00 ได้เห็นโฉมหน้าคณะกรรมการสรรหา สปช. ด้านต่างๆกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงมองออก คิดเป็น ว่าแต่ละคนพอจะเป็นความหวังสำหรับการปฏิรูปบ้านเมืองได้หรือไม่ หรือว่า "ต้องปฏิรูปคนที่เป็นกรรมการสรรหาก่อน" หรือไม่ เชื่อว่าในภาวะสังคมที่ชาวบ้านผ่านการต่อสู้ และเรียนรู้กันมาอย่างโชกโชนย่อมรู้เท่าทัน และมีความหวังกันได้แค่ไหน อย่างไรก็ดี ไม่อยากให้เสียบรรยากาศ เดี๋ยวจะหาว่าขัดคอ มีอคติ ก็ไม่อยากจะขวางน้ำเชี่ยว
00 เอาเป็นว่าเห็นรายชื่อที่กรรมการสรรหาแต่ละด้านก็พอมองเห็นเส้นทางข้างหน้าชัดขึ้น ขอให้พินิจพิจารณากันเอาเอง ถามว่า คนอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาคสช. ที่ติดโผเป็น กก.สรรหาฯ ด้านการเมือง จะเชี่ยวชาญ จะคัดสรรคนประเภทไหนเข้ามา คนอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กรรมการสรรหาด้านการปกครองท้องถิ่น จะมีความเชี่ยวชาญแค่ไหน เชื่อว่าสังคมในยุคนี้คงได้เห็นคำตอบที่รออยู่ข้างหน้าแล้วว่าเป็นอย่างไร จริง หรือปลอม เดาทางกันไม่ยากใช่มั๊ย !!
00 แต่ที่เป็นคำถามโดนใจมากที่สุดเห็นจะเป็นด้าน "พลังงาน" ที่เป็นคนของ ปตท. มากันแบบยกชุด ยกแผงพร้อมหน้าพร้อมตา ถ้าเรียกว่าคนพวกนี้เป็น "ขาใหญ่" ด้านพลังงานก็ไม่ผิด เอ้าดูรายชื่อกันก่อน เริ่มจาก ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตผู้ว่าฯปตท. ที่นั่งเก้าอี้จนเกษียณขยายเพดานไปต่อไม่ได้ แต่ก็ยังวนเวียนเป็นกรรมการบอร์ดมาอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นสัญญลักษณ์ของ ปตท. ก็ว่าได้ รายต่อมาคือ พละ สุขเวช นี่ก็เป็นอดีตผู้ว่าการการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ก่อนแปรรูปมาเป็น ปตท. ในอดีตเคยเป็น กรรมการปตท. กรรมการไทยออยล์ สารพัด และที่น่าสนใจคือ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญสำคัญในการฟื้นฟูกิจการของ "ทีพีไอ" จนนำไปสู่การฮุบของ ปตท.ในที่สุด
00 ตามด้วย วิเศษ จูภิบาล รายนี้เคยเป็นผู้บริหาร ปตท. มาตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นการปิโตรเลียมฯ เช่นเดียวกันมีบทบาทสำคัญในการแปรรูปปตท. และต่อมาได้ดิบได้ดีเป็น รมว.พลังงานในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 48 อ้อเกือบลืมไปพี่น้อง วิเศษ จูภิบาล คนนี้แหละ ที่มีส่วนสำคัญรับลูกขับเคลื่อนพยายามให้มีการแปรรูป (ขาย) กฟผ. แต่เกิดการต่อต้าน และต่อมาศาลปกครองชี้ว่ามิชอบ จนต้องดับฝันกันไป นี่ยังไม่นับ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นประธานบอร์ด ปตท. ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เป็นไงกันบ้าง เมื่อเห็นรายชื่อเรื่อยมาจนมาถึงกรรมการสรรหาด้านปฏิรูปพลังงาน คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันให้มากความกันแล้ว ใช่หรือไม่พี่น้อง เพราะเชื่อว่าทุกคนคิดเองได้ว่าเป็นอย่างไร
00 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอาคนของปตท.เอาคนที่เคยมีบทบาทสำคัญในการขายรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน ซึ่งถือว่าเป็น"ความมั่นคง" ไปแบ่งให้กลุ่มทุนทั้งในและต่างชาติ รวมทั้งเปิดช่องให้นักการเมืองเข้ามาร่วมถือหุ้น ที่สำคัญคนพวกนี้ล้วนเคยเป็น "มือไม้" ของทักษิณ ชินวัตร เสียด้วย ส่วนจะไว้ใจได้แค่ไหน หรือว่า "ต้องเงียบ" อย่ากวนน้ำให้ขุ่น ตามที่"ทั่นผู้นำ"ขอเอาไว้ และขอเวลาอีกไม่นานเท่านั่น ก็ว่ากันไป !!
00 วกมาที่วงการ "สีกากี" กันมั่ง เพราะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ผ่านโค้งสุดท้ายเข้าทางตรงอีกไม่กี่ก้าวจะถึงเส้นชัยอยู่แล้วสำหรับเก้าอี้ ผบ.ตร. นาทีนี้กำลังลุ้นชิงดำเหลืออยู่แค่สองคนเท่านั้น คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กับ พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ แต่แล้วจู่ๆ รายแรกคือ สมยศ ดันมีข่าวไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง จำนวน 855 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดคำถามว่า เอาเงินมาจากไหนมากมายนัก และในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เป็นตำรวจ มันเหมาะสมหรือไม่ แต่เจ้าตัวยืนยันว่า สามารถอธิบายได้ว่าเป็นการลงทุนทำธุรกิจปกติ อ้างว่านี่เป็นแผนดิสเครดิตของบางกลุ่มที่ต้องการสกัดไม่ให้นั่งเก้าอี้เบอร์หนึ่งของ สตช. ก็ว่ากันไป ชาวบ้านจะให้คำตอบเอง เหมาะ หรือไม่เหมาะ !!
