"คนสะเอียบ"บุกเวทีบริหารจัดการน้ำของกรมชลที่จ.พิษณุโลก ลั่นไม่เอา"เขื่อนแก่งเสือเต้น-ยมบน-ยมล่าง" ไล่ไปจัดการลุ่มน้ำ 14 สาขา ด้าน ปภ.สุโขทัยสรุปท่วม 8 อำเภอ เดือดร้อนกว่า 2 หมื่นคน เสียชีวิต 2 ราย ทหาร-ฝ่ายปกครองลงพื้นที่อ.สามง่าม จ.พิจิตร คาดอีก 3 วันน้ำเหนือมาถึง ขณะที่ จ.เลยหมอกปกคลุมแล้ว ส่งสัญญาณ "ปลายฝนต้นหนาว" ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยายังไม่มีรายงาน
วานนี้ (9 ก.ย.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนล่าง โรงแรมริเวอร์วิว อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเวทีการรับฟังสภาพปัญหาลุ่มน้ำและแนวทางการแก้ไขปัญหา" จัดโดยกรมชลประทาน มีตัวแทนคณะกรรมการลุ่มน้ำ อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาเกษตรกร องค์กรผู้ใช้น้ำ เครือข่ายประชาชน 16 จังหวัดภาคเหนือแต่ละลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่านประมาณ 500 คน รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เข้าร่วม
โดยเป็นการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนา และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุดที่ 1 ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องน้ำจากทุกภาคส่วน และแนวทางการแก้ไขจากคนในพื้นที่ ไปพิจารณายกร่างแผนบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดทำแผนแม่บทภายในเดือน ต.ค.57
ข่าวแจ้งว่า นายสมมิ่ง เหมืองร้อง ราษฎร ต.สะเอียบอ.ลอง จ.แพร่ มาร่วมเวทีและยื่นหนังสือคัดค้านกับตัวแทนกรมชลประทานในห้องประชุมกลุ่มย่อย โดยกล่าวเพียงว่า ชาวสะเอียบขอคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ขอให้ยุติแผนการทำลายป่าด้วยการสร้าง และไม่ต้องการเขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง เพราะไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วม สาเหตุการน้ำท่วม จ.สุโขทัย เนื่องจากฝนตกเขต อ.วังชิ้น ซึ่งอยู่ตอนใต้ของแก่งเสือเต้น อ.ลอง ดังนั้นการสร้างเขื่อนไม่ได้ช่วยให้น้ำไม่ท่วม แต่ไม่คุ้มค่าการลงทุน ควรไปเดินหน้าจัดการลุ่มน้ำสาขา 14 สาขา จะมีประสิทธิภาพมากดีกว่า
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดนั้น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จ.สุโขทัย รายงานว่าตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.ย. ประกาศเขตพิบัติฉุกเฉินอุทกภัย 8 อำเภอ 46 ตำบล 243 หมู่บ้าน 14 ชุมชน ประชาชนเดือนร้อน 6,976 ครัวเรือน 21,723 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 8,559 ไร่ ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายสิน อ่อนเพชร อายุ 69 ปี ชาว ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ และนายพะเยา คล้ายยา อายุ 51 ปี ชาวต.บ้านหลุม อ.เมือง
ล่าสุด คงเหลือเฉพาะหมู่ 7 ต.ปากแคว อ.เมือง ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร ขณะที่ถนนวังไม้ขอน หมู่ 7 ต.ปากแคว น้ำท่วมสูง 20 เซนติเมตร ใช้งานได้เพียง 1 ช่องทาง
จ.พิจิตร พ.อ.สุพจน์ บูรณจารี รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกดล.รส.)ประจำพื้นที่จ.พิจิตร นายมงคล สุกใส ปลัดจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ต.สามง่าม ต.เนินปอ ต.รังนก อ.สามง่าม พื้นที่รับน้ำจากอ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และคลองหนองคล้า-รังนก ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำปิง จ.กำแพงเพชร พบว่าน้ำท่วมนาข้าวประมาณ 1,000 ไร่ ซึ่งอีก 3 วัน มวลน้ำจากอ.บางระกำ จะมาถึงจึงให้ทุกฝ่ายประกาศเตือนชาวบ้านเก็บสิ่งของไปอยู่ในที่สูง
