xs
xsm
sm
md
lg

ยิงนศ.เทคโนฯกรุงเทพดับ รับศพเหยื่อรับน้องโหด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สองคนร้ายกระหน่ำยิงวิศวะเครื่องกล ปี 1 ม.เทคโนโลยีกรุงเทพ ดับคาฟุตปาธ ซอยรามคำแหง 107 ตำรวจคาดสถาบันคู่อริล้างแค้นมั่ว “พ่อ-แม่” ร่ำไห้รับศพบุตรชาย นศ.ปวช. ปี 1 เหยื่อรับน้องเทคนิคปทุมธานี นิติเวชเผยระบบหายใจ และระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว รอผลตรวจชิ้นเนื้ออีก 2 เดือน ด้านสอศ.ตั้งคกก.สืบข้อเท็จจริงผอ.เทคนิคปทุมธานี เหตุละเลยจนทำให้เกิดเหตุรับน้องจนมี นศ.เสียชีวิต พร้อมส่งหนังสือเวียนซักซ้อมมาตรการรับน้องไปยังวิทยาลัยทั่วประเทศ ยันไม่มีนโยบายจัดรับน้อง ขณะที่ ผอ.เทคนิคปทุมธานี เผย นศ.ยันเต็มใจร่วมกิจกรรมรับน้อง

วานนี้ (1 ก.ย.) ร.ต.ท.พิเชษฐ แสงหาชัย พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในซอยรามคำแหง 107 (ซอยวัดศรีบุญเรือง) หน้าอาคารอัสสกาญจน์เพลส เลขที่ 231 อาคาร 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.กก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.หัสดินทร์ นพวงศ์ ณ อยุธยา สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุห่างจากปากซอยประมาณ 200 เมตร บนทางเท้าพบศพชายสภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อเเขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ใบหน้า 3 นัด และแขนซ้าย 3 นัด รวม 6 นัด ทราบชื่อคือ นายพัชร กัมพลาศิริ อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษาชั้นที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ใกล้กันพบกระเป๋ากีฬา และซองบุหรี่ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ.พรชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายพัชร เคยเรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ เมื่อ 3 ปีก่อน จากนั้นมาสอบเข้าที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ซึ่งเรียนได้เพียงแค่ 2 สัปดาห์ โดยทุกวันนายพัชร จะใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อเดินทางไปเรียนทุกวัน ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ไม่ทราบรูปพรรณสัณฐาน ขับจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟิโน่ สีน้ำตาล ไม่ติดป้ายทะเบียน ขับมาจอดบริเวณฝั่งตรงข้ามอาคารดังกล่าว จากนั้นเรียกนายพัชร เมื่อนายพัชร หันไปมอง คนร้ายจึงกระหน่ำยิงในระยะเผาขนแบบไม่ยั้ง ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทางถนนรามคำแหง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานการก่อเหตุ น่าจะมาจากการล้างแค้นของสถาบันคู่อริ เพราะไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนหน้านี้ ขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

พ่อแม่ร่ำไห้รับศพ เหยื่อรับน้องเทคนิคปทุมฯ

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นายภาณุพงษ์ นางศิริวิมล แสงโรจน์รัตน์ บิดา-มารดาของนายโภไคย แสงโรจน์รัตน์ อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ที่เสียชีวิตระหว่างรับน้องที่ริมหาดทรายน้อย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา มารับศพบุตรชาย เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศุลที่วัดชินวราราม ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็นเวลา 3 วัน

นายภาณุพงษ์ กล่าวว่า ตนและครอบครัวรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอให้เป็นกรณีสุดท้าย และขอให้แก้ไขหรือทำอะไรที่ดีกว่านี้ เพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความละอายใจ และขอเรียกร้องไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้คิดหาวิธีรับน้องใหม่ที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากอยู่ระหว่างรอการประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยช่วงนี้ขอให้ทำพิธีศพบุตรชายให้เรียบร้อยก่อน

ด้านนางศิริวิมล กล่าวว่า มีบุตรชายเพียงคนเดียว และยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก แต่ลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว จากนี้ต้องพยายามใช้ชีวิตต่อไปตามปกติให้ได้

ทั้งนี้ เบื้องต้นผลการผ่าชันสูตรแพทย์ระบุว่า เสียชีวิตเนื่องจากระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ส่วนผลการตรวจอย่างละเอียดต้องรอผลอีกประมาณ 2 เดือน

