xs
xsm
sm
md
lg

“ชินคอร์ป” ไม่สนขายเสาตั้งกองทุนฯ ตั้งเป้าเติบโต 7% พอใจไทยคมฟื้นตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“กลุ่มชินคอร์ป” ตบเท้าชี้แจงแนวโน้มธุรกิจ บริษัทแม่ตั้งเป้าเติบโต 5-7% ขอดูไตรมาส 2 อีกครั้ง คาดใน 5-7 ปี ธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจาก เอไอเอส ทำกำไรรวมกัน 25% พอใจ “ไทยคม” เติบโตเพิ่ม เตรียมยิงไทยคม 7 กลางปีนี้ พร้อมวางแนวทางหาแหล่งเงินลุยไทยคม 8 ต่อ ยันฐานะการเงินกลุ่มแกร่ง ไม่จำเป็นต้องเอาเสาสัญญาณไปตั้งกองทุนฯ ชี้ไตรมาสแรกยอดลูกค้ามือถือยังเติบโต แม้ปัญหาการเมืองกดดัน จับตาเอไอเอส แตกไลน์ให้บริการบอร์ดแบนด์ หลังเริ่มทดลองตลาด

น.ส.ทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) กล่าวถึงภาพรวมปี 2557 ว่า ในส่วนของรายได้น่าจะโตได้ 5-7% ซึ่งมีผลให้กำไรของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมเป็นการเติบโตจากเงินปันผลของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) กว่า 90% แต่บริษัทเชื่อว่า ธุรกิจของ บมจ.ไทยคม (THCOM) อีกหนึ่งบริษัทในเครือจะช่วยเพิ่มรายได้เข้ามาให้ หลังทำกำไรได้ เห็นได้จากกำไรของ THCOM ที่ปี 2556 มีสัดส่วน 3.2% ขณะไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 4.3%

“เราคาดว่าภายใน 5-7 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้ในธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือ ADVANC จะสามารถทำกำไรให้แก่บริษัทได้เพิ่มขึ้น 20-25% ขณะที่ Venture capital ที่เราจะเข้าไปถือหุ้นในแต่ละกิจการ 25-30% ในปีนี้ยังดำเนินตามนโยบายเดิมคือ ลงทุนปีละ 200 ล้านบาท ซึ่งจะลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับโทรคมนาคม และดิจิตอล คอนเทนต์”

ส่วนแผนการคิดจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยการนำเสาสัญญาณโครงข่ายของ ADVANC มาจัดตั้งกองทุนนั้น ยืนยันว่า ยังไม่คิดจะดำเนินการเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมีสภาพคล่องและเงินทุนพอเพียง ขณะเดียวกัน ADVANC ยังเริ่มทดลองตลาดเป็นผู้ให้บริการบอร์ดแบนด์อินเทอร์เน็ต ซึ่งกำลังทดลองตลาดอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ และนครราชสีมา

“เดิม ADVANC ก็เป็นผู้ให้บริการบอร์ดแบนด์ไวร์เลส อยู่แล้วจึงมีความพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ แม้จะมีผู้ประกอบการรายเดิมให้บริการอยู่ โดยรวม INTUCH ยังเน้นการเป็นโฮลดิ้งคอมปานี ปีนี้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 450 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการทำวิจัย และศึกษาระบบทีวีดิจิตอลทีวี รวมถึงดิจิตอลคอนเทนต์ ซึ่งได้มอบนโยบายให้บริษัทในเครือไปดำเนินการในธุรกิจต่อยอดเหล่านี้”

สำหรับการปรับลดเป้าหมายผลดำเนินงานบริษัทนั้น อาจต้องพิจารณาอีกครั้งหลังจากจบไตรมาส2 ซึ่งโดยรวมเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีปัญหาชะลอตัว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่บริษัทถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง จากกรณีอดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทนั้น INTUCH ยืนยันว่า บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการเมืองแต่อย่างใด และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีผู้ชุมนุมทางการเมืองร่วมกันยกเลิกการใช้บริการของADVANC จำนวนมากนั้น จากข้อมูลไตรมาส 1 พบว่า แม้จะมียอดการขอเลิกใช้บริการเพิ่มขึ้นเพราะเหตุการณ์ดังกล่าว แต่บริษัทก็มีลูกค้าใหม่เพิ่มเช่นกัน จึงสามารถชดเชยกันได้ และยังเติบโตได้ในระดับดี

ด้าน น.ส.นัฐิยา พัวพงศกร ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) กล่าวว่า บริษัทมีแผนประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่ กสทช.ได้ประกาศหลักเกณฑ์การประมูลในช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งจะสามารถเปิดประมูลได้ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยเบื้องต้นบริษัทมีกระแสเงินสด 16,276 ล้านบาท ขณะที่ราคาตั้งต้นการประมูลที่ กสทช.กำหนดอยู่ที่ 11,600 ล้านบาทต่อใบอนุญาต ทำให้เชื่อว่าจะไม่กระทบการจ่ายเงินปันผลของบริษัทซึ่งมีเป้าหมายจ่ายปันผล 100% ของกำไรสุทธิ

นายเคน สตุดเกอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยคม (THCOM) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสรุปรูปแบบการลงทุนของดาวเทียมไทยคม 8 ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งแหล่งเงินลงทุนจะใช้รูปแบบเดียวกับไทยคม 6 ที่ใช้เงินกู้ร่วมกับเงินสดของบริษัท และบริษัทได้กำหนดวงเงินที่สามารถเสนอขายหุ้นกู้ 7,000 ล้านบาท โดยดาวเทียมไทยคม 8 กำหนดวงเงินลงทุน 178.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เตรียมยิงขึ้นสู่วงโคจรกลางปี 2559 ครอบคลุมพื้นที่ประเทศไทย 50% ส่วนที่เหลือครอบคลุมแอฟริกา และอินเดีย

สำหรับดาวเทียมไทยคม 7 มีแผนจะยิงขึ้นสู่วงโคจรในกลางปีนี้ โดยมียอดขายแล้ว 40% ของ Capacity ที่มีทั้งหมด 14 ทรานสปอนเดอร์ และคาดว่าจะขายได้หมดภายใน 3 ปีหลังจากยิงขึ้นสู่วงโคจร ขณะที่ดาวเทียมไทยคม 6 มียอดขายเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1 มาที่ 68% ของ Capacity จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 66% ทำให้เชื่อว่ารายได้ของ THCOM ในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 7,900 ล้านบาท

ด้าน นายอนุวัฒน์ สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) เชื่อว่าภาพรรวมในการดำเนินธุรกิจในไตรมาสนี้ จะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 118 ล้านบาท ตามการเติบโตของภาพรวมอุตสาหกรรมไอซีที ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง และเป็นการเติบโตของปริมาณการใช้งาน (Bandwidth usages) และจำนวนฐานลูกค้าองค์กรที่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 57 จะเติบโตราว 3-5% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 462.35 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น