xs
xsm
sm
md
lg

ต้านไม่ไหวโอนท่อก๊าซ สั่งกฤษฎีกาถกสตง.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “อารีพงศ์”โยนเรื่องให้กฤษฎีกาหารือร่วมสตง.หลัง”บิ๊กตู่”ใบสั่งให้เคลียร์เหตุ”สตง.”ร่อนหนังสือทวงถามความชัดเจนแยกท่อและการโอนท่อก๊าซฯปตท. บอกให้กลุ่มต้านใจเย็นตั้งบ.ท่อก๊าซฯใหม่ยังมีเวลาไม่เร่งรีบกรอบเดิมมิ.ย.58ทุกอย่างต้องเคลียร์ก่อนพร้อมเปิดเวทีรับฟังความเห็น 27 ส.ค.ในข้อสงสัยปฏิรูปพลังงาน ส่วน 29 ส.ค.เปิดเวทีแจงแผนพีดีพีใหม่ “หม่อมโจ้”ระบุการโอนท่อก๊าซปตท.ควรยึดตามคำสั่งศาล ระบุใครยักยอก คือการปล้นอธิปไตยทางเศรษฐศาสตร์ อดีต ส.ส.ปชป. ท้ารัฐบาลใหม่ ประกาศให้ชัดไม่นำกองทุนวายุภักษ์เข้าตลาดหลักทรัพย์ แนะตราเป็นกฎหมายป้องกันถูกรัฐบาลต่อไปฮุบสมบัติชาติ ด้านนายทหารพระธรรมนูญเบิกตัว"วีระ" พร้อมพวก สอบปากคำ"ตุด นาคอน"ไม่สนทหารสั่งห้ามเดิน ลุยต่อถึงจ.นครศรีธรรมราช ก่อนส่งไม้ต่อให้"เอกชัย อิสระทะ"เครือข่ายจากจ.สงขลา มุ่งหน้าต่อ

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ได้ทำหนังสือมายังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เป็นประธานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงประเด็นการแยกท่อก๊าซธรรมชาติและการโอนท่อก๊าซ หัวหน้าคสช.ได้สั่งให้กระทรวงพลังงานไปเร่งดำเนินการให้ชัดเจนถึงเรื่องนี้นั้นขณะนี้ทางกระทรวงพลังงานได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้ตีความทางกฏหมายในเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนแล้วคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1เดือน

"ขอให้ทุกฝ่ายที่เคลื่อนไหวอยู่ใจเย็นเกี่ยวกับประเด็นแยกท่อก๊าซของบมจ.ปตท.ที่หลักการแล้วการแยกท่อก๊าซฯออกมาก็เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้แต่เข้าใจว่าประเด็นที่ห่วงคือการโอนท่อมาครบหรือไม่ครบดังนั้นเรื่องนี้ทางกฤษฎีกาจะไปดูร่วมกับสตง. ดังนั้นการแยกท่อฯปตท.ขณะนี้ก็ชะลอได้ไม่เร่งรีบเพราะยังมีเวลาดำเนินการเราอยากให้ทุกอย่างเคลียร์ให้ชัดก่อนเพราะตามกรอบการตั้งบริษัทท่อก๊าซใหม่กำหนดให้แล้วเสร็จในมิ.ย.58"นายอารีพงศ์กล่าว

ทั้งนี้วันที่27 ส.ค.กระทรวงพลังงานจะเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นถึงการปฏิรูปพลังงานในประเด็นต่างๆที่ยังมีข้อสงสัยหรือต้องการความชัดเจนดังนั้นเพื่อความเข้าใจตรงกันจึงต้องการให้ทุกฝ่ายมาร่วมแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ในวันที่29 ส.ค.กระทรวงพลังงานจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า(พีดีพี)ใหม่ระยะเวลา 20 ปี(2558-2578) ที่กรุงเทพมหานครและจะจัดทั่วประเทศภายใน 3 เดือนกระจายไปยังต่างจังหวัดโดยจะเริ่มที่ภาคใต้ก่อนดังนั้นต้องการให้ใช้เวทีดังกล่าวแสดงความเห็น