ด้านพล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวช กล่าวว่า แพทย์นิติเวช ได้ตรวจร่องรอยภายนอกก่อนทำการผ่าพิสูจน์ พบว่าตามร่างกายมีบาดแผล รอยถลอก ฟกซ้ำ แต่ก็เป็นรอยฟกซ้ำเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก และไม่ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งขณะนี้ทีมแพทย์ได้ผ่าเพื่อนำชิ้นเนื้อพิสูจน์ และตรวจหาสารพิษ เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งต้องรอผลอีกสักระยะ ส่วนกรณีที่มีพยานเห็นว่า มีการกรอกแอลกอฮอล์ใส่ปากผู้ตายก่อนเสียชีวิตนั้น ตรงนี้สามารถตรวจสอบได้

พ.ต.อ.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ นายแพทย์(สบ 5) กลุ่มงานนิติพยาธิ สถาบันนิติเวชวิทยา กล่าวว่า เบื้องต้นพบมีน้ำอยู่ในช่องอกจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังเคยมีประวัติการจมน้ำ ซึ่งสาเหตุการตายคาดว่าน่าจะเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ทั้งนี้ต้องตรวจพิสูจน์ชิ้นเนื้ออย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุการตายที่แท้จริง

สอศ.ตั้งคกก.สอบผอ.เทคนิคปทุมธานี

นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีการรับน้องที่ปรากฎเหตุการณ์มีนักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีเสียชีวิต โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว โดยผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคก็จะต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่าน ศธ.ได้มีการหารือเพื่อหามาตรการป้องกันเหตุการรับน้องรุนแรงมาต่อเนื่อง โดยหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในกำกับทั้งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รวมทั้ง สอศ.ได้มีการออกแนวปฏิบัติว่าการรับน้องต้องจัดอย่างสร้างสรรค์ไม่กระทบสิทธิมนุษยชน ห้ามจัดนอกสถานศึกษา และการจัดกิจกรรมรับน้องจะต้องมีครูอาจารย์ดูแลอย่างใกล้ชิด มีส่วนร่วมในการดูแลร่วมกันซึ่งป้องกันได้

“ ปัญหาการรับน้องนั้นก็เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นห่วงและกำชับให้ดูแลอย่าให้เกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งวันนี้ที่ประชุมก็ได้เน้นย้ำกับองค์กรหลักอีกครั้งด้วยว่าขอให้เข้มงวด ตรวจตรา หากเกิดเหตุใดขึ้นผอ.สถานศึกษาก็ต้องรับผิดชอบแม้ว่าเด็กจะไปกันเอง ”นางสุทธศรี กล่าว

ด้าน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลงนามในคำสั่ง สอศ.ที่ 1142/57 ลงวันที่ 1 ก.ย.2557 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นายขวัญชัย พานิชการ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี โดยมี นายสิทธิศักดิ์ รัตนพาณิชย์ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง สอศ.เป็นประธาน ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเสนอผลการสืบสวนมายังตนเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป

ผอ.เทคนิคปทุมธานียันนศ.เต็มใจร่วมกิจกรรม

วานี้ (1 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นายขวัญชัย พานิชการ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ส่งรองผอ.วิทยาลัยไปตรวจสอบข้อมูลและประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่าผลการชันสูตรเบื้องต้นไม่มีหลักฐาน หรือร่องรอยการทำร้ายร่างกาย และทราบจากการสอบถามผู้ปกครองว่าผู้ปกครองได้แจ้งในใบมรณบัตรว่า สาเหตุการเสียชีวิตเพราะระบบโลหิตล้มเหลว ซึ่งเด็กที่เสียชีวิตป่วยโรคลูคีเมียอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง ส่วนประเด็นเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น จากการสอบถามนักศึกษาที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนว่า นักศึกษาที่เสียชีวิตรายดังกล่าว ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ และไม่ชัดเจนว่ามีการบังคับให้ดื่มหรือไม่ แต่นักศึกษายอมรับว่าในกิจกรรมครั้งนี้ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วยแต่ใครจะดื่มหรือไม่ดื่มก็ได้ อย่างไรก็ตาม เด็กที่ไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้มีทั้งสิ้น 54 คน เป็นศิษย์ปัจจุบัน 27 คน ศิษยเก่า 12 คนและรุ่นน้อง 15 คน ซึ่งในส่วนของศิษย์เก่าคาดว่าจะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ขณะที่ศิษย์ปัจจุบันนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายแล้ว ทางวิทยาลัยจะต้องลงโทษตามระเบียบของวิทยาลัย

ในส่วนของการช่วยเหลือครอบเด็กที่เสียชีวิตนั้น ทางวิทยาลัยได้ประสานกับบริษัทประกันชีวิต เพราะทางวิทยาลัยได้ทำประกันชีวิตหมู่ไว้ นอกจากนี้วิทยาลัยและสมาคมผู้ปกครองจะมอบเงินช่วย 40,000 บาทให้แก่ผู้ปกครองเด็กด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น