ปปง.ร่วมกับตร. ทหาร ปฏิบัติการบุกค้นเกาะภูเก็ต 8 จุด กวาดล้างมาเฟียแท็กซี่ โดยเปิดบริษัทฟิโซน่า กรุ๊ป จัดตั้งสหกรณ์บังหน้าเจตนาฟอกเงิน ชี้ตัวการใหญ่อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง "แก๊งกี่สิ้น"ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ จึงยึดอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบ พร้อมติดตามจับกุม 27 ผู้ต้องหาตามหมายจับ
วานนี้ (28 ส.ค.) ที่จ.ภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ร.ต.อ.สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ปปง.ฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมกับพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค8 พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รองผู้บัญชาการกองปราบปราม สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และกรมสรรพากร ลงพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหากระทำผิดข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร รวมข้อหาอื่นๆ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหานี้มีพฤติกรรมเป็นมาเฟียแท็กซี่ รถขนส่งขัดขวางการประกอบอาชีพขนส่งโดยถูกกฏหมายของผู้อื่น
สำหรับจุดที่สำคัญที่เข้าปฏิบัติการหลัก คือบ้านพักของนายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และอดีตกำนัน บ้านเลขที่73 ถ.บารมีและบ.ฟิโซน่า จำกัด แต่ไม่พบตัวนายเปี่ยน โดยมีเพียงนางศรีคำ กี่สิ้น อดีตภรรยา ซึ่งยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือร่วมการกระทำความผิดใดๆทั้งสิ้น
พ.ต.อ.สีหนาท เลขาธิการปปง. กล่าวว่า วันนี้ปปง.ได้สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และกรมสรรพากร สนธิกำลังลงพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหา และน่าเชื่อว่าสร้างอิทธิพลทางการเมืองท้องถิ่นเพื่อขยายธุรกิจ ปกปิดวิธีดำเนินการเพื่อกระทำการอันผิดกฎหมายให้ได้มาซึ่งประโยชน์และรายได้ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีทั้งคนเป็นหัวหน้า ผู้จัดการ และเป็นคนมีตำแหน่งหน้าที่ อันมีความผิดตามมาตรา 3(6) พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และความผิดเกี่ยวกับการกรรโชกทรัพย์ หรือรีดเอาทรัพย์ที่กระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่ หรือซ่องโจรตามประมวลกฎหมายอาญา
โดยเข้าตรวจค้นทั้งหมด 8 จุด ได้แก่ 1.อาคารสำนักงาน บริษัท ฟิโซน่า จำกัด และบริษัทในเครือ เลขที่73 ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต 2.บ้านพักเลขที่73 ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ตของนายเปี่ยน กี่สิ้น นายปรีชาวุฒิ หรือปราบ กี่สิ้น นายปีทวี หรือปัท กี่สิ้น 3.สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ รีโซเทล (ติดกับสำนักงาน บริษัท ฟิโซน่า จำกัด และบริษัท)4.สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ การ์เด้น รีสอร์ท เลขที่ 33/1 ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ. กระทู้ จ.ภูเก็ต 5. สำนักงาน บริษัท ป่าตองฮอลีวู้ด จำกัด เลขที่7 ถนนบางลา ต.ป่าตอง อ.กระทู้จ.ภูเก็ต6.สำนักงานโรงแรม ป่าตองเบย์ เฮ้าส์ เลขที่ 160/5 ถนนผังเมืองสาย ก. ต.ป่าตอง อ.กระทู้จ.ภูเก็ต7.สำนักงานโรงแรม ป่าตองเบย์ อินน์ เลขที่ 188/6 ถนนผังเมืองสาย ก. ต.ป่าตอง อ.กระทู้จ.ภูเก็ตและ8. สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ ฮิลล์ ถนน50ปี ต.ป่าตอง อ.กระทู้จ.ภูเก็ต
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า สำนักงาน ปปง. ได้รับการประสานจากตำรวจภูธรภาค8 เพื่อขอให้ ปปง.ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายเปี่ยน กี่สิ้น กับพวก ตามมาตรา 58 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ในกรณีที่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดใดๆ เป็นทรัพย์ที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายอื่นได้อยู่แล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการกับทรัพย์สินนั้นตามกฎหมายดังกล่าว หรือดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวแล้วไม่เป็นผล หรือดำเนินการตามพ.ร.บ.นี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการมากกว่า ก็ให้ดำเนินการกับทรัพย์สินนั้นต่อไปตามพ.ร.บ.นี้
