xs
xsm
sm
md
lg

กสท.สั่งดาวเทียม-เคเบิล ห้ามออนแอร์ช่อง3 ผู้บริหารดื้ออ้างแต่หลักกู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-กสท.ตื่น หลังถูก "ไพบูลย์"จวกอย่าเลอะเทอะ เตรียมส่งหนังสือแจ้งโครงข่ายดาวเทียม-เคเบิล ห้ามออกอากาศช่อง 3 อนาล็อกภายใน 15 วัน ยันมีอำนาจเต็มในการดำเนินการ ชี้ช่อง 3 ควรหยุดมั่วนิ่มได้แล้ว มีอะไรติดขัดให้ยื่นข้อเสนอมา จะได้ช่วยแก้ไข ด้านช่อง 3 ยังดื้อตาใส เมินหลักการ ยกสารพัดเหตุผล จะออกอากาศภาคพื้นดินจนหมดสัมปทานปี 63 กสทช.เคาะแจกคูปองซื้อกล่องทีวีดิจิตอลแล้ว 690 บาท เริ่มแจก 15 ต.ค.นี้

หลังจากที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาระบุว่าจะส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอแนวปฏิบัติที่ชัดเจนของประกาศ คสช. ฉบับที่ 27 กรณีปัญหาสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ระบบอนาล็อกพ้นจากฟรีทีวีตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา จะสามารถออกอากาศผ่านดาวเทียมและเคเบิลทีวีต่อไปได้หรือไม่ ตามที่มีการเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

วานนี้ (3 ก.ย.) พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้เชิญผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล และบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ช่อง 3) มาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันในกรณีดังกล่าว

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับช่อง 3 และผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล 24 ช่อง ว่า กสท. เตรียมส่งหนังสือแจ้งผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมห้ามออกอากาศช่อง 3 ในระบบอนาล็อกอีก โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วันต่อจากนี้ เนื่องจากขณะนี้ กสท. มีอำนาจเต็มที่ในการดำเนินการเรื่องนี้จากการที่คสช. มีคำสั่งชัดเจนแล้วว่า ประกาศ คสช. ฉบับที่ 27 ไม่เคยก้าวล่วงการจัดระเบียบการออกอากาศของระบบอนาล็อกใดๆ ดังนั้น ให้ กสท. ไปจัดการในเรื่องนี้เอง

"ช่อง 3 ควรหยุดอ้างประกาศ คสช. ได้แล้ว และหันเข้าสู่การแข่งขันในอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลปกติ ซึ่ง กสท. พร้อมเคลียร์ปัญหาข้อกฎหมายทั้งหมดที่จะทำให้ช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนานได้ ทั้งประเด็นผังรายการดิจิตอลซ้ำกับบริษัทคู่สัญญาสัมปทานของ อสมท. และประเด็นที่ช่อง 3อนาล็อกกับช่อง 3 ดิจิตอล เป็นคนละนิติบุคคล กสท. พร้อมช่วยเหลือทุกอย่าง"น.ส.สุภิญญากล่าว

อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงของช่อง 3 ไม่ได้เข้าร่วม ได้ส่งแต่ทนายความมาเท่านั้น ส่งผลให้ไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากทางช่อง 3 เพราะตัวแทนที่เข้าร่วมไม่มีอำนาจในการตัดสินใจใดๆ

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. กล่าวว่า ระหว่างที่ทุกอย่างยังอยู่ในช่วงดำเนินการ จะไม่มีผลต่อการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อกบนโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล เพื่อไม่กระทบกับการรับชมของประชาชน และมั่นใจว่าช่อง 3 มีความพร้อมเต็มที่ที่จะเข้าสู่การออกอากาศทีวีดิจิตอล เนื่องจากชนะประมูล 3 ช่อง รวมราคาสูงที่สุดกว่า 6,000 ล้านบาท

"ต้องการใช้วิธีประนีประนอมมากกว่าการใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าดำเนินการ ดังนั้น หากช่อง 3 ติดขัดในเรื่องใด สามารถเสนอปัญหามาที่ กสท. ได้ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทางออกที่ดีกว่าวิธีการฟ้องร้อง"

