรองนายกรัฐมนตรี และ นายอำนวย ปะติเส อดีต รมช.คลัง ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และตั้งบุคคลเป็นผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีอีก 1 ตำแหน่ง ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบในวันนี้ (16 ก.ย.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองนายกฯ เปิดเผยถึงพรที่ขอระหว่างสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ คือ"ขอให้คิดอะไรดีๆ ออกเพื่อประเทศ"
**"บิ๊กป้อม"ไหว้พระแก้วก่อนเข้ากห.
ส่วนที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ได้เดินทางเข้ากระทรวงทำงานเป็นวันแรก โดยถือใช้ฤกษ์ 06.19 น. เข้าสักการะศาลหลักเมือง ก่อนเดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม สักการะเจ้าพ่อหอกลอง ณ ศาลเจ้าพ่อหอกลอง จากนั้นได้ถวายสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในชั้น 2 สำนักงานผู้บังคับบัญชา กรมเสมียรตรา สักการะรูปหล่อจอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง ชูโต) ณ หน้าห้องสุรศักดิ์มนตรี ถวายสักการะพระบรมรูปและพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ หน้าห้องภาณุรังษี และเข้าสักการะพระบรมรูปจอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ฯ ณ ห้องภาณุรังษี
ทั้งนี้ มีพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหาร และว่าที่ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ และพล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง เสนาธิการทหารอากาศ และว่าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศเข้าร่วมพิธี และมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม รมว.แรงงาน ให้การต้อนรับ ต่อมารมว.กลาโหม พร้อมคณะได้เดินลงมารับการเคารพจากการสวนสนามของกองทหารเกียรติยศผสม 3 เหล่าทัพ 1 กองพัน ณ ลานอเนกประสงค์ ในศาลาว่าการกลาโหม ก่อนจะเข้าฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของกระทรวงกลาโหมภายในห้องภาณุรังษี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นในเวลา 06.09 น. พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วยพล.อ.อุดมเดช ได้เดินทางไปสักการะ พระแก้วมรกต ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะเดินทางมายังกระทรวงกลาโหม
รมว.กลาโหม ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่า ตนดูแลรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง โดยจะดูแลให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างครอบคลุม ลดปัญหาอาชญากรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในทุกพื้นที่ของประเทศให้มากที่สุด โดยจะมีการสั่งการเพื่อให้เกิดการทำงานที่ชัดเจนขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานในส่วนนี้อยู่แล้ว แต่ตนเองจะเข้ามาบูรณาการให้เกิดความคล่องแคล่ว และรวดเร็วขึ้น และจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 1-2 วันนี้ ยืนยันว่า จะทำงานให้เห็นผลชัดเจนภายใน 1-3 เดือน ประชาชนได้รับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนนโยบายการปราบปรามคอร์รัปชันนั้น ตนเองคงไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม เพราะทางคสช. และรัฐบาลได้พูดชัดเจนแล้วว่า ทุกหน่วยงานของรัฐจะต้องมีเรื่องขจัดการคอร์รัปชันแทรกเข้าไปด้วย จึงไม่ต้องห่วงว่ากระทรวงกลาโหมจะไม่ทำ เราจะเน้นความโปร่งใส และ ความปรองดองเป็นที่ตั้ง
ส่วนเรื่องการพูดคุยสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ยังคงต้องไปดูก่อน แต่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องของการพูดคุยแล้ว ซึ่งตนมั่นใจว่า รัฐบาลและ คสช. จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
"ขอให้มีความเชื่อมั่นว่า เราจะต้องนำพาประเทศของเราเดินต่อไปให้ได้ ถ้าทุกคนช่วยกัน ยืนยันว่าประเทศเราไปต่อได้อย่างแน่นอน รวมทั้งสื่อมวลชนก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง จึงขอความร่วมมือจากสื่อในการเสนอความจริงด้วย อย่ามโนไปเกินจริง" พล.อ.ประวิตร กล่าว