“ เราอยากให้พี่น้องที่มีความห่วงใยต่อการสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่เราเองจะเปิดรับฟังความเห็นโดยเฉพาะที่ภาคใต้ถือมีความสำคัญเพราะการใช้ไฟฟ้าก็ยังเติบโตเราเองก็จะคำนึงถึงพลังงานทดแทนให้มากขึ้น ส่วนการปรับโครงสร้างราคาพลังงานภาพรวมที่กำหนดรับฟังความเห็นส.ค.นี้เบื้องต้นจะรอให้รัฐบาลใหม่มาพิจารณาก่อนประกาศปรับโครงสร้างราคาอย่างเป็นทางการ”นายอารีพงศ์กล่าว

***ภาคปชช.ชี้ทุกคนมีสิทธิ์รู้เรื่องพลังงาน

นายสมบูรณ์ กำแหง เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ กล่าวในการเสวนาเรื่อง “เตะตัดขาปฏิรูปพลังงาน ” ว่า ต้องการเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เลิกปิดกั้นประชาชนในการเดินขบวนเพื่อให้ความรู้กับประชาชนเรื่องพลังงานเพราะต่างจากการเดินขบวนทางการเมือง เพราะเรื่องพลังงานเป็นเรื่องของทุกคนและแม้ว่าคสช.จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นถึงการปฏิรูปพลังงานและอยู่ระหว่างเลือกคณะกรรมการสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) แต่ภาคประชาชนเองมองว่าถูกล็อคสเปกสำหรับบุคคลแล้วเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับสภานิติบัญญัติ(สนช.)

“การที่กลุ่มขาหุ้นพลังงานซึ่งมีจุดมุ่งหมายเดินให้ความรู้ประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้ เรื่อยมาจนถึงภาคกลาง และถูกฝ่ายความมั่นคงจับกุมในช่วงที่ผ่านมาอยากให้คสช.แยกแยะระหว่างการเดินขบวนการเมืองออกกับการให้ความรู้ประชาชน ซึ่งเห็นว่าเวลานี้กระบวนการปฏิรูปพลังงานปัจจุบัน คล้ายเป็นการแสดงปาหี่ให้ประชาชน อยากเรียกร้องให้ประชาชนคนไทยตื่นขึ้นมา ร่วมกันตรวจสอบตั้งคำถาม เกี่ยวกับพลังงานของประเทศ เพราะปัจจุบัน คสช.ฟังแต่เสียงนักธุรกิจ เสียงข้าราชการ แต่ละเลยเสียงของประชาชน ” นายสมบูรณ์ กล่าว

นายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการรณรงค์กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เป้าหมายของกลุ่มขาหุ้นพลังงานในการเดินขบวนครั้งนี้ เพราะต้องการมีส่วนในการนำเสนอข้อมูลเพื่อจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าประเทศ (พีดีพี 2558 - 2578 ) ใหม่ เนื่องจากมีความพยายามในการบรรจุโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงถ่านหิน เพิ่มขึ้นเป็น 30 - 40 % จากปัจจุบัน 20 % ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นห่วงและอยากให้ภาครัฐพิจารณาอย่างรอบด้าน เนื่องจากเชื่อว่าหากยังคงเดินหน้า โรงไฟฟ้าถ่านหิน อาทิ จังหวัดกระบี่ จะเกิดความรุนแรง ความขัดแย้งขึ้น คล้ายกับกรณีความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้น ที่ อ.บ่อนอก

**"พุทธะอิสระ"โพสต์27ส.ค.มีถกพลังงาน

วานนี้ (25 ส.ค.) หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม อดีตแกนนำ กปปส. ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)แสดงความคิดเห็นถีงกรณีที่ นายวีระ สมความคิด และพวก จำนวน 6 คน ในนาม "กลุ่มจับตาปฎิรูปพลังงานไทย" ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ระบุว่า ใจหาย ส่วนตัวเห็นว่า น่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ อย่างเช่น วันพุธที่ 27 ส.ค.นี้ เราจะมีนัดกันไปถกกับกลุ่มผลประโยชน์พลังงาน เช่น บริษัท ปตท. กลุ่มบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ ตัวแทนกระทรวงพลังงาน ตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และตัวแทน คสช. ซึ่งได้มีการนัดหมายประชุมกันที่สโมสรทหารบกวิภาวดี ในเวลา 9 โมงเช้าจนถึง 4 โมงเย็น

