ASTV ผู้จัดการรายวัน - บมจ.อินทัช พลิกกลยุทธ์ระยะ 5 - 7 ปีเน้นขยายเข้าไปลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และดิจิทัลคอนเทนท์ เพื่อสร้างความหลากหลาย-หนุนเติบโต ผู้บริหารยอมรับกำไรสุทธิทั้งกลุ่มลดงอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท สำหรับบริษัทลูก "เอไอเอส" ขาดทุน สวนทางจาก "ไทยคม" กำไร 498 ล้านบาท แต่ยืนยันคงนโยบายนำกำไรสุทธิหลังหักภาษีทั้งหมดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น
นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ รองกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานการลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายมูลค่าการลงทุนในธุรกิจอื่นเป็น 25% ของสินทรัพย์ภายใน 5-7 ปี (พ.ศ.2557 - พ.ศ.2563) จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 5% เพื่อกระจายความหลากหลายของการลงทุนและมองหากิจการที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโต โดยจะยังคงเป็นธุรกิจใกล้เคียงธุรกิจหลัก หรือเกี่ยวกับโทรคมนาคมสื่อ, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และดิจิทัลคอนเทนท์
“ช่วงที่ผ่านมาได้เข้าไปร่วมทุนไปแล้ว 3 บริษัทใช้เงินลงทุนรวม 90 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ปีละ 200 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมลงทุนอีก 1 รายภายใต้เงื่อนไขการเข้าไปถือหุ้นไม่เกิน 30% คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในปีนี้อย่างน้อยอีก 1 ราย นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุนในธุรกิจ Digital content และธุรกิจที่รองรับ Digital TV ซึ่งบริษัทำลังรอดูแนวโน้มของตลาดก่อนว่าจะออกมาในลักษณะใด เพื่อหาแนวทางในการเข้าไปเจาะกลุ่มธุรกิจดังกล่าว” นางสาวทมยันตี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศ ว่า กลุ่มบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH รายงานผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกปี 2557 ของกลุ่มพบว่ามีกำไรสุทธิรวม 2.63 หมื่นล้านบาท ลดลง 4.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่มีกำไร 2.75 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทอินทัช มีกำไรสุทธิ 7.3 พันล้านบาท ลดลง 4.8% บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC มีกำไร 1.79 หมื่นล้านบาท ลดลง 6% และบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL มีกำไร 218 ล้านบาท ลดลง 16.1% ขณะที่บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM มีกำไร 896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.3%
บมจ.อินทัช แจ้งว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 1.27 หมื่นล้านบาท มีกำไร 7.3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทเอไอเอส กว่า 7.2 พันล้านบาท คิดเป็น 57% ของรายได้รวม และ 99% ของกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อย่างไรก็ตามกำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่ก็เป็นผลจากการลดลงของส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย แม้ว่ากำไรในธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น เบื้องต้น บริษัทยังคงเป้ารายได้จากการขายและบริการในปีนี้เติบโต 5-7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักยังคงมาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM มีวงเงินสำหรับกิจการร่วมลงทุน เวนเจอร์ แคปิตอล ไม่เกินปีละ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้กำไรของบริษัทส่วนใหญ่มาจากส่วนกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทเอไอเอส โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวนผู้ใช้บริการ 3 จี อยู่ที่ 80% เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ตอนต้นปี คาดว่าภายในสิ้นปีจะมีผู้ใช้บริการอยู่ในระดับ 80.5% ของฐานลูกค้าทั้งหมด จะทำให้กำไรจากการให้บริการ (เซอร์วิส มาร์จิน) เพิ่มขึ้น 3% แม้ว่าจะมีค่าการตลาดและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ 3 จีสูงขึ้น ขณะที่กลยุทธ์การขายเครื่องที่ราคาทุนจะส่งผลให้การรวมกำไรก่อนรายการดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน
ส่วนอัตราการจ่ายเงินปันผลนั้น อินทัชมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลโดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะบริษัท จากกำไรสุทธิหลังหักภาษี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการบริหารแล้ว จะนำกำไรทั้งหมดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีการลงทุนที่เป็นสาระสำคัญ และในปี 2557 นี้ ก็ยังคงนโยบายการปันผลนี้อยู่
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นอินทัชวานนี้ (19 ส.ค.) ปิดตลาดที่ 71.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มีมูลค่าการซื้อขาย 570,018 ล้านบาท
นางสาวพัชรินทร์ วัฒนาแก้วศรีเพ็ชร นักวิเคราะห์ บล. คันทรี่ กรุ๊ป แนะนำ "ซื้อ" บมจ. อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) โดยราคาเป้าหมาย 93.00 บาท/หุ้น ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการในช่วง 2H57 มีแนวโน้มที่จะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก (1H57) เนื่องจาก 1.รายได้ในธุรกิจให้บริการมือถือ ของ ADVANC มีแนวโน้มฟื้นตัว ตามทิศทางเศรษฐกิจที่กลับมาขยายตัวในช่วง 2H57 ประกอบกับการรับรู้ประโยชน์จากการโอนย้ายลูกค้าไปสู่ 3G-2.1GHz ทำให้เกิดการประหยัดต้นทุนส่วนแบ่งรายได้
2.คาด THCOM จะรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มจาก BW IPSTAR ในจีน (ประมาณ 8% ของรายได้ Synertone) เข้ามาในช่วง 2H57...แต่ผลจากการปรับลดประมาณการกำไรปี 57 ของ ADVANC ลงจากเดิม 6% ทำให้เราปรับลดคาดการณ์กำไรทั้งปี 57 ของ INTUCH ลงจากเดิม 6% มาอยู่ที่ 1.48 หมื่นลบ. (EPS 4.63 บาท) และทำให้มูลค่าพื้นฐาน INTUCH ถูกปรับลดลงจาก 101 บาท เหลือ 93 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการราคาเหมาะสมของ ADVANC จาก 300 บาท เหลือ 260 บาท
“ในการประเมินราคาเหมาะสม โดยใช้ราคาเหมาะสมของ ADVANC ที่ 260 บาท และ THCOM ที่ 43 บาท รวมทั้งให้ส่วนลดจาก NAV 10% สำหรับ INTUCH ยังคงมีความน่าสนใจในแง่ของการจ่ายปันผลที่สูงสม่ำเสมอ คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 57 อยู่ที่ 6.5% ต่อปี” นางสาวพัชรินทร์ กล่าว
นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ รองกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานการลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายมูลค่าการลงทุนในธุรกิจอื่นเป็น 25% ของสินทรัพย์ภายใน 5-7 ปี (พ.ศ.2557 - พ.ศ.2563) จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 5% เพื่อกระจายความหลากหลายของการลงทุนและมองหากิจการที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโต โดยจะยังคงเป็นธุรกิจใกล้เคียงธุรกิจหลัก หรือเกี่ยวกับโทรคมนาคมสื่อ, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และดิจิทัลคอนเทนท์
“ช่วงที่ผ่านมาได้เข้าไปร่วมทุนไปแล้ว 3 บริษัทใช้เงินลงทุนรวม 90 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ปีละ 200 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมลงทุนอีก 1 รายภายใต้เงื่อนไขการเข้าไปถือหุ้นไม่เกิน 30% คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในปีนี้อย่างน้อยอีก 1 ราย นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุนในธุรกิจ Digital content และธุรกิจที่รองรับ Digital TV ซึ่งบริษัทำลังรอดูแนวโน้มของตลาดก่อนว่าจะออกมาในลักษณะใด เพื่อหาแนวทางในการเข้าไปเจาะกลุ่มธุรกิจดังกล่าว” นางสาวทมยันตี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศ ว่า กลุ่มบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH รายงานผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกปี 2557 ของกลุ่มพบว่ามีกำไรสุทธิรวม 2.63 หมื่นล้านบาท ลดลง 4.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่มีกำไร 2.75 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทอินทัช มีกำไรสุทธิ 7.3 พันล้านบาท ลดลง 4.8% บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC มีกำไร 1.79 หมื่นล้านบาท ลดลง 6% และบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL มีกำไร 218 ล้านบาท ลดลง 16.1% ขณะที่บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM มีกำไร 896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.3%