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 กล่าวว่า การปฎิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต กับนายปรีชาวุฒิ(ปราบ) กี่สิ้น และนายปัทวี กี่สิ้น ซึ่งทั้งสองเป็นลูกชายของนายเปี่ยน พร้อมกับเครือข่ายการกระความผิดในข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร รวมข้อหาอื่นๆ ร่วมกับพรรคพวกประมาณ 80 คน โดยจัดองค์กรขึ้นมาผิดกฏหมายประกอบการขนส่งในพื้นที่อ.หาดกระรน และอ.หาดป่าตอง ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ คือทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่ ประทุษร้าย บังคับเพื่อให้ได้ทรัพย์จากผู้ประกอบการโรงแรม บริษัททัวร์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวต่อว่า กลุ่มของนายเปี่ยน กี่สิ้น และพวกนั้น มีพฤติการณ์ จัดตั้งกลุ่มผู้ประกอบอาชีพในลักษณะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยมีการจัดตั้งสหกรณ์รถบริการเพื่อปกปิดวิธีการดำเนินการในการนำรถของบุคคลอื่นซึ่งเป็นรถส่วนบุคคลมาร่วมรับจ้างโดยผิดกฎหมาย และกีดกันผู้ประกอบการและผู้ขับรถรับจ้างอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มทั้งนี้ นายเปึ่ยน เคยดำรงตำแหน่งกำนันตำบลป่าตอง และเคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จึงอาศัยอำนาจอิทธิพล สร้างและขยายธุรกิจได้มากมาย ซึ่งรายได้จากการดำเนินธุรกิจบางส่วนน่าเชื่อว่ามีเจตนาหลบเลี่ยงภาษี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนผู้ต้องหาหลบหนีก็หลบหนีไป แต่ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมตัวเพื่อมาดำเนินคดีให้ได้
พล.ต.ต.สุรวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.ยุทธศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า โดยเบื้องต้นวานนี้ (28 ส.ค.) เข้าจับกุมผู้ต้องหาและตรวจค้นเป้าหมายทั้งหมด 8จุด ซึ่งดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตาม 27หมายจับ เป็นกลุ่มบุคคลที่ จัดตั้งเป็นองค์กรภายใต้การรวมตัวประมาณ 20 บริษัท โดยแยกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1)บริษัทฟิโซน่า กรุ๊ป จำกัด 2)กลุ่มคิวแท็กซี่บ้านสวน 3)กลุ่มรถเช่า 4)กลุ่มผู้ชุมนุมปิดสภ.กระทู้ โดยเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติงานบรูณาการปราบการกระทำความผิดลักณะเดียวกันนี้ให้เป็นโมเดลในการปฏิบัติการครั้งต่อๆไป โดยจะนำเอากฏหมายฟอกเงิน กฏหมายสรรพสามิต เข้ามาจัดการ นอกจากการเอาผิดทางอาญาซึ่งปัจจุบันผู้ต้องหาไม่ค่อยเกรงกลัว
วานนี้ (28 ส.ค.) ที่จ.ภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ร.ต.อ.สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ปปง.ฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมกับพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค8 พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รองผู้บัญชาการกองปราบปราม สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และกรมสรรพากร ลงพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหากระทำผิดข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร รวมข้อหาอื่นๆ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหานี้มีพฤติกรรมเป็นมาเฟียแท็กซี่ รถขนส่งขัดขวางการประกอบอาชีพขนส่งโดยถูกกฏหมายของผู้อื่น
สำหรับจุดที่สำคัญที่เข้าปฏิบัติการหลัก คือบ้านพักของนายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และอดีตกำนัน บ้านเลขที่73 ถ.บารมีและบ.ฟิโซน่า จำกัด แต่ไม่พบตัวนายเปี่ยน โดยมีเพียงนางศรีคำ กี่สิ้น อดีตภรรยา ซึ่งยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือร่วมการกระทำความผิดใดๆทั้งสิ้น
พ.ต.อ.สีหนาท เลขาธิการปปง. กล่าวว่า วันนี้ปปง.ได้สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และกรมสรรพากร สนธิกำลังลงพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหา และน่าเชื่อว่าสร้างอิทธิพลทางการเมืองท้องถิ่นเพื่อขยายธุรกิจ ปกปิดวิธีดำเนินการเพื่อกระทำการอันผิดกฎหมายให้ได้มาซึ่งประโยชน์และรายได้ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีทั้งคนเป็นหัวหน้า ผู้จัดการ และเป็นคนมีตำแหน่งหน้าที่ อันมีความผิดตามมาตรา 3(6) พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และความผิดเกี่ยวกับการกรรโชกทรัพย์ หรือรีดเอาทรัพย์ที่กระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่ หรือซ่องโจรตามประมวลกฎหมายอาญา
