xs
xsm
sm
md
lg

“INTUCH” ลดเป้าเติบโตทั้งปีเหลือ 1-2% เหตุปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองทำลูกค้าหด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ รองกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานการลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ หรือ INTUCH
“อินทัช โฮลดิ้งส์” เผยลดเป้าอัตราเติบโตของรายได้ของปีนี้ลงจากเดิม 5-7% เหลือเพียง 1-2% เหตุเพราะความขัดแย้งทางการเมืองในครึ่งปีแรก และจำนวนลูกค้าที่ย้ายค่ายมาใช้ AIS ลดลง คาดทั้งปีไม่เกิน 45% ส่วน บมจ.ไทยคม ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นกว่าทุกปีจากยอดขายช่องสัญญาณเต็มจำนวน อีกทั้งเตรียมรุกธุรกิจ Digital content และทีวีดิจิตอลเพิ่ม

นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ รองกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานการลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ หรือ INTUCH กล่าวว่า แผนงานธุรกิจในครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้จากการขายและบริการในปีนี้ในอัตราเติบโตที่ 5-7% จากส่วนแบ่งรายได้ของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และ บมจ.ไทยคม (THCOM)  ซึ่ง ADVANC ได้มีการปรับลดเป้าหมายรายได้ลงเหลือ 1-2% หรือประมาณ  40,000 ล้านบาท เนื่องด้วยได้รับผลกระทบทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก และสัดส่วนลูกค้าที่ย้ายค่ายมาน้อยกว่าที่คาด ซึ่งบริษัทประมาณการลูกค้าที่ย้ายมาเปิดเบอร์ใหม่กับ ADVANC ปีนี้ทั้งปีคาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 45% แต่บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าในครึ่งปีหลังนี้ยอดการใช้บริการจะสามารถเติบโตดีกว่าในครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทได้มีการขยายสถานีฐานอย่างต่อเนื่องโดยตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 20,000 สถานีฐาน ซึ่งขณะนี้มีสถานีฐานทั่วประเทศแล้วกว่า 19,300 สถานีฐาน อีกทั้ง บริษัทฯ ได้ออกโปรโมชันเพื่อให้ลูกค้าในระบบ 2G เปลี่ยนมาใช้ระบบ 3G เพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนมาจำหน่ายพร้อมโปรโมชันในราคาประหยัดที่เครื่องละ 2,000-2,500 บาท ขณะเดียวกัน บริษัทได้กระตุ้นฐานลูกค้าเก่าที่ใช้งานอยู่เดิมที่มียอดใช้จ่ายต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 700 บาท โดยให้สิทธิพิเศษประเภทบัตร  เซเรเนด เอ็มเมอรัลด์ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ในขณะที่ในส่วนของ บมจ.ไทยคมนั้น ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขี้นกว่าปีก่อนมาก จากการขายแบนด์วิธและช่องสัญญาณ (ทรานสปอนเดอร์) ครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งบริษัทฯ จะสามารถรับรู้รายได้จากดาวเทียมไทยคม 6 เข้ามาเต็มปี และมีกำหนดยิงไทยคม 7 ขึ้นสู่วงโคจรในปลายเดือนสิงหาคมนี้ โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ของดาวเทียมไทยคม 7 เข้ามาทันทีในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
 

“บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการลงทุนในธุรกิจอื่น 25% ภายใน 5-7 ปี (2557-2563) จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 5% เพื่อกระจายความหลากหลายของการลงทุนและมองหากิจการที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโต โดยจะยังคงเป็นธุรกิจใกล้เคียงธุรกิจหลัก หรือเกี่ยวกับโทรคมนาคม, IT, Digital content และ Media ตลอดจนถึงธุรกิจเวนเจอร์ แคปปิตอล อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมองหาช่องทางในการทำธุรกิจสื่อทีวีดิจิตอลในอนาคต โดยอาจรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าไปลงทุนทั้งการเข้าไปถือหุ้น หรือการเข้าควบรวมกิจการตามความเหมาะสม ขณะที่การเลื่อนประมูลคลื่นความถี่ระบบ 4G ออกไปนั้น ไม่กระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ เพราะยังต้องพิจารณาความคุ้มค่าที่จะเข้าไปลงทุน และความต้องการของผู้บริโภคว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในปัจจุบันระบบ 3G ยังมีศักยภาพในการรองรับการใช้งานได้อย่างดี”
 
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนในธุรกิจร่วมลงทุน (Venture Capital) ไว้ปีละประมาณ 200 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหาผู้ร่วมทุนใหม่ เพื่อพัฒนาธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ คาดว่า จะสามารถสรุปได้ภายในครึ่งปีหลังอย่างน้อย 1 ราย โดยบริษัทฯ มีนโยบายเข้าไปถือหุ้นไม่เกิน 30% อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการร่วมทุนแล้ว 3 บริษัท โดยใช้เงินลงทุนรวมกว่า 90 ล้านบาท  สำหรับธุรกิจ Digital content อื่นๆ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบของธุรกิจ คาดว่า จะได้ข้อสรุปปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า และธุรกิจ Digital TV บริษัทฯ รอดูแนวโน้มของตลาดไปก่อนว่าจะออกมาในลักษณะใด เพื่อหาแนวทางในการเข้าไปเจาะกลุ่มธุรกิจดังกล่าว
 
ขณะเดียวกัน ในสัปดาห์หน้าบริษัทฯ เตรียมที่จะไปโรดโชว์ให้กับนักลงทุนในงาน Thailand Focus และในช่วงต้นเดือนหน้า บริษัทฯ เตรียมที่จะไปโรดโชว์ที่ประเทศสหรัฐฯ เพื่อนำเสนอข้อมูลผลประกอบการรวมถึงการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ ให้กับนักลงทุนต่างประเทศ เพราะการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในบริษัทฯ เต็มสัดส่วนที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดไว้แล้ว โดยหากนักลงทุนต่างชาติที่สนใจในหุ้นของบริษัทฯ ก็จะต้องลงทุนผ่าน NVDR ของ ตลท.ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
 


กำลังโหลดความคิดเห็น