00 เอาเป็นว่าเห็นรายชื่อที่กรรมการสรรหาแต่ละด้านก็พอมองเห็นเส้นทางข้างหน้าชัดขึ้น ขอให้พินิจพิจารณากันเอาเอง ถามว่า คนอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาคสช. ที่ติดโผเป็น กก.สรรหาฯ ด้านการเมือง จะเชี่ยวชาญ จะคัดสรรคนประเภทไหนเข้ามา คนอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กรรมการสรรหาด้านการปกครองท้องถิ่น จะมีความเชี่ยวชาญแค่ไหน เชื่อว่าสังคมในยุคนี้คงได้เห็นคำตอบที่รออยู่ข้างหน้าแล้วว่าเป็นอย่างไร จริง หรือปลอม เดาทางกันไม่ยากใช่มั๊ย !!
00 แต่ที่เป็นคำถามโดนใจมากที่สุดเห็นจะเป็นด้าน "พลังงาน" ที่เป็นคนของ ปตท. มากันแบบยกชุด ยกแผงพร้อมหน้าพร้อมตา ถ้าเรียกว่าคนพวกนี้เป็น "ขาใหญ่" ด้านพลังงานก็ไม่ผิด เอ้าดูรายชื่อกันก่อน เริ่มจาก ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตผู้ว่าฯปตท. ที่นั่งเก้าอี้จนเกษียณขยายเพดานไปต่อไม่ได้ แต่ก็ยังวนเวียนเป็นกรรมการบอร์ดมาอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นสัญญลักษณ์ของ ปตท. ก็ว่าได้ รายต่อมาคือ พละ สุขเวช นี่ก็เป็นอดีตผู้ว่าการการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ก่อนแปรรูปมาเป็น ปตท. ในอดีตเคยเป็น กรรมการปตท. กรรมการไทยออยล์ สารพัด และที่น่าสนใจคือ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญสำคัญในการฟื้นฟูกิจการของ "ทีพีไอ" จนนำไปสู่การฮุบของ ปตท.ในที่สุด
00 ตามด้วย วิเศษ จูภิบาล รายนี้เคยเป็นผู้บริหาร ปตท. มาตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นการปิโตรเลียมฯ เช่นเดียวกันมีบทบาทสำคัญในการแปรรูปปตท. และต่อมาได้ดิบได้ดีเป็น รมว.พลังงานในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 48 อ้อเกือบลืมไปพี่น้อง วิเศษ จูภิบาล คนนี้แหละ ที่มีส่วนสำคัญรับลูกขับเคลื่อนพยายามให้มีการแปรรูป (ขาย) กฟผ. แต่เกิดการต่อต้าน และต่อมาศาลปกครองชี้ว่ามิชอบ จนต้องดับฝันกันไป นี่ยังไม่นับ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นประธานบอร์ด ปตท. ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เป็นไงกันบ้าง เมื่อเห็นรายชื่อเรื่อยมาจนมาถึงกรรมการสรรหาด้านปฏิรูปพลังงาน คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันให้มากความกันแล้ว ใช่หรือไม่พี่น้อง เพราะเชื่อว่าทุกคนคิดเองได้ว่าเป็นอย่างไร
00 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอาคนของปตท.เอาคนที่เคยมีบทบาทสำคัญในการขายรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน ซึ่งถือว่าเป็น"ความมั่นคง" ไปแบ่งให้กลุ่มทุนทั้งในและต่างชาติ รวมทั้งเปิดช่องให้นักการเมืองเข้ามาร่วมถือหุ้น ที่สำคัญคนพวกนี้ล้วนเคยเป็น "มือไม้" ของทักษิณ ชินวัตร เสียด้วย ส่วนจะไว้ใจได้แค่ไหน หรือว่า "ต้องเงียบ" อย่ากวนน้ำให้ขุ่น ตามที่"ทั่นผู้นำ"ขอเอาไว้ และขอเวลาอีกไม่นานเท่านั่น ก็ว่ากันไป !!
00 วกมาที่วงการ "สีกากี" กันมั่ง เพราะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ผ่านโค้งสุดท้ายเข้าทางตรงอีกไม่กี่ก้าวจะถึงเส้นชัยอยู่แล้วสำหรับเก้าอี้ ผบ.ตร. นาทีนี้กำลังลุ้นชิงดำเหลืออยู่แค่สองคนเท่านั้น คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กับ พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ แต่แล้วจู่ๆ รายแรกคือ สมยศ ดันมีข่าวไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง จำนวน 855 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดคำถามว่า เอาเงินมาจากไหนมากมายนัก และในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เป็นตำรวจ มันเหมาะสมหรือไม่ แต่เจ้าตัวยืนยันว่า สามารถอธิบายได้ว่าเป็นการลงทุนทำธุรกิจปกติ อ้างว่านี่เป็นแผนดิสเครดิตของบางกลุ่มที่ต้องการสกัดไม่ให้นั่งเก้าอี้เบอร์หนึ่งของ สตช. ก็ว่ากันไป ชาวบ้านจะให้คำตอบเอง เหมาะ หรือไม่เหมาะ !!
