สอศ. ตั้ง คกก. สืบข้อเท็จจริง “ขวัญชัย” ผอ.เทคนิคปทุมธานี เหตุละเลยจนทำให้เกิดเหตุรับน้องจนมี นศ. เสียชีวิต โดยเร่งสรุปผลรายงานโดยเร็ว พร้อมส่งหนังสือเวียนซักซ้อมมาตรการรับน้องไปยังวิทยาลัยทั่วประเทศ ยันไม่มีนโยบายจัดรับน้อง ขณะที่ ปลัด ศธ. ย้ำองค์กรหลักให้ติดตาม ตรวจสอบการรับน้องอย่าปล่อยให้เกิดเหตุ
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีการรับน้องที่ปรากฎเหตุการณ์มีนักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีเสียชีวิต โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รายงานว่าเหตุการณ์รับน้องที่บริเวณหาดทรายน้อย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี จนเป็นเหตุให้มีนักศึกษาเสียชีวิตนั้น กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะรุ่นพี่หัวโจกมาชักชวนรุ่นน้องไปโดยที่ทางสถาบันไม่ทราบเรื่องและขณะนี้ สอศ. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว โดยผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคก็จะต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ศธ. ได้มีการหารือเพื่อหามาตรการป้องกันเหตุการณ์รับน้องรุนแรงมาต่อเนื่อง โดยหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในกำกับทั้งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รวมทั้ง สอศ. ได้มีการออกแนวปฏิบัติว่าการรับน้องต้องจัดอย่างสร้างสรรค์ไม่กระทบสิทธิมนุษยชน ห้ามจัดนอกสถานศึกษา และการจัดกิจกรรมรับน้องจะต้องมีครูอาจารย์ดูแลอย่างใกล้ชิด มีส่วนร่วมในการดูแลร่วมกันซึ่งป้องกันได้
“ ปัญหาการรับน้องนั้นก็เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความเป็นห่วงและกำชับให้ดูแลอย่าให้เกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งวันนี้ที่ประชุมก็ได้เน้นย้ำกับองค์กรหลักอีกครั้งด้วยว่าขอให้เข้มงวด ตรวจตรา หากเกิดเหตุใดขึ้น ผอ.สถานศึกษาก็ต้องรับผิดชอบแม้ว่าเด็กจะไปกันเอง ต้องมีการติดตามหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้เท่าทันกับพฤติกรรมของนักเรียนด้วย เพื่อจะได้ป้องกันเหตุได้ทัน” นางสุทธศรี กล่าว
ด้าน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลงนามในคำสั่ง สอศ.ที่ 1142/57 ลงวันที่ 1 ก.ย. 2557 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นายขวัญชัย พานิชการ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี กรณีปล่อยปละละเลยให้นักศึกษารุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้อง จนเกิดเหตุร้ายแรงส่งผลให้ นายโภคัย แสงโรจน์รัตน์ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 1 สาขาวิชาช่างก่อสร้างเสียชีวิตแล้ว โดยมี นายสิทธิศักดิ์ รัตนพาณิชย์ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง สอศ. เป็นประธาน ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเสนอผลการสืบสวนมายังตนเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป ส่วนการดำเนินการกับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุนั้นได้กำชับสถานศึกษาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ดำเนินการตามระเบียบกับครู นักเรียนนักศึกษาที่ร่วมก่อเหตุทุกคน รวมทั้งให้ดูแลนักเรียนนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ด้วย
“ได้ออกหนังสือเวียนถึงผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด สอศ. ทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการรับน้องและการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้เรียนอย่างมีคุณภาพและมีความสุข โดยยืนยันว่า สอศ.ไม่มีนโยบายให้สถานศึกษาในสังกัดจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ การจัดกิจกรรมนอกสถานศึกษาไม่ว่าจะจัดโดยครู อาจารย์ หรือกลุ่มนักเรียนนักศึกษา จะต้องขออนุญาตจากผู้บริหารสถานศึกษาและต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง โดยกิจกรรมต้องเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ส่งเสริมความประพฤติ พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมและส่วนรวม ที่สำคัญ ต้องไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งร่างกายและจิตใจ และต้องไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาใช้ในการจัดกิจกรรมทุกประเภท