xs
xsm
sm
md
lg

ได้เวลาสัประยุทธ์กับปัญหา

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

คณะรัฐบาลประยุทธ์ 1 เปิดหน้าตาอย่างเป็นทางการแล้วครับช่วงวันหยุด ได้จังหวะเริ่มงานวันแรกของเดือนกันยายน โฉมหน้าเป็นใครบ้างก็ดูคุ้นตา ส่วนใหญ่เป็นหน้าเก่าที่เป็นข่าวในวงการของแต่ละคน ฝีมือบริหารบ้านเมืองเป็นอย่างไร ต้องใช้เวลาประเมิน

ถ้าจะว่ากันตั้งแต่ต้นยก ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ไร้ประสบการณ์ในงานการเมือง โดยเฉพาะนายทหารทั้งหลาย ถ้ายกเว้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คนอื่นๆ ไม่มีผลงาน เพราะเป็นมือใหม่หัดขับทั้งนั้น เพราะรับราชการทหารจนจะเกษียณสิ้นเดือนนี้

เราไม่ได้เห็นรัฐบาลทหารมานานแล้ว นับตั้งแต่ยุค “ถนอม-ประภาส” ก่อน 14 ตุลา 2516 โน่น จากนั้นมีทหารแทรกประปราย แต่ไม่มากถึงขนาดเกือบโหลดังเช่น ครม. ประยุทธ์ 1 ที่เหลือเป็นพลเรือนมืออาชีพถนัดในส่วนของตัวเองเพื่อช่วยงาน

จะว่าเป็นตัวทำงานหลักก็ได้ เช่น “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รมช.ต่างประเทศ ต้องเป็นแม่งานหลักสำหรับ รมต. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ในด้านการเจรจาจัดการเรื่องต่างประเทศ และเป็นลักษณะเดียวกันในกระทรวงพาณิชย์ ต้องอาศัยตัวช่วยเช่นกัน

“หม่อมอุ๋ย” “ดร.ณรงค์ชัย” เป็นรัฐมนตรีมาก่อน ผลงานก็ไม่ได้โดดเด่นเข้าตาประทับใจชาวบ้าน เพราะสถานการณ์ไม่เป็นใจ มาคราวนี้ก็ใช่ว่าจะเรียกเสียงฮือฮาจี๊ดจ๊าดได้ เพราะงานที่รับมานั้นเป็นระดับหินโหด อาศัยความศรัทธาเชื่อมั่นทั้งนั้น

โดยเฉพาะเรื่องพลังงาน เป็นยิ่งกว่าเผือกร้อน ผลประโยชน์เร้นลับและเปิดเผยมหาศาล นอกจากจะต้องรู้ทันคนในองค์กร เช่น กระทรวงพลังงาน บริษัทผู้ค้าน้ำมัน ผู้รับสัมปทาน ยังต้องทันเกม ใจถึง มือสะอาดไม่เป็นเหยื่อความเย้ายวนของเงินก้อนโต

ถ้าพลาดท่า เสียเชิง โอกาสประสบความล้มเหลว หรือเป็นแพะการเมืองมีมาก เพราะผลประโยชน์คาบเกี่ยวกับนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลทางการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่เขี้ยวยาว ชั้นเชิงสารพัดเล่นเกมแรงมีรัฐบาลหนุน

บริษัทน้ำมันของสหรัฐฯ ที่เป็นขาใหญ่ในอ่าวไทยนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน ถ้ามีปัญหากับรัฐบาลหรือคนไทย รัฐบาลไอ้กันต้องออกอาการนักเลงโตปกป้องผลประโยชน์เต็มที่ ในอดีตนั้นเคยจ่ายเงินหนุนรัฐประหาร ลอบสังหารผู้นำ บุกยึดประเทศเช่นอิรัก

จะให้คะแนนอย่างไร มีความเชื่อมั่นแค่ไหน เมื่อเห็นหน้าตา ความรู้ ประวัติ ฝีมือ ความสามารถของ ครม.ประยุทธ์ 1 ถ้าจะประเมินความประทับใจ ผมขอให้เบาะๆ 65 เปอร์เซ็นต์ สำหรับคะแนนเต็ม 100 นี่ถือว่ามากโขด้วยซ้ำเพราะมีแต่คนไร้ประสบการณ์

ให้แค่นี้ถือว่าเป็นระดับของการมองโลกสวย เพราะยังไม่เริ่มทำงานเลย ก็ได้คะแนนไป 65 เปอร์เซ็นต์ รัฐมนตรีหลายคนใช่ว่าจะมีประวัติกลิ่นหอมหวนทวนลม ออกแนวสีเทาด่างๆ กลิ่นตุๆ อีกต่างหาก โดยภาพรวมถือว่ายังให้เครดิตสำหรับการออกตัว