โดยเข้าตรวจค้นทั้งหมด 8 จุด ได้แก่ 1.อาคารสำนักงาน บริษัท ฟิโซน่า จำกัด และบริษัทในเครือ เลขที่73 ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต 2.บ้านพักเลขที่73 ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ตของนายเปี่ยน กี่สิ้น นายปรีชาวุฒิ หรือปราบ กี่สิ้น นายปีทวี หรือปัท กี่สิ้น 3.สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ รีโซเทล (ติดกับสำนักงาน บริษัท ฟิโซน่า จำกัด และบริษัท)4.สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ การ์เด้น รีสอร์ท เลขที่ 33/1 ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ. กระทู้ จ.ภูเก็ต 5. สำนักงาน บริษัท ป่าตองฮอลีวู้ด จำกัด เลขที่7 ถนนบางลา ต.ป่าตอง อ.กระทู้จ.ภูเก็ต6.สำนักงานโรงแรม ป่าตองเบย์ เฮ้าส์ เลขที่ 160/5 ถนนผังเมืองสาย ก. ต.ป่าตอง อ.กระทู้จ.ภูเก็ต7.สำนักงานโรงแรม ป่าตองเบย์ อินน์ เลขที่ 188/6 ถนนผังเมืองสาย ก. ต.ป่าตอง อ.กระทู้จ.ภูเก็ตและ8. สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ ฮิลล์ ถนน50ปี ต.ป่าตอง อ.กระทู้จ.ภูเก็ต
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า สำนักงาน ปปง. ได้รับการประสานจากตำรวจภูธรภาค8 เพื่อขอให้ ปปง.ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายเปี่ยน กี่สิ้น กับพวก ตามมาตรา 58 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ในกรณีที่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดใดๆ เป็นทรัพย์ที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายอื่นได้อยู่แล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการกับทรัพย์สินนั้นตามกฎหมายดังกล่าว หรือดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวแล้วไม่เป็นผล หรือดำเนินการตามพ.ร.บ.นี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการมากกว่า ก็ให้ดำเนินการกับทรัพย์สินนั้นต่อไปตามพ.ร.บ.นี้
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 กล่าวว่า การปฎิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต กับนายปรีชาวุฒิ(ปราบ) กี่สิ้น และนายปัทวี กี่สิ้น ซึ่งทั้งสองเป็นลูกชายของนายเปี่ยน พร้อมกับเครือข่ายการกระความผิดในข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร รวมข้อหาอื่นๆ ร่วมกับพรรคพวกประมาณ 80 คน โดยจัดองค์กรขึ้นมาผิดกฏหมายประกอบการขนส่งในพื้นที่อ.หาดกระรน และอ.หาดป่าตอง ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ คือทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่ ประทุษร้าย บังคับเพื่อให้ได้ทรัพย์จากผู้ประกอบการโรงแรม บริษัททัวร์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวต่อว่า กลุ่มของนายเปี่ยน กี่สิ้น และพวกนั้น มีพฤติการณ์ จัดตั้งกลุ่มผู้ประกอบอาชีพในลักษณะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยมีการจัดตั้งสหกรณ์รถบริการเพื่อปกปิดวิธีการดำเนินการในการนำรถของบุคคลอื่นซึ่งเป็นรถส่วนบุคคลมาร่วมรับจ้างโดยผิดกฎหมาย และกีดกันผู้ประกอบการและผู้ขับรถรับจ้างอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มทั้งนี้ นายเปึ่ยน เคยดำรงตำแหน่งกำนันตำบลป่าตอง และเคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จึงอาศัยอำนาจอิทธิพล สร้างและขยายธุรกิจได้มากมาย ซึ่งรายได้จากการดำเนินธุรกิจบางส่วนน่าเชื่อว่ามีเจตนาหลบเลี่ยงภาษี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนผู้ต้องหาหลบหนีก็หลบหนีไป แต่ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมตัวเพื่อมาดำเนินคดีให้ได้
พล.ต.ต.สุรวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.ยุทธศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า โดยเบื้องต้นวานนี้ (28 ส.ค.) เข้าจับกุมผู้ต้องหาและตรวจค้นเป้าหมายทั้งหมด 8จุด ซึ่งดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตาม 27หมายจับ เป็นกลุ่มบุคคลที่ จัดตั้งเป็นองค์กรภายใต้การรวมตัวประมาณ 20 บริษัท โดยแยกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1)บริษัทฟิโซน่า กรุ๊ป จำกัด 2)กลุ่มคิวแท็กซี่บ้านสวน 3)กลุ่มรถเช่า 4)กลุ่มผู้ชุมนุมปิดสภ.กระทู้ โดยเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติงานบรูณาการปราบการกระทำความผิดลักณะเดียวกันนี้ให้เป็นโมเดลในการปฏิบัติการครั้งต่อๆไป โดยจะนำเอากฏหมายฟอกเงิน กฏหมายสรรพสามิต เข้ามาจัดการ นอกจากการเอาผิดทางอาญาซึ่งปัจจุบันผู้ต้องหาไม่ค่อยเกรงกลัว