**"อนุพงษ์-สุธี" เข้ามหาดไทย
ส่วนที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เดินทางมาพร้อมด้วย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย ก่อนเข้าสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นการเข้าทำงานอย่างเป็นทางการวันแรก โดยมีผู้บริหาร และข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับอย่างคึกคัก เช่น นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัด มท. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสารณภัย นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
หลังจากนั้นเวลา 10.00 น. รมว.มหาดไทยได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยจากเจ้าหน้าที่ในสังกัด
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 ก.ย. รมว.มหาดไทย จะประชุมการดำเนินงานและมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด มท. และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
**"ปีติพงศ์"ฟุ้งแก้ปัญหายางทั้งระบบ
ด้านนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการมอบนโยบายให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงว่า มีนโยบายหลายด้านที่ต้องเร่งแก้ไข โดยนโยบายเร่งด่วนที่ต้องเร่งจัดทำมี 4 เรื่อง คือ ปัญหาราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งวอร์รูมติดตามราคาอย่างใกล้ชิด ปัญหาภัยแล้ง ต้องเตรียมการล่วงหน้า ทั้งเตือนภัย ป้องกัน ส่งเสริมให้เกิดอาชีพ และการเยียวยา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ให้กับเกษตรกรมากที่สุด การแก้ไขปัญหาของหน่วยงานเฉพาะภายใต้สังกัดกระทรวง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องกุ้ง ปัญหาแรงงานประมง และปศุสัตว์ และการฟื้นฟูสหกรณ์การเกษตร
สำหรับนโยบายระยะยาวที่ต้องเร่งแก้ไขและวางรากฐานภายใน 1 ปี ได้แก่ การปรับโครงสร้างการผลิต หรือการจัดโซนนิ่งภาคเกษตร ที่ต้องออกแบบให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะสินค้ายาง และข้าว โดยมีทางเลือก 3 แนวทาง คือ ปรับเปลี่ยนอาชีพ ปรับเปลี่ยนการผลิต และกลับไปใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งขยายตลาดแบบขายตรง เร่งตรวจสอบพื้นที่ปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ สร้างกระบวนการการตรวจสอบ และการให้บริการที่ดีขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน ในกระทรวง
**คนดังพรึ่บ! เลขาฯ-ที่ปรึกษา รมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีที่เข้าทำงานเป็นวันแรก ส่วนใหญ่มีการฟอร์มทีมที่ปรึกษาและเลขานุการแล้ว โดยจะมีการเสนอที่ประชุมครม.ในวันนี้ (16 ก.ย.) นี้ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทีมงานที่ปรึกษา นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย อดีต ส.ว.เชียงใหม่, นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อดีต อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และประธานบอร์ดองค์การบริหารกิจการโคนมแห่งประเทศไทย, นายอภิชาติ พงษ์ศรีหดุลชัย อดีตเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, นายบุญมี จันทรวงศ์ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์, นายอำนวย ปะติเส อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย
กระทรวงมหาดไทย ทีมงานที่ปรึกษา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ประกอบด้วย พล.ต.ต.ธารา ปุณศรี เป็นเลขานุการ รมว.มหาดไทย, นายอนุชา โมกขะเวส อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นที่ปรึกษารมว.มหาดไทย, นายจาดุร อภิชาตบุตร อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย, นายศิวะ แสงมณี อดีตอธิบดีกรมการปกครอง เป็นที่ปรึกษารมช.มหาดไทย, นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และนายประชา เตรัตน์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นทีมสตาฟของ รมว.มหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข ทีมงานที่ปรึกษา นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.กระทรวงสาธารณสุข มีชื่อ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข เป็นประธานที่ปรึกษา ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุน สสส., นพ.สุวิทย์ วิบูลผลประเสริฐ, นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ และ นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา
กระทรวงการคลัง ทีมที่ปรึกษานายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง มี นายสรร วิเทศพงษ์ อดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง มาเป็นเลขานุการ รมว.คลัง นอกจากนี้ยังมี นางพรรณี สถาวโรดม อดีตผู้อำนวยการ สบน. และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.), นายวิสุทธิ์ มนตริวัต อดีตอธิบดีหลายกรม, นายสมชัย อภิวัฒสถาพร อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นต้น ส่วนกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จะเสนอแต่งตั้ง น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ที่จะเกษียณอายุในสิ้นก.ย.นี้
สำหรับในช่วงบ่ายนายกฯ มีกำหนดการ เป็นประธานในการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ และยุทธศาสตร์ทหาร พ.ศ. 2558-2562 ที่ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี เวลา 13.30 น. ซึ่งจัดขึ้นโดยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โดยมีตัวแทนผู้บริหารระดับสูง ทั้งจากภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมในนามคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นปี 2556 โดยมุ่งเน้นยุทธศาสตร์ให้ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง มีเกียรติและศักดิ์ศรีในสังคมโลก ให้ไทยเป็นสังคมแห่งความรู้ควบคู่คุณธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ดี รักษาสิ่งแวดล้อม
**"หม่อมอุ๋ย"เน้น "ดิจิทัลอีโคโนมี"
เมื่อเวลา 13.30น.วันเดียวกันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าสักการะสิ่งศักสิทธิ์ ประจำทำเนียบฯ ก่อนเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ ที่ตึกบัญชาการ 1 ว่า ตามนโยบายที่แถลงไปในส่วนของข้อ 6 ที่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการเขียนในสิ่งที่ทำได้จริง และจะต้องทำให้ลุล่วงภายใน 3 เดือน เพราะจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อจากนั้นจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวที่ค้างอยู่ อาทิ โครงสร้างราคาน้ำมัน เรื่องของภาษี การปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมเกษตร เป็นต้น และนโยบายในส่วนสุดท้าย คือ การวางรากฐานอนาคต ที่เป็นระยะยาว ซึ่งอันไหนทำได้ ก็จะดำเนินการเป็นฐานไว้ให้คนอื่นมาต่อ เช่น โครงการคมนาคมที่ต้องใช้เวลาหลายปี แต่เราจะลงรากฐานไว้ และถ้าเป็นโครงการที่ดี สังคมชอบ ใครเข้ามาก็ต้องดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ เรื่องที่ยากที่สุด จะเป็นในส่วนของ Digital Economy (ดิจิทัลอีโคโนมี) ซึ่งแต่เดิมเศรษฐกิจจะประกอบด้วย ภาคอุตสาหกรรม เกษตร การเงิน และการบริการ แต่ปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นมาคือ เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ แต่มีมากกว่านั้น นั่นก็คือเป็นพื้นฐานให้เศรษฐกิจภาคอื่นขยายตัวต่อไป ยกตัวอย่างเช่น ภาคการธนาคาร ถ้าไม่มีการใช้ดิจิทัลเข้าไป ก็ไม่สามารถโตได้ หรืออุตสาหกรรมรถยนต์ ก็ต้องใช้ระบบดิจิทัลเข้าไปเพิ่มเติม ดังนั้นเราต้องสร้างฐานดิจิทัลอีโคโนมี เพื่อเข้าไปรองรับการขยายตัวของฐานอื่น ซึ่งประเทศเกาหลีใต้ ญื่ปุ่น และสิงคโปร ก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ประเทศเราอาจช้ากว่า แต่ก็ไม่ช้าเกินไป ซึ่งต้องสร้างฐานให้ได้ดีที่สุด ภายใน 1 ปี
ส่วนเรื่องการตั้งเป้าค่าจีดีพีเศรษฐกิจปีนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ตนไม่ถือว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่จะเน้นการเร่งการสร้างงาน และเร่งอนุมัติการลงทุนให้เกิดเร็วขึ้น ภายใน 3 เดือนนี้ ซึ่งเมื่อมีเรื่องใดเป็นชิ้นเป็นอัน พร้อมที่จะชี้แจงทุกรายละเอียดกับประชาชน
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้เสนอชื่อ นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อดีตอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นเลขานุการรองนายกรัฐมนตรี และ นายอำนวย ปะติเส อดีต รมช.คลัง ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และตั้งบุคคลเป็นผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีอีก 1 ตำแหน่ง ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบในวันนี้ (16 ก.ย.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองนายกฯ เปิดเผยถึงพรที่ขอระหว่างสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ คือ"ขอให้คิดอะไรดีๆ ออกเพื่อประเทศ"
