xs
xsm
sm
md
lg

ศาลให้ประกันตัว‘สนธิ’ 12ช่องดาวเทียมใกล้เฮ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ศาลฎีกาอนุญาตให้ประกันตัว “สนธิ ลิ้มทองกุล” และพวกอีก 2 คนแล้ว โดยให้เพิ่มวงเงินประกันเป็นคนละ 12 ล้านบาท ด้าน กสทช. เรียก 12 ช่องทีวีดาวเทียมเซ็นเอ็มโอยูวันนี้ (26ส.ค.)ก่อนนำเข้าบอร์ดกสท.วาระพิเศษในวันพุธที่ 27 ส.ค. เพื่อให้ออกอากาศได้ โดยไม่ต้องรอถึงสัปดาห์หน้า พร้อมยกเลิกประกาศจัดเรียงช่อง เล็งออกประกาศใหม่บังคับช่องทีวีดิจิตอลอยู่ที่ 1-36 ส่วน 37-60 ขึ้นอยู่กับแต่ละผู้ประกอบการ

จากกรณีคดีหมายเลขดำ อ.1036/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร เป็นโจทก์ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอื่นๆ โดยมีนายสุรเดช มุขยางกูร อดีตกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ฯ และ น.ส.วยุพิน จันทนา อดีตกรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ฯ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นั้น รายงานข่าวช่วงเย็นวันนี้ (25 ส.ค.) แจ้งว่า ศาลฎีกาอนุญาตให้ประกันตัวนายสนธิ และพวกอีก 2 คน โดยให้ใช้หลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจากเดิม 10 ล้านเป็นคนละ 12 ล้านบาท

อนึ่ง นายสนธิและพวกถูกจำคุกตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังศาลอาญา รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง โดยตัดสินให้มีความผิดรวม 17 กระทงลงโทษ กระทงละ 5 ปี รวม 85 ปี แต่ให้รับโทษสูงสุด 20 ปี

โดยนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้มอบอำนาจให้เสมียนทนายความมาฟังคำสั่งศาลฎีกาที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ฯ และ น.ส.ยุพิน จันทนา อดีตกรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ฯ จำเลยที่ 1, 3 และ 4 ได้คำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำคุก เป็นเวลา 20 ปี ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1, 3 และ 4 ยื่นฎีกาโดยมีผู้พิพากษาที่ได้พิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาชั้นต้นคดีดังกล่าวได้อนุญาตให้ฎีกา ซึ่งศาลได้มีคำสั่งรับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแล้ว ประกอบกับจำเลยที่ 1, 3 และ 4 ได้รับอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์หลบหนีมาก่อนในชั้นนี้ จึงเห็นสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยที่ 1, 3 และ 4 ระหว่างฎีกา โดยตีราคาประกันคนละ 12 ล้านบาท โดยให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป

ภายหลังนายประกันของจำเลยทั้งสาม ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพ คนละ 12 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกาสู้คดี ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำหมายศาลไปยังเรือนจำกลางคลองเปรมและฑัณสถานหญิงกลาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวตามคำสั่งศาล ต่อไป คาดว่าจะสามารถปล่อยตัวได้ในเวลาประมาณ 19.00 น.-20.00 น.

*** กสทช.นัด 12 ช่องดาวเทียมเซ็นMOU

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสท.วันที่ 25 ส.ค.ได้มีการพิจารณารับทราบหนังสือจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกี่ยวกับการขออนุมัติการออกอากาศของสถานีดาวเทียม ตามประกาศฉบับที่ 15/2557 ลงวันที่ 22 พ.ค.2557 ให้โทรทัศน์ดาวเทียมทั้ง 12 ช่อง ที่ได้รับการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ของ กสทช.กลับมาออกอากาศได้

โดยผู้ประกอบการทั้ง 12 ราย ต้องทำตามเงื่อนไข อย่างเช่น การเปลี่ยนชื่อใหม่, มีการปรับผังรายการ และจัดทำบันทึกข้อตกลงกับทาง กสทช.ในส่วนของเนื้อหารายการ ส่วนสถานีที่เคยมีใบอนุญาตบริการโทรทัศน์ประเภทไม่ใช้คลื่นความถี่ จะต้องขอยกเลิกใบอนุญาตเดิม และขอใบอนุญาตด้วยชื่อช่องใหม่แทน

ส่วนในอนาคตหลังจากออกอากาศแล้ว ถ้าช่องใดมีการดำเนินการที่ขัดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายตามที่ถูกร้องเรียนต่อไป รวมถึงเนื้อหารายการต้องไม่กระทบความสงบเรียบร้อย หรือขัดต่อประกาศที่เกี่ยวข้อง ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ต้องมีโอกาสที่ กสทช.จะพิจารณายกเลิกใบอนุญาตได้

“คาดว่าสัปดาห์หน้าหลังจากที่ช่องรายการทั้ง 12 ช่อง ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ทางสำนักงาน กสทช. จะนำเสนอเรื่องเพื่อเข้าพิจารณาในประชุมบอร์ดครั้งต่อไป เพื่อพิจารณาให้อนุญาตออกอากาศได้ โดยไม่ต้องส่งเรื่องให้ทาง คสช.”

สำหรับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2557 ลงวันที่ 22 พ.ค.2557 ประกอบไปด้วย 1.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 2.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมดีเอ็นเอ็น 3.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี 4.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเชียอัพเดท 5.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีแอนด์พี 6.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมโฟร์แชนแนล 7.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย 8.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี 9.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี 10.สถานีดาวเทียมฮอตทีวี 11.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเร็สคิ้ว 12.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูประเทศ (คปท.)

นอกจากนี้ ยังมีการพิจาณายกเลิกประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พ.ศ.2556 จากกรณีที่ทางทรู วิชั่นส์กรุ๊ป ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้เพิกถอนประกาศ กสทช. 3 ฉบับ ได้แก่ ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การกำหนดหมวดหมู่และการจัดลำดับบริการโทรทัศน์ที่ไม่ใช่คลื่นความถี่ พ.ศ.2556 ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พ.ศ.2556 และประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2555 ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้รับคำฟ้องเฉพาะประเด็นการขอให้เพิกถอนประกาศฯ หลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พ.ศ.2556 เท่านั้น

“ที่ประชุมมีการพิจารณาให้ยกเลิกประกาศฉบับเดิม ซึ่งใช้เวลาพิจารณามากว่า 1 เดือนแล้ว และออกประกาศฉบับใหม่แทนเพื่อให้มูลเหตุการฟ้องร้องคดีหายไป ที่สำคัญคือ ประชาชนจะได้ไม่สับสน และเยียวยาให้แก่ผู้ประกอบการและเคเบิลทีวี ให้นำช่องรายการที่ต้องการมาออกอากาศในลำดับต้นๆ”

โดยก่อนหน้านี้ หลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พ.ศ.2556 ระบุให้ผู้ประกอบการสามารถจัดเรียงช่องใดๆ ก็ได้มาออกอากาศในลำดับที่ 1-10 แต่ประกาศฉบับใหม่จะทำให้การรับชมทีวีที่ให้บริการเป็นการทั่วไป จะมีหมายเลขตรงกันคือ 1-36 และเพื่อที่จะเยียวยาให้กลุ่มดาวเทียม หรือเคเบิล ให้ไปจัดเรียงในช่อง 37-60 แทน โดยกระบวนการจัดทำร่างจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ก่อนประกาศใช้ต่อไป

ส่วนกรณีที่ กสทช.สั่งให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ต้องสิ้นสุดการทำหน้าที่โทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (มัสต์เครี) ในวันที่ 25 พ.ค.2557 และยืดระยะเวลาการออกอากาศเพิ่มอีก 100 วัน ทางที่ประชุมไม่ได้ขยายระยะเวลาเพิ่มเติมให้อีก ทำให้การขยายระยะเวลาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 กันยายน 2557 แต่จากประกาศของ คสช.ฉบับที่ 27/2557 กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรทัศน์ที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ออกอากาศรายการประจำของสถานีได้ตามปกติ ผ่านทางระบบการใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ระบบผ่านดาวเทียม และเคเบิล ทำให้ยังสามารถออกอากาศได้ต่อไป

ทั้งนี้ ถ้ามีการประกาศหลักเกณฑ์การจัดเรียงช่องใหม่ ก็จะส่งผลให้ช่อง 3 อะนาล็อก ไม่สามารถออกอากาศในช่องระหว่าง 1-36 ได้ แต่จะขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ดาวเทียม ที่จะนำช่องพิเศษไปจัดเรียงในระหว่างช่อง 37-60 แทน.

***กสท.ประชุมด่วนพุธนี้

ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ระบุให้ทีวีดาวเทียมทั้ง 12 ช่องมาลงนามใน MOUกับสำนักงานกสทช. ในวันอังคารที่ 26 ส.ค.นี้ เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมกสท.วาระพิเศษในวันพุธที่ 27 ส.ค.ที่จะถึงนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น