เลขาฯ กกต.เผยเสนอชื่อเป็น สปช.แล้ว 86 คน จว.รวมแล้ว 19 จว. ส่งข้อมูลเบื้องต้น หน.คสช.แล้ว ตรวจสอบตามขั้นตอน แจงระดับ จว.ยึดทะเบียนราษฎรในการสรรหา ไม่ได้ยึดตำแหน่ง รับประสาน กก.สรรหาทั้ง 11 ด้านแล้ว รอเคาะที่ประชุม ยันไม่เชิญพรรคใหญ่เสนอชื่อ สปช.ด้วยตัวเอง ชี้ไม่เป็นกลาง โยน ป.ป.ช.พิจารณา สปช.แจ้งทรัพย์สินหรือไม่ แย้มอาจไม่ต้อง
วันนี้ (15 ส.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวการเปิดรับรายชื่อนิติบุคคลที่เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นวันที่ 2 ว่า ข้อมูล ณ ขณะนี้มีบุคคลที่ยื่นแสดงความจำนง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหาเป็น สปช.รวม 86 คน แบ่งเป็น องค์กรนิติบุคคลที่เสนอรายชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ทั้ง 11 ด้าน รวม 29 คน และในส่วนของระดับจังหวัดที่เข้ามาเพิ่มเติมหลังเวลา 17.00 น.ของเมื่อวานที่ผ่านมา (14 ส.ค.) รวม 19 จังหวัด และได้มีข้อมูลเข้ามาเพิ่มเติมหลังเปิดรับเสนอชื่อในวันนี้อีก 3 จังหวัด คือ จังหวัดหนองบัวลำภู 1 คน พังงา 1 คน และร้อยเอ็ด 1 คน รวมทั้งสิ้น 57 คน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการสรรหาได้ส่งข้อมูลไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อรายงานความเคลื่อนไหวในการเปิดรับเสนอรายชื่อในวันแรกเท่านั้น ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัตินั้น สำนักงาน กกต.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา ยังคงต้องส่งรายชื่อของบุคคลเหล่านี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณสมบัติ จำนวน 19 หน่วยงาน นำข้อมูลไปตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอนต่อไป
นายภุชงค์กล่าวต่อด้วยว่า ขณะนี้พบปัญหาขึ้นในระดับจังหวัด เนื่องจากมีการสอบถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคคลที่ยื่นแสดงความจำนงเพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหาเป็น สปช.ซึ่งต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนั้นๆ ด้วย โดยบางจังหวัดมีการถามว่าข้าราชการที่ทำงานในพื้นที่ สามารถแสดงเจตจำนงเข้ารับการสรรหาได้หรือไม่ เพราะตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ข้าราชการถือว่ามีภูมิลำเนาตามพื้นที่ที่ปฏิบัติงาน ขอชี้แจงว่าเรายึดตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร ซึ่งจะดูทะเบียนบ้านว่าบุคคลนั้นมีทะเบียนบ้านในพื้นที่ที่จะเข้ารับการเสนอชื่อหรือไม่ เราไม่ได้ยึดที่ตำแหน่ง แต่เรายึดที่ตัวบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่นั้นๆ ดังนั้น บุคคลที่จะเข้ารับการสรรหาต้องอยู่ในภูมิลำเนาเดิมหรือตามทะเบียนบ้าน
นายภุชงค์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการสรรหาได้มีการประสานกับคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยส่วนใหญ่คณะกรรมการสรรหาจะขอหารือภายในก่อน ยังไม่มีการนัดประชุมอย่างเป็นทางการ ซึ่งสำนักงาน กกต.ก็ได้เตรียมข้อมูลและสถานที่เพื่อรองรับการทำงานของคณะกรรมการสรรหาของแต่ละด้านแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาว่าจะใช้สถานที่ใดในการประชุม
ทั้งนี้ นายภุงชงค์กล่าวปฏิเสธว่าสำนักงาน กกต.จะไม่มีการเชิญพรรคการเมืองพรรคใหญ่เข้าร่วมเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้วยตัวเองแน่นอน เพราะจะเสียความเป็นกลาง รวมถึง คสช.ก็เปิดโอกาสให้แต่ละพรรคการเมืองมีสิทธิในการเสนอบุคคลเข้ารับการสรรหาเท่าเทียมกัน
ส่วนสมาชิก สปช.ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ นายภุชงค์กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องรอให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้พิจารณา เนื่องจากสถานะการทำหน้าที่ของ สปช.แตกต่างจากสภานิติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่ง สปช.อาจจะไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินก็ได้