หลวงปู่ระบุต่อว่า หวังว่าการนำเอาทุกปัญหาของพลังงานขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์มานั่งพูดคุยกันเพื่อหาข้อยุติที่ถูกต้องเป็นประโยชน์แก่คนทั้งประเทศ น่าจะดีกว่าการแสดงพลังออกไปเดินประท้วงตามถนน ที่ผ่านมา นักสู้เรื่องพลังงานไม่เคยได้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มผลประโยชน์พลังงานเหล่านี้เลย และหากมีเวลาเหลือมากพอ พวกเราจะได้ช่วยกันชี้นำเสนอแนะทิศทางพลังงานเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ

***“หม่อมโจ้”ระบุควรยึดตามคำสั่งศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร หรือ “หม่อมโจ้” บุตรชาย ม.ร.ว.เกียรติคุณ กิติยากร กับอาภัสรา หงสกุล อดีตนางงามจักรวาล ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเพจชื่อ “ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร” เกี่ยวกับ คสช.ที่ดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้เรียกร้องเรื่องพลังงาน โดยระบุว่าไม่ควรปิดหูปิดตาประชาชน อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน จึงควรพูดและรับฟังได้อย่างเสมอภาค ยกเว้นอธิปไตยจะเป็นของ คสช. กับกลุ่มทุนเท่านั้น

ม.ล.รุ่งคุณระบุว่า การยึดอำนาจการบริหารประเทศนั้นเพื่อป้องกันความรุนแรงจลาจล ไม่ใช่ใบอนุญาตให้ คสช.ยักยอกสาธารณสมบัติของชาติ ของประชาชน โดยไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลที่สั่งให้คืนประชาชน แต่ยังไม่มีการดำเนินการ ถือเป็นการปล้นอธิปไตยทางเศรษฐศาสตร์

***ปชป.จี้รบ.ไม่เอา'กองทุนวายุภักษ์'เข้าตลาดหุ้น

นายสรรเสริญ สมะลาภา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้รัฐบาลใหม่มีความโปร่งใสในการแยกกิจการท่อก๊าซออกจาก ปตท. โดยเฉพาะกรณีที่จะนำกองทุนวายุภักษ์ เข้ามาถือหุ้นในบริษัทกิจการท่อก๊าซ หากมีความคิดที่จะไม่นำกิจการท่อก๊าซเข้าตลาดหลักทรัพย์จริงก็ต้องทำความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของกองทุนวายุภักษ์ด้วย เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีทรัพย์สินราว 320,000 ล้านบาท ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2557 ซึ่งในขณะนี้กระทรวงการคลังถือหุ้น 100 % หลังจากที่กองทุนดังกล่าวหมดอายุลงในวันที่ 30 พ.ย. 2556 และรัฐบาลชุดที่แล้วมีมติให้ขยายอายุกองทุนรวมทั้งแปรสภาพจากกองทุนปิดเป็นกองทุนเปิด ซึ่งตามมติ ครม.วันที่ 27 ส.ค.56 นั้นกำหนดไว้ว่าหากสภาพตลาดหลักทรัพย์เหมาะสมก็จะมีการเปิดขายหุ้นกองทุนวายุภักษ์ให้กับนักลงทุนอีกครั้ง

“ถ้าบอกว่าจะไม่นำบริษัทท่อก๊าซเข้าตลาดหุ้น ปลัดกระทรวงพลังงานและปลัดกระทรวงการคลัง รวมทั้ง ครม. ชุดใหม่ต้องกล้ายืนยันไปเลยว่าจะไม่เอากองทุนวายุภักษ์เข้าตลาดหุ้นเช่นเดียวกัน หรือถ้าจะเอาเข้าเพื่อระดมทุนให้รัฐวิสาหกิจต่างๆ ก็ต้องโอนท่อก๊าซไปที่อื่นให้เสร็จก่อน และถ้าจะให้ดีต้องตราเป็นกฎหมายเพื่อกันไม่ให้รัฐบาลชุดไหนๆ ลักไก่ ประเด็นสำคัญจึงไม่ใช่เรื่องที่ว่าใครบริหารท่อก๊าซเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่ว่าใครได้รับผลประโยชน์จากท่อก๊าซด้วย พี่น้องที่อยู่ห่างไกล ชาวนา ชาวไร่ ชาวประมง หรือคนงานไม่มีโอกาสได้ซื้อหุ้นเหมือนนักลงทุน ซึ่งแน่นอนที่สุดคือไม่ได้รับผลประโยชน์จากท่อก๊าซเท่านักลงทุน”

