00 กำลังก้าวสู่เดือนที่สามของ คสช.ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ขณะเดียวกัน นี่ก็เป็นช่วงที่ต้องเดินหน้าเต็มกำลัง หมดเวลาฮันนีมูนกันอีกต่อไป เมื่อทุกอย่างต้องเดินหน้า มันก็เริ่มเผยให้เห็นความจริงหลายอย่างเริ่มผุดขึ้นมาให้ตำหนิ ติติง วิพากษ์วิจารณ์กันมากขึ้น และที่สำคัญเริ่มเห็นความผิดปกติมากขึ้นทุกวัน
00 แรกๆ เมื่อเห็นความผิดปกติ ชาวบ้านก็อาจหรี่ตาให้หยวนๆ กันไป เพื่อเห็นแก่งานใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า แต่เมื่อต้องผิดหวังซ้ำๆ กัน มันก็น่าหนักใจเหมือนกัน หากให้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา เริ่มสะดุดมาตั้งแต่ตั้งที่กุนซือ คสช. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" เป็นประธานใหญ่ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรมาก คงต้องการใช้คนที่เคารพนับถือไว้ใจได้เมื่อต้องการขอคำปรึกษาหารือในเรื่องใหญ่ แต่กลายเป็นว่า ทีมที่กุนซือกลุ่มนี้ ถูกมองว่าเป็นผู้ "มีอิทธิพลชี้นำ"ไปแทบทุกเรื่อง หากจะเรียกว่า นี่คือ"ศูนย์กลางอำนาจใหม่" ก็คงไม่ผิดนัก
00 เริ่มจากการแต่งตั้ง สนช. ปฏิเสธไม่ได้ว่า บรรดากุนซือที่ว่ามีบทบาทสำคัญซึ่งก็ยังไม่ผิด เพราะในเมื่อเป็นกุนซือ ก็ต้องให้คำแนะนำ ความหมายมันก็บอกอยู่แล้ว แต่การที่แต่งตั้งคนใกล้ชิดแบบน้องในไส้ ลูกน้อง คอนเนกชั่น เข้ามาเป็นแผงแบบนี้บางครั้งมันทำให้เกิดอาการกระอักกระอ่วนได้เหมือนกัน ถัดมาก็มาถึงเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา สปช. ในแต่ละด้าน ล้วนแล้วแต่มีชื่อของบรรดากุนซือเข้ามาคุมเกมกันแบบทุกด้าน เรียกกันว่า แบ่งงานกันให้ลงทุกสาขา ส่วนจะเชี่ยวชาญหรือไม่ มีความเข้าใจหรือไม่นั้น อีกเรื่องหนึ่ง และที่เป็นคำถามเสียงดังๆ ก็คือ กรรมการสรรหาด้านพลังงาน ที่บอกตรงๆ ว่า"ไม่ไว้ใจ" โดยเฉพาะ " 3ขาใหญ่" ด้านพลังงาน ทั้ง พละ สุขเวช วิเศษ จูภิบาล และ ประเสริฐ บุญ สัมพันธ์ คนพวกนี้ล้วนมีผลประโยชน์กับปตท. และทุนพลังงานข้ามชาติทั้งนั้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สบายใจกันได้เลย ลักษณะจึงไม่ต่าง "หนีเสือปะจรเข้" หรือเปล่า อีกไม่นานก็ได้เห็นกันแล้ว !!