บมจ.อินทัช แจ้งว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 1.27 หมื่นล้านบาท มีกำไร 7.3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทเอไอเอส กว่า 7.2 พันล้านบาท คิดเป็น 57% ของรายได้รวม และ 99% ของกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อย่างไรก็ตามกำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่ก็เป็นผลจากการลดลงของส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย แม้ว่ากำไรในธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น เบื้องต้น บริษัทยังคงเป้ารายได้จากการขายและบริการในปีนี้เติบโต 5-7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักยังคงมาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM มีวงเงินสำหรับกิจการร่วมลงทุน เวนเจอร์ แคปิตอล ไม่เกินปีละ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้กำไรของบริษัทส่วนใหญ่มาจากส่วนกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทเอไอเอส โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวนผู้ใช้บริการ 3 จี อยู่ที่ 80% เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ตอนต้นปี คาดว่าภายในสิ้นปีจะมีผู้ใช้บริการอยู่ในระดับ 80.5% ของฐานลูกค้าทั้งหมด จะทำให้กำไรจากการให้บริการ (เซอร์วิส มาร์จิน) เพิ่มขึ้น 3% แม้ว่าจะมีค่าการตลาดและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ 3 จีสูงขึ้น ขณะที่กลยุทธ์การขายเครื่องที่ราคาทุนจะส่งผลให้การรวมกำไรก่อนรายการดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน
ส่วนอัตราการจ่ายเงินปันผลนั้น อินทัชมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลโดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะบริษัท จากกำไรสุทธิหลังหักภาษี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการบริหารแล้ว จะนำกำไรทั้งหมดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีการลงทุนที่เป็นสาระสำคัญ และในปี 2557 นี้ ก็ยังคงนโยบายการปันผลนี้อยู่
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นอินทัชวานนี้ (19 ส.ค.) ปิดตลาดที่ 71.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มีมูลค่าการซื้อขาย 570,018 ล้านบาท
นางสาวพัชรินทร์ วัฒนาแก้วศรีเพ็ชร นักวิเคราะห์ บล. คันทรี่ กรุ๊ป แนะนำ "ซื้อ" บมจ. อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) โดยราคาเป้าหมาย 93.00 บาท/หุ้น ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการในช่วง 2H57 มีแนวโน้มที่จะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก (1H57) เนื่องจาก 1.รายได้ในธุรกิจให้บริการมือถือ ของ ADVANC มีแนวโน้มฟื้นตัว ตามทิศทางเศรษฐกิจที่กลับมาขยายตัวในช่วง 2H57 ประกอบกับการรับรู้ประโยชน์จากการโอนย้ายลูกค้าไปสู่ 3G-2.1GHz ทำให้เกิดการประหยัดต้นทุนส่วนแบ่งรายได้
2.คาด THCOM จะรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มจาก BW IPSTAR ในจีน (ประมาณ 8% ของรายได้ Synertone) เข้ามาในช่วง 2H57...แต่ผลจากการปรับลดประมาณการกำไรปี 57 ของ ADVANC ลงจากเดิม 6% ทำให้เราปรับลดคาดการณ์กำไรทั้งปี 57 ของ INTUCH ลงจากเดิม 6% มาอยู่ที่ 1.48 หมื่นลบ. (EPS 4.63 บาท) และทำให้มูลค่าพื้นฐาน INTUCH ถูกปรับลดลงจาก 101 บาท เหลือ 93 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการราคาเหมาะสมของ ADVANC จาก 300 บาท เหลือ 260 บาท
“ในการประเมินราคาเหมาะสม โดยใช้ราคาเหมาะสมของ ADVANC ที่ 260 บาท และ THCOM ที่ 43 บาท รวมทั้งให้ส่วนลดจาก NAV 10% สำหรับ INTUCH ยังคงมีความน่าสนใจในแง่ของการจ่ายปันผลที่สูงสม่ำเสมอ คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 57 อยู่ที่ 6.5% ต่อปี” นางสาวพัชรินทร์ กล่าว