***"ไพบูลย์"จวก กสทช. อย่าเลอะเทอะ

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) กล่าวว่า ประกาศของ คสช. ทุกฉบับตั้งแต่ฉบับแรกวันที่ 22, 23, 27 พ.ค. ไม่มีฉบับใดหรือข้อไหนที่บอกเรื่องการจัดการความถี่เรื่องนี้เลย เริ่มตั้งแต่คำสั่งฉบับแรก เป็นการประกาศให้สถานีโทรทัศน์หยุดทำการ ต่อมาเริ่มให้ฟรีทีวี และสถานีวิทยุออกอากาศได้ ยกเว้นวิทยุชุมชน จากนั้นได้ประกาศอนุญาตให้ทีวีระบบบอกรับสมาชิกออกอากาศได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือในเรื่องเนื้อหา จนถึงขณะนี้ทีวีของช่องสีเสื้อต่างๆ ก็ออกอากาศได้จนครบทุกสถานี

"ผมอ่านคำสั่ง คสช.ทุกฉบับอย่างละเอียดมา 2-3 วัน ยังไม่เห็นว่าตรงไหนไปเกี่ยวข้องกับการจัดระบบของ กสทช. จึงขอฝากไปบอกด้วยเลยตรงนี้ว่าไม่ต้องมาถามผม จะต้องมาถามทำไม ไปทำหน้าที่ของตัวเอง"

***ทีวีดิจิตอลโวย2มาตรฐาน

นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้บริหารไทยทีวี กล่าวว่า ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลกว่า 20 ช่อง ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับช่อง 3 โดยตรง แต่ต้องการให้ กสท. ดำเนินการต่อช่อง 3 ด้วยบรรทัดฐานเดียวกันกับช่อง 7 ช่อง 9 และไทยพีบีเอส เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบ 2 ประการ คือ ประการแรก คูปองที่ กสทช.แจก จะไม่มีคนนำไปแลกกล่องเซ็ต ท็อปบ็อกซ์ หรือทีวีที่รับสัญญาณดิจิตอล เพราะคนดูไม่สามารถดูช่อง 3 ระบบอะนาล็อกผ่านกล่องหรือทีวีในระบบดังกล่าวได้ อีกประการหนึ่ง คือ กระบวนการเปลี่ยนผ่านจากอะนาล็อกไปสู่ดิจิตอลก็จะมีปัญหา ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ช่อง 3 ออกอากาศแบบคู่ขนาน คือ รายการของช่อง 3 ทั้งระบบอะนาล็อก และดิจิตอลต้องมีเนื้อหาเหมือนกัน

ส่วนประกาศของคสช. ฉบับที่ 27 ที่ช่อง 3 กล่าวอ้างนั้น เป็นการประกาศออกมาคนละเจตนารมณ์กัน การประกาศดังกล่าวออกมาหลังจากที่ คสช.ประกาศงดการเผยแพร่ของสถานีโทรทัศน์เป็นการชั่วคราว

***ซัดช่อง3 รักษาผลประโยชน์ตัวเอง

นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ เจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด (ไทยรัฐทีวี) กล่าวว่า รู้สึกประหลาดใจมากที่ กสท.ต้องส่งหนังสือสอบถาม คสช.ด้วย และ คสช.ก็ออกมาให้ข่าวแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ คสช.เป็นหน้าที่การตัดสินใจของ กสทช. มากกว่า ถ้าช่อง 3 จะออกแบบคู่ขนานก็ต้องลดโฆษณาจาก 10 นาทีของระบบอะนาล็อกเป็น 6 นาที ตามกฎของระบบดิจิตอล ส่วนประกาศของ คสช.ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องมัสแคร์รี ของ กสท. ดังนั้น จึงเข้าใจว่าช่อง 3 ต้องการรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองมากกว่า

