เสนอชื่อสรรหา สปช.4 วันยังกร่อย ยอดรวมแค่ 265 คน “ภุชงค์” มั่นใจสัปดาห์หน้ายอดพุ่ง เผย 19 ส.ค. “บิ๊กป้อม” นัด 11 ที่ปรึกษา คสช. ว่าที่ ปธ.คกก.สรรหา สปช.กำหนดทิศทางสรรหา 19 ส.ค. ก่อนประชุมทั้ง 11 คณะต้นเดือนหน้าเลือกประธานฯ ขณะที่ กกต.เตรียมชงใช้ระบบการให้คะแนนคัด 50 ว่าที่ สปช. คาดประชุมถกไม่ถึง 3 ครั้งได้ครบตามกฎหมายกำหนด
วันนี้ (17 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเวลา 17.20 น. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันที่ 4 ว่า ตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.จำนวน 7 ด้าน 16 คน โดยเป็นการยื่นที่สำนักงาน กกต.กลาง 6 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 10 คน แบ่งเป็นด้านบริหารราชการแผ่นดิน 1 คน การปกครองส่วนท้องถิ่น 5 คน การศึกษา 4 คน พลังงาน 1 คน สื่อสารมวลชน 1 คน สังคม 2 คน และด้านอื่นๆ 2 คน
ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 21 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 37 คน สรุป 4 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อ มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 94 คน สมัครทางจังหวัด 171 คน รวมทั้งสิ้น 265 คน ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาและอุปสรรคใดๆ และขอให้องค์กรนิติบุคคลเร่งเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ามาโดยเร็ว เพราะขณะนี้เหลือระยะเวลาอีกเพียง 17 วันนับจากนี้ คาดว่าในสัปดาห์จะมีองค์กรนิติบุคคลทยอยเข้าเสนอรายชื่อเป็นจำนวนมาก
ส่วนกระแสข่าวในบางจังหวัดกระบวนการสรรหาเริ่มมีความเป็นไม่ธรรม เนื่องจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการกำหนดตัวบุคคลที่จะเข้าเป็น สปช.ไว้แล้วนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ก็จะมีการสอบถามข้อเท็จจริงไปยังคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหาตาม พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหา สปช. หากกระทำสิ่งใดที่ผิดไปจาก พ.ร.ฎ.ที่กำหนดไว้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคณะกรรมการสรรหาสมาชิก สปช.ทั้ง 11 คณะนั้น แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 13 ส.ค. แต่จนบัดนี้แต่ละคณะยังไม่ได้มีการนัดประชุมกันอย่างเป็นทางการ เพื่อเลือกประธานคณะกรรมการแต่ละชุด
เบื้องต้นมีรายงานว่า ในวันที่ 19 ส.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช.ได้นัดประชุมคณะที่ปรึกษา คสช.ทั้ง 10 คน รวมถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ซึ่งทั้งหมดถือเป็นเบอร์หนึ่งในคณะกรรมการสรรหา สปช.ทั้ง 11 คณะ และถูกคาดหมายว่าจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาของแต่ละคณะ ที่สโมสรกองทัพบก เวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อมอบนโยบายและให้ทิศทางในการสรรหา สปช.แต่ละคณะ
ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งมายังสำนักงาน กกต.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาให้เข้าชี้แจงความคืบหน้าของการเปิดรับการเสนอชื่อ และบรรยายสรุปถึงแผนการทำงานที่วางไว้ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน ซึ่งนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาฯ กกต. และนายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้งก็จะเข้าชี้แจงด้วยตนเอง จากนั้นหลังปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเป็น สปช.ในวันที่ 2 ก.ย.แล้ว คณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะจะมีการนัดประชุมพร้อมกันอย่างเป็นทางการในช่วงวันที่ 3-5 ก.ย. ซึ่งจะมีการกำหนดวันเวลา สถานที่ที่ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อคัดเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานคณะกรรมการแต่ละคณะ และแต่ละคณะจะได้มีคำสั่งแต่งตั้งเลขานุการคณะกรรมการสรรหาอย่างถูกต้อง ก่อนจะเริ่มดำเนินการกระบวนการสรรหา
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า สำหรับการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเป็น สปช.ของคณะกรรมการสรรหานั้น พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหา สปช. ไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าให้ใช้วิธีการอย่างใด แต่เพียงระบุว่าให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.ด้านละไม่เกิน 50 คน ก่อนส่งให้ คสช.พิจารณาคัดเลือกต่อไป ดังนั้น กกต.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาฯ จึงได้เตรียมที่จะเสนอวิธีการสรรหาให้คณะกรรมการสรรหาได้พิจารณา โดยจะเป็นวิธีเดียวกับที่ กกต.ใช้ในการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (กกต.จว.)
โดยเมื่อสำนักงาน กกต.ได้ส่งรายชื่อพร้อมผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในแต่ละด้านให้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะแล้ว จากยอดบัญชีผู้เข้ารับการเสนอชื่อแต่ละด้านที่ส่งไปก็จะเสนอให้กรรมการแต่ละคนไปพิจารณาคัดเลือกหรือให้เป็นคะแนนกับบุคคลที่ตนเองเห็นว่าเหมาะสมเป็น สปช.มาคนละ 50 ชื่อ แล้วเมื่อมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะ ก็ให้กรรมการทั้ง 7 คน เปิดรายชื่อหรือคะแนนของผู้เหมาะสมเป็น สปช. ที่กรรมการแต่ละคนเลือก เพื่อดูว่าผู้เหมาะสมแต่ละรายได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคนเท่าใด ซึ่งอาจใช้การเรียงลำดับคะแนนก็ได้
แต่ทั้งนี้ 50 ชื่อที่คณะกรรมการสรรหาเลือกควรจะได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือเป็นมติเสียงข้างมากจากคณะกรรมการสรรหา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาว่าจะเห็นด้วยกับวิธีการนี้หรือไม่ หรือเห็นว่ามีวิธีการอื่นที่เหมาะสมกว่า ก็สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าหากคณะกรรมการสรรหาเห็นด้วยกับวิธีการสรรหาที่ฝ่ายเลขานุการเสนอการประชุมคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.ของคณะกรรมการสรรหาแต่ละชุดก็น่าจะประชุมรวมแล้วไม่เกิน 3 ครั้งก็น่าจะได้ผู้เหมาะสมเป็น สปช.ด้านละไม่เกิน 50 คน ซึ่งก็จะส่งให้ คสช.ทันต่อกำหนดเวลาคือวันที่ 23 ก.ย.