**"บิ๊กป้อม"ไหว้พระแก้วก่อนเข้ากห.
ส่วนที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ได้เดินทางเข้ากระทรวงทำงานเป็นวันแรก โดยถือใช้ฤกษ์ 06.19 น. เข้าสักการะศาลหลักเมือง ก่อนเดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม สักการะเจ้าพ่อหอกลอง ณ ศาลเจ้าพ่อหอกลอง จากนั้นได้ถวายสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในชั้น 2 สำนักงานผู้บังคับบัญชา กรมเสมียรตรา สักการะรูปหล่อจอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง ชูโต) ณ หน้าห้องสุรศักดิ์มนตรี ถวายสักการะพระบรมรูปและพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ หน้าห้องภาณุรังษี และเข้าสักการะพระบรมรูปจอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ฯ ณ ห้องภาณุรังษี
ทั้งนี้ มีพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหาร และว่าที่ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ และพล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง เสนาธิการทหารอากาศ และว่าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศเข้าร่วมพิธี และมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม รมว.แรงงาน ให้การต้อนรับ ต่อมารมว.กลาโหม พร้อมคณะได้เดินลงมารับการเคารพจากการสวนสนามของกองทหารเกียรติยศผสม 3 เหล่าทัพ 1 กองพัน ณ ลานอเนกประสงค์ ในศาลาว่าการกลาโหม ก่อนจะเข้าฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของกระทรวงกลาโหมภายในห้องภาณุรังษี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นในเวลา 06.09 น. พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วยพล.อ.อุดมเดช ได้เดินทางไปสักการะ พระแก้วมรกต ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะเดินทางมายังกระทรวงกลาโหม
รมว.กลาโหม ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่า ตนดูแลรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง โดยจะดูแลให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างครอบคลุม ลดปัญหาอาชญากรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในทุกพื้นที่ของประเทศให้มากที่สุด โดยจะมีการสั่งการเพื่อให้เกิดการทำงานที่ชัดเจนขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานในส่วนนี้อยู่แล้ว แต่ตนเองจะเข้ามาบูรณาการให้เกิดความคล่องแคล่ว และรวดเร็วขึ้น และจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 1-2 วันนี้ ยืนยันว่า จะทำงานให้เห็นผลชัดเจนภายใน 1-3 เดือน ประชาชนได้รับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนนโยบายการปราบปรามคอร์รัปชันนั้น ตนเองคงไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม เพราะทางคสช. และรัฐบาลได้พูดชัดเจนแล้วว่า ทุกหน่วยงานของรัฐจะต้องมีเรื่องขจัดการคอร์รัปชันแทรกเข้าไปด้วย จึงไม่ต้องห่วงว่ากระทรวงกลาโหมจะไม่ทำ เราจะเน้นความโปร่งใส และ ความปรองดองเป็นที่ตั้ง
ส่วนเรื่องการพูดคุยสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ยังคงต้องไปดูก่อน แต่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องของการพูดคุยแล้ว ซึ่งตนมั่นใจว่า รัฐบาลและ คสช. จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
"ขอให้มีความเชื่อมั่นว่า เราจะต้องนำพาประเทศของเราเดินต่อไปให้ได้ ถ้าทุกคนช่วยกัน ยืนยันว่าประเทศเราไปต่อได้อย่างแน่นอน รวมทั้งสื่อมวลชนก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง จึงขอความร่วมมือจากสื่อในการเสนอความจริงด้วย อย่ามโนไปเกินจริง" พล.อ.ประวิตร กล่าว
**"อนุพงษ์-สุธี" เข้ามหาดไทย
ส่วนที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เดินทางมาพร้อมด้วย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย ก่อนเข้าสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นการเข้าทำงานอย่างเป็นทางการวันแรก โดยมีผู้บริหาร และข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับอย่างคึกคัก เช่น นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัด มท. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสารณภัย นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
หลังจากนั้นเวลา 10.00 น. รมว.มหาดไทยได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยจากเจ้าหน้าที่ในสังกัด