***อสมท พร้อมแก้ไขสัญญาสัมปทาน

นายพลชัย วินิจฉัยกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท ระบุว่า ช่อง 3 ควรอยู่ภายใต้สัญญาและกติกาใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งในฐานะคู่สัญญาสัมปทานกับช่อง 9 ที่ผ่านมา ถือว่าช่อง 3 เป็นคู่สัญญาที่ดีมาโดยตลอด แต่เมื่อเกิดสัญญา และกติกาใหม่ ช่อง 3 ควรคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด วันนี้การระดมความเห็นน่าจะมีทางออกที่ดี และในฐานะผู้ประกอบการเข้าใจถึงเจตนารมย์ของ กสทช. ที่คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก ความจริงสัญญาสัมปทานสามารถแก้ไขได้ โดยช่อง 3 ต้องเข้ามาเจรจา และช่อง 9 ก็ยินดีเจรจาด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาแต่อย่างใด และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ยกเลิกสัญญาสัมปทานกับช่อง 3 การเป็นคู่แข่งขันกันไม่ได้หมายความว่าไม่เป็นพันธมิตรกัน

***แนะช่อง3ขอออกอากาศคู่ขนาน

นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ผู้บริหารช่องเนชั่น ระบุว่า ต้องการให้ กสท.เป็นเจ้าภาพในการหาทางออกร่วมกัน โดยการเชิญผู้ประกอบการโครงข่ายดิจิตอลมาหารือด้วย เนื่องจากขณะนี้โครงข่ายยังไม่เรียบร้อย ส่วนประเด็นช่อง 3 อะนาล็อก น่าจะมีทางออกร่วมกันได้ หากช่อง 3 นำผังรายการมาออกอากาศคู่ขนาน ก็จะทำให้ผู้ประกอบการทุกรายเดินไปพร้อมกันได้ มีการแข่งขันอย่างเท่าเทียม และไม่ควรดึงประกาศฉบับ 27 ของ คสช.มาเกี่ยวข้อง และทาง พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช.ระบุชัดเจนว่า ไม่ควรดึง คสช.เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ ทางออกมองว่า ช่อง 3 ควรไปขอใบอนุญาตออกอากาศคู่ขนานตามกฎมัสแครี จึงต้องการให้ กสท.ยึดและทำตามประกาศเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2557

***ช่อง3ดื้อตาใสยันออกอากาศเหมือนเดิม

นายสุรินทร์ กฤติยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวว่า ตามที่ทางช่อง3ได้ออกคำชี้แจงเหตุผลที่ยังไม่ออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิอตล ซึ่งมีอยู่ 8 ข้อ ในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นแนวทางที่ชัดเจนของทางช่อง3 ว่าจะยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนเดิมที่วางไว้ตั้งแต่ต้น โดยจะยังคงออกอากาศในระบบภาคพื้นดิน ตามสัญญาสัมปทานที่ทำไว้กับทางช่อง 9 และจะหมดสัญญาลงในปี 2563 จึงจะย้ายไปอยู่บนแพลทฟอร์มทีวีดิจิตอล

อย่างไรก็ตาม บริษัทเล็งเห็นความสำคัญกับทีวีดิจิตอลที่มองเป็นโอกาสในอนาคตเช่นกัน จึงได้ประมูลมาถึง 3 ช่อง ด้วยเม็ดเงินสูงถึง 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดของผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด หาก กสทช. ต้องการให้ทางช่อง3ออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิตอลเร็วกว่าแผนที่บริษัทวางไว้ ทางช่อง3ก็พร้อมที่จะหารือด้วย โดยยังคงไว้ที่แผนเดิมอย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้น และในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณหรือถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมพูดคุยกับ กสทช. แต่อย่างไร

“ช่วงที่มีการประมูลช่องทีวีดิจิตอล ไม่ได้มีกฏออกมาว่าจะต้องให้ทางฟรีทีวีที่ออกอากาศอยู่ต้องออกคู่ขนานกับทางทีวีดิจิตอล ซึ่งทางช่อง3ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น การที่จะให้ช่อง3ออกคู่ขนานไปกับทีวีดิจิตอลจึงไม่ใช่แผนที่บริษัทวางไว้ ยกเว้นหากทีวีดิจิตอลเกิดขึ้นได้เร็ว มีความพร้อมในหลายด้าน เช่น โครงข่าย การเข้าถึงผู้ชม ช่อง3ก็อาจจะย้ายไปอยู่บนช่องทีวีดิจิตอลได้เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ แต่การจะให้ใครมาชี้ให้ช่อง3ต้องออกคู่ขนานทีวีดิจิตอลนั้นคงทำไม่ได้ ที่สำคัญบริษัทดำเนินธุรกิจไปตามกฏหมายและข้อบังคับ ไม่ได้ใช้ช่องว่างทางกฏหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตน ซึ่งทางช่อง3ยินดีที่จะเข้าร่วมปรึกษากับ กสทช. โดยมองว่าพื้นฐานของการหารือกันครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้ แต่ควรเป็นการหาทางออกร่วมกัน”นายสุรินทร์กล่าว