ต้องบอกว่า ครม.ประยุทธ์ 1 เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ จากนั้นเป็นโอกาสทำคะแนนโชว์ฝีมือให้ชาวบ้านได้เห็นว่าพอใจหรือไม่ สำเร็จหรือล้มเหลว ตอบสนองความต้องการของส่วนรวมได้มากน้อยเพียงใด มีกึ๋นมั้ย ใจซื่อมือสะอาดไว้ใจได้ในเรื่องความสุจริตมั้ย

นี่เป็นประเด็นต้องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นนับตั้งแต่เสร็จสิ้นพิธีกรรมเข้ารับภารกิจ

ถ้าจะว่ากันตรงๆ “บิ๊กตู่” และคณะ คสช.อาจได้รับคะแนนนิยมจากชาวบ้าน เป็นต้นทุนทางสังคม ความเชื่อมั่นในผลงานพอสมควร ในการขับเคลื่อนทิศทางผลักดันงานยากๆ วางแนวนโยบายและการเดินหน้าจัดการปัญหาค้างคาเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน

เราได้เห็นกลไกในกระบวนการยุติธรรม ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ มีปัญหาทำให้บ้านเมืองเข้าสู่วิกฤตซ้ำซาก นอกเหนือจากการทุจริต คอร์รัปชัน เขมือบคำโต ทำให้โจรการเมืองผยอง มีกองกำลังติดอาวุธของตัวเอง เผาบ้านเผาเมืองจนเกิดมิคสัญญีรุนแรง

หลังจาก 3 เดือน น้ำผึ้งย่อมสิ้นความหวาน คะแนนบวกและคะแนนลบมีพอๆ กันเพราะงานหลักๆ ที่ประชาชนคาดหวังยังค้างคาอยู่ หลายอย่างยังไม่คืบหน้า ดังนั้นเป็นความยุติธรรมถ้าบอกว่ารัฐบาลเริ่มต้นจากศูนย์เมื่อยังไม่ได้แสดงฝีมือให้ประทับใจ

ครม.ประยุทธ์ 1 ย่อมสะท้อนตัวตนของนายกรัฐมนตรี ความพอใจในการคัดสรรมีมากหรือน้อย มีอิสระในการเลือกเต็มที่หรือไม่ มีเพียง “บิ๊กตู่” เท่านั้นที่จะบอกได้ และจะโทษใครไม่ได้ ถ้าเกิดภาวะล้มเหลว ติดขัดเพราะความเกรงใจในรุ่นพี่ๆ น้องๆ กันเอง

การตัดสินใจหลายเรื่องก่อนหน้านี้ก็สะท้อนความเป็นตัวตน หรือ Character ของ “บิ๊กตู่” เองว่าประชาชนสมควรให้ความเชื่อมั่นไว้วางใจได้ระดับไหน ใจถึง และน่าจะคาดหมายว่าจะจัดการปัญหา บริหารบ้านเมืองได้สำเร็จ หรือล้มเหลวหรือไม่

เพียงแค่เลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ทำให้ความเชื่อมั่นโดยรวมของประชาชนแกว่งหดหายไปเยอะ มีข้อสังเกตความน่ากังขาในด้านวิจารณญาณว่าเป็นอย่างไรด้วย ยิ่งไม่แตะบางเรื่องสำคัญค้างคาใจชาวบ้านก็ยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยต่อเนื่อง

เมื่อเริ่มต้นจากศูนย์ก็ยังดีกว่าติดลบ ชาวบ้านพร้อมให้โอกาส เพราะยังเชื่อว่าแม้จะมีพวกประวัติด่างพร้อย ความซื่อสัตย์สุจริต ภาพลักษณ์มีปัญหาสำหรับรัฐมนตรีบางคน ประชาชนยังหวังว่า “บิ๊กตู่” จะเอาอยู่ เพราะผลงานคือการตัดสินอนาคตของตัวเอง

การบริหารงานน่าจะราบรื่นเพราะมีอำนาจล้นเหลือ แทบไม่มีกลุ่มไหนคัดค้านก่อกวนอย่างเปิดเผยได้ เพราะมีกฎอัยการศึกเป็นอาวุธทรงอำนาจ ใครก็ไม่กล้าหือ เว้นแต่ว่าจะมีพฤติกรรมฉาว โกงกินคำโต มีพวกเสือหิวออกลายเร่งเขมือบไม่เกรงใจเท่านั้น

ถ้าบริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ดูแลประชาชน บ้านเมืองมั่นคง จะอยู่ยาวนานเท่าไหร่ก็ไม่มีใครว่า นักการเมืองต้องหลีกทาง ถ้าโกงกิน ซูเอี๋ยกับคนชั่ว อยู่ไม่ยืดแน่ๆ!
กำลังโหลดความคิดเห็น