นายสรรเสริญ ยังระบุด้วยว่าการที่จะนำกองทุนวายุภักษ์มาถือหุ้นบริษัทท่อก๊าซ ที่แยกออกมาจาก ปตท. คือการนำเงินหลวงมาซื้อท่อก๊าซคืนจาก ปตท. ดังนั้นราคาที่ซื้อต้องเป็นธรรมกับประชาชน เพราะราคาตอนก่อสร้างเอาภาษีของประชาชนมาลงทุน จึงไม่ควรซื้อจากการคำนวณมูลค่าปัจจุบันและประมาณการรายได้เข้าไปด้วย เนื่องจากไม่เป็นธรรมกับประชาชน

***เบิกตัว"วีระ"สอบปากคำ ก่อนแจ้งข้อหา

วานนี้ ( 25 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.กล่าวถึงกรณี พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.พร้อมเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร คุมตัวนายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น น.ส.บุญยืน ศิริธรรม อดีต สว.สมุทรสงคราม นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา แกนนำกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย พร้อมพวก รวม 8 คน มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อขอกักตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป.ตามอำนาจ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก มีกำหนดเวลา 7 วัน ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับนายวีระ กับพวก ซึ่งการพิจารณาแจ้งข้อหาจะขึ้นอยู่กับทางทหาร โดยจะมีการทำหนังสือร้องทุกข์และประสานมายัง บก.ป.อีกครั้ง

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ในประเด็นการกระทำผิดฐานขัดคำสั่ง คสช.ในการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทางทหารจะเป็นฝ่ายรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และหากเข้าข่ายความผิดดังกล่าว ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดี และเป็นไปตามขั้นตอน คือ สอบปากคำและคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป ทั้งนี้ หากครบกำหนดการกักตัว 7 วัน แล้วยังไม่มีการแจ้งข้อหา ก็จะต้องปล่อยตัวทั้งหมดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทาง พ.ท.บุรินทร์ ได้เข้าสอบปากคำนายวีระ กับพวก อีกครั้ง ก่อนจะนำผลการสอบปากคำไปรายงานต่อผู้บังคับบัญชา โดยไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียด เพียงแต่กล่าวสั้นๆ ว่า ความผิดของนายวีระ ไม่ได้หนักหนาอะไร ก่อนจะขอตัวเดินทางกลับไปยัง พล.ม.2 รอ.ทันที

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คอลัมนิสต์และผู้จัดรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” เดินทางเข้าเยี่ยม นายวีระ กับพวก โดยนายปานเทพ กล่าวว่า ได้เดินทางมาเยี่ยมนายวีระ และผู้ที่ถูกกักตัวทั้ง 8 คน ในฐานะที่เคยเคลื่อนไหวร่วมกัน และส่วนตัวคิดว่ากรณีของนายวีระ กับพวก ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ว่ามีการกระทำความผิด หรือเป็นการขัดคำสั่ง คสช.เพราะไม่ได้ชุมนุมต่อต้าน เพียงแต่มีการแจกเอกสารให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปพลังงาน

“ ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ก็จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่นายวีระ กลับมาถูกกักตัวอยู่เช่นนี้ ก็เหมือนเป็นการตัดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็น ในประเด็นเรื่องการปฏิรูปพลังงานที่เขาเตรียมคำถามที่จะถามไว้ อย่างไรก็ตามกับนายวีระ ยังเห็นตรงกันว่ารัฐ ควรจะจัดให้มีเวทีดีเบต ระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชนในเวลาเท่ากัน ไม่ใช่ให้ ปตท.ให้กระทรวงพลังงานพูดกันอยู่เพียงฝ่ายเดียว พลังงานคือทรัพย์สินของทุกคนในชาติไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง” นายปานเทพ กล่าว

***"อำนวย"ขู่ล่วงหน้าห้ามม็อบล้อมทำเนียบ

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ปฏิบัติราชการ บช.น. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมและแผนรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล โดยมีตัวแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วย พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นตัวแทนฝ่ายทหารเข้าร่วม โดยการประชุมได้ข้อยุติและขอประกาศห้ามม็อบทุกชนิดมาปิดล้อม หรือชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ถ้ามาชุมนุมจะเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา

***'ตุด นาคอน'ส่งไม้ต่อเดินปฏิรูปพลังงาน

วานนี้(25 ส.ค.)"ตุด นาคอน" หรือนายศุภกรณ์ วงศ์เมฆ ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตภาคใต้ ในนาม"ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน" ออกเดินเท้าจากวัดหน้าสตน ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้าเข้าสู่อ.เมือง เพื่อเข้าสักการะอนุสาวรีย์วีรไทย ในค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ซึ่งบรรจุอัฐิขอเหล่าทหารหาญที่พลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดิน ก่อนจะเดินทางออกจากกองทัพภาคที่ 4 มุ่งหน้ามายังประตูไชยสิทธิ ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จากนั้นเดินเท้าจากแยกประตูไชยสิทธิ เข้าสักการะพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เพื่อขอพร และปฏิญญาณตนต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถึงเจตจำนงค์ต้องการปกป้องสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิต รวมทั้งต้องการปฏิรูปพลังงานเพื่อคนไทยทุกคน

"ตุด นาคอน" ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า อยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ไม่อยากให้มีโรงไฟฟ้าถ่านหิน นิวเคลียร์ หรือขุดเจาะพลังงานที่มากมายมหาศาล อยากบอกว่าทุกคนควรร่วมกันส่งต่อเรื่องดีๆไปยังลูกหลาน และเมื่อมาถึงจ.นครศรีธรรมราช จะส่งไม้ต่อไปยังคนที่จะสืบสานเจตนารมย์ต่อไป เพราะถ้าเราแก้ปัญหาเรื่องพลังงานได้ ทุกอย่างแก้ไขได้หมด ดังนั้นพลังงานเป็นเรื่องแรกที่ควรจะทำ

ข่าวแจ้งว่า จากนั้นนายเอกชัย อิสระทะ ผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจ.สงขลา ตัดสินใจรับไม้ต่อจาก "ตุด นาคอน" ออกเดินเท้าจากหน้าค่ายวชิราวุธ มุ่งหน้าไปยังอ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อแวะแวะพักค้างคืน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ทหารเข้ามาหาข้อหุ้นปฏิรูปพลังงาน และบังคับไม่ให้เดินอีกต่อไป จึงแจ้งให้สมาชิกได้ทราบว่าขาหุ้นถูกทหารบังคับไม่ให้เดิน โดยที่ขาหุ้นไม่ได้จำยอม ดังนั้นขาหุ้นขอพักการเดินช่วงแรกวันนี้ไว้ก่อน

ข่าวแจ้งว่า จากข้อความในเฟซบุ๊ค ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างคิดกันว่ากิจกรรม "เดินวันละโยชน์ เพื่อประโยชน์คนทั้งชาติ"ต้องปิดฉากลงไปแล้วนั้น แต่เช้าวันที่ 25 สิงหาคม หลังทราบข่าวการออกเดินเท้าต่อ ปรากฏว่า ประชาชนในหลายพื้นที่ได้ออกมาแสดงสัญลักษณ์สนับสนุนกันอย่างคึกคัก รวมทั้งคนดังในวงการต่างๆก็ร่วมเคลื่อนไหวในเรื่องนี้แล้ว อาทิ ศุ บุญเลี้ยง ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด หม่อมโจ้หรือม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร เป็นต้น

วันเดียวกัน ที่จ.เชียงใหม่ นางนิตยาพร สุวรรณชิน ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้เดือดร้อนจากก๊าซและน้ำมันแพงเชียงใหม่ นำสมาชิกยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯผ่านทางมทบ. 33 เชียงใหม่ เรียกร้องให้คสช.ชะลอมติของกพช. เรื่องแยกท่อก๊าซไปตั้งบริษัทใหม่ ชะลอการให้สัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 และไม่ต่ออายุสัมปทานปิโตรเลียมที่กำลังจะครบกำหนด โดยจะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมเสวนาวิชาการ "ปฎิรูปพลังงานเพื่อประชาชนอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน" ซึ่งจัดโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันนี้(26 ส.ค.) และวันที่ 27 สิงหาคม จะร่วมกับหลวงปู่พุทธะอิสระ รับฟังคำชี้แจงจากตัวแทนบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) กระทรวงพลังงาน และบริษัทพลังงาน ที่สโมสรกองทัพบก
กำลังโหลดความคิดเห็น