***โบ้ยแจกคูปองล่าช้าทีวีดิจิตอลไม่เกิด

นายสุรินทร์กล่าวว่า ปัญหาทีวีดิจิตอลที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ได้อยู่ที่ช่อง 3 เป็นหลัก การจะทำให้ทีวีดิจิตอลเกิดขึ้น กสทช. ควรมุ่งปรับปรุงโครงข่ายให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เร่งแจกคูปอง เพื่อให้ประชาชนนำไปซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล

ส่วนผลกระทบในด้านโฆษณา ระยะแรกเอเจนซี่มีข้อวิตกบ้าง แต่ช่อง 3 ได้ชี้แจงไปแล้วยังเดินตามผังรายการเดิม และหากมีปัญหาจอดำ ก็พร้อมจะรับผิดชอบ ทำให้ลูกค้ามั่นใจและซื้อโฆษณาต่อเนื่อง ทำให้ทั้งปีจะมีรายได้เติบโต 20% ตามแผนที่วางไว้

***มึนช่อง3ใช้เวลาเรื่องเล่าแก้ต่างนานมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ก.ย. ของนายสุรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้ใช้เวลานานมาก เพื่อชี้แจงแถลงการณ์ของช่อง 3 เกี่ยวกับการออกอากาศในระบบอนาล็อก และปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับช่อง 3

***เคาะแจกคูปองทีวีดิจิตอล690บาท

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช.จะเริ่มแจกคูปองเงินสดส่วนลดสำหรับแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีระบบดิจิตอลสำหรับภาคพื้นดิน มูลค่า 690 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.2557 ผ่านทางไปรษณีย์จนครบประมาณ 11.45-11.89 ล้านครัวเรือน รวม 45 จังหวัดภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นภายใน 2 ปี ต้องแจกให้ครบทั้งหมด 77 จังหวัด ครอบคลุม 22.9 ล้านครัวเรือน ภายใต้งบประมาณ 16,165.265 ล้านบาท โดยคูปองจะมีอายุ 6 เดือน หากประชาชนไม่ใช้ ก็ไม่ต้องส่งคืน สามารถทำลายทิ้งได้ ซึ่งาคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้สิทธิแลกเพียง 80% เท่านั้น เพราะบางคนก็อาจจะมีกล่อง หรือทีวีรับสัญญาณดิจิตอลอยู่แล้ว

***เตรียมทบทวนค่าชดเชยอาร์เอส

นายฐากรกล่าวอีกว่า ได้มีการพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับการจ่ายเงินเยียวยาเรื่องบอลโลกให้แก่ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) โดยได้ให้คณะอนุกรรมการของ กสทช. ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของวงเงินการเยียวยาเรื่องบอลโลกให้แก่ อาร์เอส กลับไปทบทวนวงเงินที่เสนอไว้ 220 ล้านบาทอีกครั้ง เพราะเป็นวงเงินที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ กสทช.อนุมัติไปก่อนหน้านั้นที่วงเงินไม่เกิน 427 ล้านบาท และให้นำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช. ในวันที่ 17 ก.ย.นี้

"เรากำลังเร่งรัดเรื่องนี้อยู่ เพราะทางอาร์เอสก็สอบถามมาโดยตลอด เพราะผมก็กลัวถูกฟ้องเหมือนกัน"

***จ่อเรียกบิ๊กช่อง3รับข้อหารุกป่าภูเรือ

พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) กองทัพภาคที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จังหวัดเลย กล่าวภายหลังร่วมปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าเขตอ.ภูเรือ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ ว่า การยึดคืนพื้นที่ป่าครั้งนี้ 10 แปลง มีอยู่ 1 แปลงทราบว่าเป็นบ้านพักของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 อยู่บริเวณบ้านหนองบง หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ เนื้อที่ 184 ไร่ บนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปลือย ป่าภูขี้เภ้า และป่าภูเรือ ซึ่งจะประสานไปยังผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น