xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เปิดรับการเสนอชื่อสปช. ผู้ตรวจฯส่ง"ผานิต-พิเชต"ชิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่ง กกต. ในฐานะฝ่ายธุรการของคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช. ) ใช้เป็นสถานที่ในการเปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา ในวันที่ 14 ส.ค. - 2 ก.ย. โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้บริเวณโถงชั้น 2 ของสำนักงาน เป็นจุดรับการเสนอชื่อ พร้อมเปิดห้องประชุมจำนวน 4 ห้อง เป็นที่รับการเสนอชื่อบุคคลจากองค์กรนิติบุคคล แยกเป็นห้องที่ 1 ด้านการเมือง, ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน และด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ห้องที่ 2 ด้านการปกครองท้องถิ่น, ด้านการศึกษา, ด้านเศรษฐกิจ และด้านพลังงาน ห้องที่ 3 ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม, ด้านสื่อสารมวลชน และด้านสังคม และ ห้องที่ 4 ด้านอื่นๆ โดยในช่วงบ่ายนายบุญเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการด้านบริหารงานเลือกตั้ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จะมาทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานในการเสนอชื่อ ก็ได้มาซักซ้อมทำความเข้าใจ
ด้านนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ได้รับการประสานจากทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ว่า จะมีการประกาศรายชื่อคณะกรรมการสรรหา สปช.ทั้ง 11 คณะ ในเวลา 18.00 น. ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ดังนั้นในวันนี้ (14ส.ค.) ทางสำนักงาน กกต.ในฐานะหน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหา ก็จะทำการเปิดรับการเสนอชื่อบุคคลจากองค์กรนิติบุคคล ตามที่ได้วางแผนไว้
ส่วนการพิจารณาเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาของสำนักงานกกต. ในฐานะองค์กรนิติบุคคลนั้น ที่ประชุมกกต.ได้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นแล้ว เห็นว่ากรณีนี้ยังต้องมีการปรึกษาหารือพิจารณาด้วยความรอบครอบ จึงนัดประชุมร่วมกันในเรื่องการเสนอชื่อบุคคลเข้าคัดเลือกเป็นสปช. ในการประชุม วันที่ 20 ส.ค. เวลา 10.00 น. ซึ่งยืนยันรายชื่อบุคคลที่จะเสนอนั้น จะเป็น 2 ใน 5 ของกรรมการการเลือกตั้ง
นายภุชงค์ กล่าวด้วยว่า การรับเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. จะเริ่มในวันที่ 14 ส.ค.- 2 ก.ย. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยในกระบวนเปิดรับการเสนอรายชื่อบุคคลนั้น ในส่วนกลางนั้น ตัวแทนนิติบุคคล สามารถมาเสนอชื่อที่สำนักงาน กกต. หรือส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์ ขณะที่ในต่างจังหวัด เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ได้ประสานงานไปยังผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสรรหาของแต่ละจังหวัดแล้ว และบางจังหวัด ได้เริ่มมีการประชุมเพื่อเลือกคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อมีการเปิดรับการเสนอชื่อบุคคลโดยนิติบุคคลแล้ว กกต.จะทยอยส่งรายชื่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 15 หน่วยงาน ทำการตรวจสอบคุณสมบัติ แบบวันต่อวัน และจะมีการแถลงรายชื่อที่มีการเสนอให้สาธารณชนได้ทราบ ทั้ง 11 ด้าน รวมทั้งรายชื่อที่มีการทาบทามจากคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด และกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีข้อมูลความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับคุณสมบัติ หรือพฤติกรรมของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าคัดเลือกเป็นสปช. ก็สามารถแจ้งมายังสำนักงาน กกต.ได้ โดยขอให้ลงชื่อผู้แจ้งด้วย ซึ่งกกต.จะเก็บไว้เป็นความลับ เพื่อไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้งกัน หลังจากนั้นก็จะนำเรื่องเสนอไปยัง คสช. เพื่อให้วินิจฉัยต่อไป