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 ก.ย. รมว.มหาดไทย จะประชุมการดำเนินงานและมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด มท. และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
**"ปีติพงศ์"ฟุ้งแก้ปัญหายางทั้งระบบ
ด้านนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการมอบนโยบายให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงว่า มีนโยบายหลายด้านที่ต้องเร่งแก้ไข โดยนโยบายเร่งด่วนที่ต้องเร่งจัดทำมี 4 เรื่อง คือ ปัญหาราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งวอร์รูมติดตามราคาอย่างใกล้ชิด ปัญหาภัยแล้ง ต้องเตรียมการล่วงหน้า ทั้งเตือนภัย ป้องกัน ส่งเสริมให้เกิดอาชีพ และการเยียวยา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ให้กับเกษตรกรมากที่สุด การแก้ไขปัญหาของหน่วยงานเฉพาะภายใต้สังกัดกระทรวง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องกุ้ง ปัญหาแรงงานประมง และปศุสัตว์ และการฟื้นฟูสหกรณ์การเกษตร
สำหรับนโยบายระยะยาวที่ต้องเร่งแก้ไขและวางรากฐานภายใน 1 ปี ได้แก่ การปรับโครงสร้างการผลิต หรือการจัดโซนนิ่งภาคเกษตร ที่ต้องออกแบบให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะสินค้ายาง และข้าว โดยมีทางเลือก 3 แนวทาง คือ ปรับเปลี่ยนอาชีพ ปรับเปลี่ยนการผลิต และกลับไปใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งขยายตลาดแบบขายตรง เร่งตรวจสอบพื้นที่ปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ สร้างกระบวนการการตรวจสอบ และการให้บริการที่ดีขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน ในกระทรวง
**คนดังพรึ่บ! เลขาฯ-ที่ปรึกษา รมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีที่เข้าทำงานเป็นวันแรก ส่วนใหญ่มีการฟอร์มทีมที่ปรึกษาและเลขานุการแล้ว โดยจะมีการเสนอที่ประชุมครม.ในวันนี้ (16 ก.ย.) นี้ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทีมงานที่ปรึกษา นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย อดีต ส.ว.เชียงใหม่, นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อดีต อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และประธานบอร์ดองค์การบริหารกิจการโคนมแห่งประเทศไทย, นายอภิชาติ พงษ์ศรีหดุลชัย อดีตเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, นายบุญมี จันทรวงศ์ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์, นายอำนวย ปะติเส อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย
กระทรวงมหาดไทย ทีมงานที่ปรึกษา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ประกอบด้วย พล.ต.ต.ธารา ปุณศรี เป็นเลขานุการ รมว.มหาดไทย, นายอนุชา โมกขะเวส อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นที่ปรึกษารมว.มหาดไทย, นายจาดุร อภิชาตบุตร อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย, นายศิวะ แสงมณี อดีตอธิบดีกรมการปกครอง เป็นที่ปรึกษารมช.มหาดไทย, นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และนายประชา เตรัตน์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นทีมสตาฟของ รมว.มหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข ทีมงานที่ปรึกษา นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.กระทรวงสาธารณสุข มีชื่อ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข เป็นประธานที่ปรึกษา ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุน สสส., นพ.สุวิทย์ วิบูลผลประเสริฐ, นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ และ นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา
กระทรวงการคลัง ทีมที่ปรึกษานายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง มี นายสรร วิเทศพงษ์ อดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง มาเป็นเลขานุการ รมว.คลัง นอกจากนี้ยังมี นางพรรณี สถาวโรดม อดีตผู้อำนวยการ สบน. และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.), นายวิสุทธิ์ มนตริวัต อดีตอธิบดีหลายกรม, นายสมชัย อภิวัฒสถาพร อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นต้น ส่วนกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จะเสนอแต่งตั้ง น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ที่จะเกษียณอายุในสิ้นก.ย.นี้