โดยให้สถานศึกษากำหนดมาตรการเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด และให้ผู้ปกครองเข้ามาช่วยสอดส่องด้วย” นายชัยพฤกษ์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีการรับน้องที่ปรากฎเหตุการณ์มีนักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีเสียชีวิต โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รายงานว่าเหตุการณ์รับน้องที่บริเวณหาดทรายน้อย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี จนเป็นเหตุให้มีนักศึกษาเสียชีวิตนั้น กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะรุ่นพี่หัวโจกมาชักชวนรุ่นน้องไปโดยที่ทางสถาบันไม่ทราบเรื่องและขณะนี้ สอศ. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว โดยผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคก็จะต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ศธ. ได้มีการหารือเพื่อหามาตรการป้องกันเหตุการณ์รับน้องรุนแรงมาต่อเนื่อง โดยหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในกำกับทั้งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รวมทั้ง สอศ. ได้มีการออกแนวปฏิบัติว่าการรับน้องต้องจัดอย่างสร้างสรรค์ไม่กระทบสิทธิมนุษยชน ห้ามจัดนอกสถานศึกษา และการจัดกิจกรรมรับน้องจะต้องมีครูอาจารย์ดูแลอย่างใกล้ชิด มีส่วนร่วมในการดูแลร่วมกันซึ่งป้องกันได้
“ ปัญหาการรับน้องนั้นก็เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความเป็นห่วงและกำชับให้ดูแลอย่าให้เกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งวันนี้ที่ประชุมก็ได้เน้นย้ำกับองค์กรหลักอีกครั้งด้วยว่าขอให้เข้มงวด ตรวจตรา หากเกิดเหตุใดขึ้น ผอ.สถานศึกษาก็ต้องรับผิดชอบแม้ว่าเด็กจะไปกันเอง ต้องมีการติดตามหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้เท่าทันกับพฤติกรรมของนักเรียนด้วย เพื่อจะได้ป้องกันเหตุได้ทัน” นางสุทธศรี กล่าว
ด้าน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลงนามในคำสั่ง สอศ.ที่ 1142/57 ลงวันที่ 1 ก.ย. 2557 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นายขวัญชัย พานิชการ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี กรณีปล่อยปละละเลยให้นักศึกษารุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้อง จนเกิดเหตุร้ายแรงส่งผลให้ นายโภคัย แสงโรจน์รัตน์ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 1 สาขาวิชาช่างก่อสร้างเสียชีวิตแล้ว โดยมี นายสิทธิศักดิ์ รัตนพาณิชย์ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง สอศ. เป็นประธาน ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเสนอผลการสืบสวนมายังตนเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป ส่วนการดำเนินการกับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุนั้นได้กำชับสถานศึกษาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ดำเนินการตามระเบียบกับครู นักเรียนนักศึกษาที่ร่วมก่อเหตุทุกคน รวมทั้งให้ดูแลนักเรียนนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ด้วย
“ได้ออกหนังสือเวียนถึงผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด สอศ. ทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการรับน้องและการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้เรียนอย่างมีคุณภาพและมีความสุข โดยยืนยันว่า สอศ.ไม่มีนโยบายให้สถานศึกษาในสังกัดจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ การจัดกิจกรรมนอกสถานศึกษาไม่ว่าจะจัดโดยครู อาจารย์ หรือกลุ่มนักเรียนนักศึกษา จะต้องขออนุญาตจากผู้บริหารสถานศึกษาและต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง โดยกิจกรรมต้องเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ส่งเสริมความประพฤติ พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมและส่วนรวม ที่สำคัญ ต้องไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งร่างกายและจิตใจ และต้องไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาใช้ในการจัดกิจกรรมทุกประเภท โดยให้สถานศึกษากำหนดมาตรการเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด และให้ผู้ปกครองเข้ามาช่วยสอดส่องด้วย” นายชัยพฤกษ์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่