ทั้งนี้ นายภุชงค์ ยืนยันว่า ไม่รู้หนักใจกับการที่ กกต. จะต้องทำหน้าที่ในการรับการเสนอชื่อและตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอ แต่เกรงว่าจะมีการเสนอรายชื่อจำนวนมาก ซึ่ง กกต. ก็ได้เตรียมเพิ่มสถานที่ และบุคลากรเพื่อรองรับไว้แล้ว รวมทั้งยังตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจขึ้นมาอีกส่วนหนึ่ง ในการรับเรื่องทางไปรษณีย์ สำหรับนิติบุคคลต่างจังหวัดที่จะเสนอชื่อบุคคล และคิดว่าจะมีนิติบุคคลเข้าร่วมเสนอชื่อบุคคลกว่า 3,000 องค์กร เป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการรับการเสนอรายชื่อครั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยเป็นงบจากโครงการที่ถูกระงับการดำเนินการ หลังจากมีการรัฐประหาร โดยงบที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นค่าบริหารจัดการการประชุม ส่วนค่าป้ายประชาสัมพันธ์ ก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งน้อยกว่าการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาในอดีต ที่ใช้งบประมาณถึง 50 ล้านบาท
เมื่อถามว่า สมาชิกสปช. จะต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ นายภุชงค์ กล่าวว่า หากสมาชิกสภานิติบัญญัติต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. สมาชิก สปช. ก็จะต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วยเช่นกัน

** ผู้ตรวจฯส่ง"พิเชต-ผานิต"คัดสปช.

นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ที่ประชุมผู้ตรวจแผ่นดินเห็นชอบตามที่สำนักงานผู้ตรวจแผ่นดิน ในฐานะองค์กรนิติบุคคล เสนอขอให้พิจารณาส่งบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเป็นสปช. โดยที่ประชุมเห็นว่า สำนักงานผู้ตรวจฯ มีภารกิจในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศ มีประสบการณ์มากและเป็นประโยชน์ที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในสภาปฏิรูป จึงได้มีการพิจารณาบุคคลที่เห็นว่ามีความเหมาะสม และเห็นควรตามที่สำนักงานฯ เสนอชื่อบุคคลมา 2 คน คือ นายพิเชต สุนทรพิพิธ อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาคนแรกของประเทศไทย และ นางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินคนแรกของประเทศไทย ตามรัฐธรรมนูญ 50 โดยบุคคลทั้งสองเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ทั้งด้านการบริหารบ้านเมือง การเมือง พร้อมที่จะทำหน้าที่ โดยทางสำนักงาน จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า จะเสนอชื่อบุคคลทั้งสองในด้านใด ใน 11 ด้าน ที่มีการเปิดรับ อาจเป็นด้านการเมือง และ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ทั้งนี้คงจะไม่เสนอรายชื่อทั้งสองคน ไปอยู่ในด้านเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางสำนักงานผู้ตรวจฯ จะรวบรวมเอกสาร หลักฐานต่างๆ ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการสรรหาได้ ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณี หากนางผานิตได้รับการคัดเลือกเป็น สปช. ก็อาจจะมีการพิจารณาลาออก ก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน 6 ปี ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ ก็ได้
สำหรับประวัติของ นางผานิต ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เคยดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเมื่อมาเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ในปี 2551 หลังจากนั้นได้รับเลือกเป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน แล้วก็ยังได้รับเลือกตั้งให้ประธานสมาคมผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเอเชีย เมื่อปี 55 จนถึงปัจจุบัน
ขณะที่นายพิเชต เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิเทศสหการ สำนักนายกรัฐมนตรี จนได้มาเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2542 ก่อนได้รับตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เมื่อปี 2543-2546 และได้รับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ถึงสองสมัย คือปี 2551 และ 2554
กำลังโหลดความคิดเห็น