ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอชื่อ “พิเชต สุนทรพิพิธ” อดีตผู้ตรวจฯ คนแรกของไทย และ “ผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ” ประธานผู้ตรวจฯ คนแรกตามรัฐธรรมนูญปี 50 เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
วันนี้ (13 ส.ค.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นชอบตามที่สำนักงานผู้ตรวจแผ่นดิน ในฐานะองค์กรนิติบุคคลเสนอขอให้พิจารณาส่งบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยที่ประชุมเห็นว่าสำนักงานผู้ตรวจฯ มีภารกิจในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศ มีประสบการณ์มากและเป็นประโยชน์ที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในสภาปฏิรูปจึงได้มีการพิจารณาบุคคลที่เห็นว่ามีความเหมาะสม และเห็นควรตามที่สำนักงานฯ เสนอชื่อบุคคลมา 2 คน คือ นายพิเชต สุนทรพิพิธ อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาคนแรกของประเทศไทย และนางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินคนแรกของประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญปี 2550
โดยบุคคลทั้งสองเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ทั้งด้านการบริหารบ้านเมือง การเมือง พร้อมที่จะทำหน้าที่โดยทางสำนักงานจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการเสนอบุคคลทั้งสองในด้านใดใน 11 ด้านที่มีการเปิดรับ อาจเป็นด้านการเมือง และด้านการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ทั้งนี้คงจะไม่เสนอรายชื่อทั้งสองคนไปอยู่ในด้านเดียวกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางสำนักงานผู้ตรวจจะรวบรวมเอกสาร หลักฐานต่างๆ ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการสรรหาได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณีหากนางผานิตได้รับการคัดเลือกเป็น สปช.ก็อาจจะมีการพิจารณาลาออกก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน 6 ปี ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ก็ได้
สำหรับประวัติของนางผานิต ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เคยดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเมื่อมาเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินในปี 2551 หลังจากนั้นได้รับเลือกเป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วก็ยังได้รับเลือกตั้งให้ประธานสมาคมผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเอเชียเมื่อปี 55 จนถึงปัจจุบัน ขณะที่นายพิเชตนั้นเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิเทศสหการ สำนักนายกรัฐมนตรี จนได้มาเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2542 ก่อนได้รับตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาเมื่อปี 2543-2546 และได้รับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ถึงสองสมัย คือปี 2551 และ 2554