00 นี่ก็เริ่มสะสมแบบ"เสียความรู้สึก"มากขึ้น ล่าสุด "สำนักข่าวอิศรา" ไปขุดคุ้ยประวัติของ บรรพต หงษ์ทอง อดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ หนึ่งในกรรมการสรรหา สปช.ด้านพลังงาน ปรากฏว่า เคยถูกป.ป.ช. "ชี้มูลความผิด" ในโครงการแปรรูปลำใยอบแห้ง ในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ที่มี สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รมว.เกษตรฯ ถามว่าคุณสมบัติแบบนี้สมควรจะไปร่วมวงปฏิรูปกับเขาหรือไม่ หรือว่า "ต้องปฏิรูปตัวเอง" ก่อนหรือไม่ พูดไปอย่างนั้น ไม่มีคำตอบกลับมาหรอก
00 เฉลยออกมาแล้วจาก ป.ป.ช. โดย สรรเสริญ พลเจียก เลขาฯ ป.ป.ช. ว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจไปตรวจสอบทรัพย์สินของ คสช. เพราะไม่มี กม.รองรับ อ้างว่ามีแค่ ครม.-ส.ส.-ส.ว. เท่านั้น การเกิด คสช. ถือว่าเป็นเรื่องใหม่แบบไม่คาดคิด จึงไม่ได้กำหนดเอาไว้ อย่างไรก็ดี เขาบอกว่าหาก คนในคสช. ไปเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องตรวจสอบทรัพย์สินด้วย อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากความต้องการของชาวบ้านผ่านนิด้าโพลพุ่งสูงถึงเกือบร้อยละ 90 เพียงแค่นี้ ก็เป็นความกดดันสูงลิ่วแล้ว โดยเฉพาะกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป แต่ถ้ามองในแง่ดี ก็คงต้องยื่นเพียงแต่ว่าอาจต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ นายกฯ คนใหม่เสียก่อนหรือเปล่า
00 เริ่มขยับเคลื่อนไหวออกมาให้เห็นประปรายแล้ว อย่างน้อยก็จะเห็นการเคลื่อนไหวของชาวสวนยางภาคใต้ ที่เดือดร้อนจากราคายางตกต่ำลงเรื่อยๆ จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกมาเปรมว่า อย่าออกมาเลย แม้จะอ้างถึงข้อจำกัดสารพัดว่า การแก้ปัญหาไม่อาจทำได้ชั่วข้ามคืน ให้เห็นใจ แต่ตอนท้ายก็สำทับว่า "ไม่ได้กลัว" ขณะเดียวกัน ก็ให้จับตาสินค้าตัวอื่นที่ราคาตกไม่แพ้กัน ที่เห็นก็มีข้าวที่ยังตกลงเรื่อยๆ นี่หากไม่รีบแก้ไขให้ดีขึ้น เมื่อเจอกับปริมาณข้าวนาปีที่จะทะลักออกมาสมทบถึงตอนนั้น จะเอาไม่อยู่ เตือนกันไว้ล่วงหน้า !!
00 แรกๆ เมื่อเห็นความผิดปกติ ชาวบ้านก็อาจหรี่ตาให้หยวนๆ กันไป เพื่อเห็นแก่งานใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า แต่เมื่อต้องผิดหวังซ้ำๆ กัน มันก็น่าหนักใจเหมือนกัน หากให้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา เริ่มสะดุดมาตั้งแต่ตั้งที่กุนซือ คสช. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" เป็นประธานใหญ่ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรมาก คงต้องการใช้คนที่เคารพนับถือไว้ใจได้เมื่อต้องการขอคำปรึกษาหารือในเรื่องใหญ่ แต่กลายเป็นว่า ทีมที่กุนซือกลุ่มนี้ ถูกมองว่าเป็นผู้ "มีอิทธิพลชี้นำ"ไปแทบทุกเรื่อง หากจะเรียกว่า นี่คือ"ศูนย์กลางอำนาจใหม่" ก็คงไม่ผิดนัก
00 เริ่มจากการแต่งตั้ง สนช. ปฏิเสธไม่ได้ว่า บรรดากุนซือที่ว่ามีบทบาทสำคัญซึ่งก็ยังไม่ผิด เพราะในเมื่อเป็นกุนซือ ก็ต้องให้คำแนะนำ ความหมายมันก็บอกอยู่แล้ว แต่การที่แต่งตั้งคนใกล้ชิดแบบน้องในไส้ ลูกน้อง คอนเนกชั่น เข้ามาเป็นแผงแบบนี้บางครั้งมันทำให้เกิดอาการกระอักกระอ่วนได้เหมือนกัน ถัดมาก็มาถึงเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา สปช. ในแต่ละด้าน ล้วนแล้วแต่มีชื่อของบรรดากุนซือเข้ามาคุมเกมกันแบบทุกด้าน เรียกกันว่า แบ่งงานกันให้ลงทุกสาขา ส่วนจะเชี่ยวชาญหรือไม่ มีความเข้าใจหรือไม่นั้น อีกเรื่องหนึ่ง และที่เป็นคำถามเสียงดังๆ ก็คือ กรรมการสรรหาด้านพลังงาน ที่บอกตรงๆ ว่า"ไม่ไว้ใจ" โดยเฉพาะ " 3ขาใหญ่" ด้านพลังงาน ทั้ง พละ สุขเวช วิเศษ จูภิบาล และ ประเสริฐ บุญ สัมพันธ์ คนพวกนี้ล้วนมีผลประโยชน์กับปตท. และทุนพลังงานข้ามชาติทั้งนั้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สบายใจกันได้เลย ลักษณะจึงไม่ต่าง "หนีเสือปะจรเข้" หรือเปล่า อีกไม่นานก็ได้เห็นกันแล้ว !!