ขณะที่ จ.เลย กลับเปิดสภาพอากาศแปรปรวน เมื่ออากาศเริ่มเย็นและมีหมอกลงตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองเลย และอำเภอรอบนอก ลักษณะหมอกหนาวผสมหมอกฝนคล้ายเป็นสัญญาณว่าใกล้เปลี่ยนผ่านสู่ฤดูหนาวแล้ว ซึ่งนายวันชัย ชัยวิเศษ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาเลย กล่าวว่า เป็นดัชนีบ่งบอกว่าอีกไม่นานจะเข้าสู่ฤดูหนาว โดยสังเกตหลังจากเที่ยงคืนที่สภาพอากาศเริ่มเย็นลงเห็นได้ชัด เช้าตรู่จะมีหมอกในทุกพื้นที่ แม้บางพื้นที่ยังมีฝนตกบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งที่เรียกว่า "ปลายฝนต้นหนาว"
สำหรับอุณหภูมิต่ำสุดตามอำเภอต่างๆ อ.เมือง 23.5 องศาเซลเซียส อ.วังสะพุง 24.6 องศาเซลเซียส อ.ด่านซ้าย 22.5 องศาเซลเซียส อ.เชียงคาน 25 องศาเซลเซียส อ.ท่าลี่ 23 องศาเซลเซียส อ.ภูกระดึง 22.3 องศาเซลเซียส อ.ภูเรือ 22 องศาเซลเซียส อ.นาแห้ว 21.4 องศาเซลเซียส อ.ภูหลวง 22 องศาเซลเซียส อ.ผาขาว 23.4 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 15.5 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูเรือ 15.5 องศาเซลเซียส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 15 องศาเซลเซียส ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย อ.ภูเรือ 19 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว 20.5 องศาเซลเซียส
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศตั้งแต่เวลา 17.00 วันที่ 9 ก.ย.ถึงเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ก.ย.ว่าประเทศไทยยังมีฝนกระจายในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 30-40 ส่วนภาคตะวันออก และภาคใต้ ร้อยละ 60-80 มีฝนหนักบริเวณจ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ไม่มีรายงานว่าอากาศจะหนาวเย็นลงแต่อย่างใด
วานนี้ (9 ก.ย.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนล่าง โรงแรมริเวอร์วิว อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเวทีการรับฟังสภาพปัญหาลุ่มน้ำและแนวทางการแก้ไขปัญหา" จัดโดยกรมชลประทาน มีตัวแทนคณะกรรมการลุ่มน้ำ อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาเกษตรกร องค์กรผู้ใช้น้ำ เครือข่ายประชาชน 16 จังหวัดภาคเหนือแต่ละลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่านประมาณ 500 คน รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เข้าร่วม
โดยเป็นการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนา และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุดที่ 1 ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องน้ำจากทุกภาคส่วน และแนวทางการแก้ไขจากคนในพื้นที่ ไปพิจารณายกร่างแผนบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดทำแผนแม่บทภายในเดือน ต.ค.57
ข่าวแจ้งว่า นายสมมิ่ง เหมืองร้อง ราษฎร ต.สะเอียบอ.ลอง จ.แพร่ มาร่วมเวทีและยื่นหนังสือคัดค้านกับตัวแทนกรมชลประทานในห้องประชุมกลุ่มย่อย โดยกล่าวเพียงว่า ชาวสะเอียบขอคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ขอให้ยุติแผนการทำลายป่าด้วยการสร้าง และไม่ต้องการเขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง เพราะไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วม สาเหตุการน้ำท่วม จ.สุโขทัย เนื่องจากฝนตกเขต อ.วังชิ้น ซึ่งอยู่ตอนใต้ของแก่งเสือเต้น อ.ลอง ดังนั้นการสร้างเขื่อนไม่ได้ช่วยให้น้ำไม่ท่วม แต่ไม่คุ้มค่าการลงทุน ควรไปเดินหน้าจัดการลุ่มน้ำสาขา 14 สาขา จะมีประสิทธิภาพมากดีกว่า
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดนั้น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จ.สุโขทัย รายงานว่าตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.ย. ประกาศเขตพิบัติฉุกเฉินอุทกภัย 8 อำเภอ 46 ตำบล 243 หมู่บ้าน 14 ชุมชน ประชาชนเดือนร้อน 6,976 ครัวเรือน 21,723 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 8,559 ไร่ ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายสิน อ่อนเพชร อายุ 69 ปี ชาว ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ และนายพะเยา คล้ายยา อายุ 51 ปี ชาวต.บ้านหลุม อ.เมือง
ล่าสุด คงเหลือเฉพาะหมู่ 7 ต.ปากแคว อ.เมือง ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร ขณะที่ถนนวังไม้ขอน หมู่ 7 ต.ปากแคว น้ำท่วมสูง 20 เซนติเมตร ใช้งานได้เพียง 1 ช่องทาง
จ.พิจิตร พ.อ.สุพจน์ บูรณจารี รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกดล.รส.)ประจำพื้นที่จ.พิจิตร นายมงคล สุกใส ปลัดจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ต.สามง่าม ต.เนินปอ ต.รังนก อ.สามง่าม พื้นที่รับน้ำจากอ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และคลองหนองคล้า-รังนก ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำปิง จ.กำแพงเพชร พบว่าน้ำท่วมนาข้าวประมาณ 1,000 ไร่ ซึ่งอีก 3 วัน มวลน้ำจากอ.บางระกำ จะมาถึงจึงให้ทุกฝ่ายประกาศเตือนชาวบ้านเก็บสิ่งของไปอยู่ในที่สูง
ขณะที่ จ.เลย กลับเปิดสภาพอากาศแปรปรวน เมื่ออากาศเริ่มเย็นและมีหมอกลงตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองเลย และอำเภอรอบนอก ลักษณะหมอกหนาวผสมหมอกฝนคล้ายเป็นสัญญาณว่าใกล้เปลี่ยนผ่านสู่ฤดูหนาวแล้ว ซึ่งนายวันชัย ชัยวิเศษ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาเลย กล่าวว่า เป็นดัชนีบ่งบอกว่าอีกไม่นานจะเข้าสู่ฤดูหนาว โดยสังเกตหลังจากเที่ยงคืนที่สภาพอากาศเริ่มเย็นลงเห็นได้ชัด เช้าตรู่จะมีหมอกในทุกพื้นที่ แม้บางพื้นที่ยังมีฝนตกบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งที่เรียกว่า "ปลายฝนต้นหนาว"
สำหรับอุณหภูมิต่ำสุดตามอำเภอต่างๆ อ.เมือง 23.5 องศาเซลเซียส อ.วังสะพุง 24.6 องศาเซลเซียส อ.ด่านซ้าย 22.5 องศาเซลเซียส อ.เชียงคาน 25 องศาเซลเซียส อ.ท่าลี่ 23 องศาเซลเซียส อ.ภูกระดึง 22.3 องศาเซลเซียส อ.ภูเรือ 22 องศาเซลเซียส อ.นาแห้ว 21.4 องศาเซลเซียส อ.ภูหลวง 22 องศาเซลเซียส อ.ผาขาว 23.4 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 15.5 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูเรือ 15.5 องศาเซลเซียส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 15 องศาเซลเซียส ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย อ.ภูเรือ 19 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว 20.5 องศาเซลเซียส
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศตั้งแต่เวลา 17.00 วันที่ 9 ก.ย.ถึงเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ก.ย.ว่าประเทศไทยยังมีฝนกระจายในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 30-40 ส่วนภาคตะวันออก และภาคใต้ ร้อยละ 60-80 มีฝนหนักบริเวณจ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ไม่มีรายงานว่าอากาศจะหนาวเย็นลงแต่อย่างใด