00 นี่ก็เริ่มสะสมแบบ"เสียความรู้สึก"มากขึ้น ล่าสุด "สำนักข่าวอิศรา" ไปขุดคุ้ยประวัติของ บรรพต หงษ์ทอง อดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ หนึ่งในกรรมการสรรหา สปช.ด้านพลังงาน ปรากฏว่า เคยถูกป.ป.ช. "ชี้มูลความผิด" ในโครงการแปรรูปลำใยอบแห้ง ในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ที่มี สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รมว.เกษตรฯ ถามว่าคุณสมบัติแบบนี้สมควรจะไปร่วมวงปฏิรูปกับเขาหรือไม่ หรือว่า "ต้องปฏิรูปตัวเอง" ก่อนหรือไม่ พูดไปอย่างนั้น ไม่มีคำตอบกลับมาหรอก
00 เฉลยออกมาแล้วจาก ป.ป.ช. โดย สรรเสริญ พลเจียก เลขาฯ ป.ป.ช. ว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจไปตรวจสอบทรัพย์สินของ คสช. เพราะไม่มี กม.รองรับ อ้างว่ามีแค่ ครม.-ส.ส.-ส.ว. เท่านั้น การเกิด คสช. ถือว่าเป็นเรื่องใหม่แบบไม่คาดคิด จึงไม่ได้กำหนดเอาไว้ อย่างไรก็ดี เขาบอกว่าหาก คนในคสช. ไปเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องตรวจสอบทรัพย์สินด้วย อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากความต้องการของชาวบ้านผ่านนิด้าโพลพุ่งสูงถึงเกือบร้อยละ 90 เพียงแค่นี้ ก็เป็นความกดดันสูงลิ่วแล้ว โดยเฉพาะกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป แต่ถ้ามองในแง่ดี ก็คงต้องยื่นเพียงแต่ว่าอาจต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ นายกฯ คนใหม่เสียก่อนหรือเปล่า
00 เริ่มขยับเคลื่อนไหวออกมาให้เห็นประปรายแล้ว อย่างน้อยก็จะเห็นการเคลื่อนไหวของชาวสวนยางภาคใต้ ที่เดือดร้อนจากราคายางตกต่ำลงเรื่อยๆ จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกมาเปรมว่า อย่าออกมาเลย แม้จะอ้างถึงข้อจำกัดสารพัดว่า การแก้ปัญหาไม่อาจทำได้ชั่วข้ามคืน ให้เห็นใจ แต่ตอนท้ายก็สำทับว่า "ไม่ได้กลัว" ขณะเดียวกัน ก็ให้จับตาสินค้าตัวอื่นที่ราคาตกไม่แพ้กัน ที่เห็นก็มีข้าวที่ยังตกลงเรื่อยๆ นี่หากไม่รีบแก้ไขให้ดีขึ้น เมื่อเจอกับปริมาณข้าวนาปีที่จะทะลักออกมาสมทบถึงตอนนั้น จะเอาไม่อยู่ เตือนกันไว้ล่วงหน้า !!