“ไพบูลย์” ชี้ หัวหน้า คสช. เหมาะสมนั่งนายกฯ เผย ผลงานเป็นที่ยอมรับของประชาชน สมควรบริหารงานประเทศต่อ เชื่อ ครม. ชุดใหม่เข้าใจปัญหา เดินหน้างานได้ดี พร้อมเขินข่าวนั่ง รมว.ยุติธรรม เผย คสช. คัดเลือก กก.สรรหา สปช. 11 คณะแล้ว รอสมบูรณ์ก่อนประกาศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในโครงการ “ศาสนธรรมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดพื้นที่กรุงเทพมหานคร” โดยมี สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ในฐานะเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม วรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
โดย พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงกระบวนการภายหลังการเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ภายหลังเปิดสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ จะมีการเลือกประธานสภา จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะนำชื่อประธาน สนช. ขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ต่อไป จากนั้นจะมีการกำหนดวันประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี โดย สนช. จะโหวตเลือกบุคคลที่สมาชิกได้เสนอขึ้น แล้วประธาน สนช. ก็จะนำชื่อนายกฯ ที่ สนช. เห็นชอบ ทูลเกล้าฯ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน
“แต่ถ้าถามว่าใครจะเป็นนายกฯ ในส่วนตัวผมเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีความเหมาะสม เพราะที่กล่าวอย่างนี้ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ได้มีการควบคุมอำนาจการบริหารประเทศ และได้สัญญาประชาคมกับพี่น้องประชาชนว่าจะนำพาประเทศชาติสู่ความปลอดภัย และจะมีความสุข โดยตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา การบริหารประเทศอยู่ภายใต้การดูแลของ คสช. และจากการสำรวจความเห็นพี่น้องประชาชน พบว่ามีความพึงพอใจการแก้ไขปัญหา ไม่เฉพาะการปรองดอง แต่มีเรื่องของเศรษฐกิจด้วย”
ทั้งนี้ หัวหน้า คสช. ได้นั่งอยู่ในฐานะที่เหมือนนายกฯ และก็สามารถบริหารราชการ โดยไม่มีข้อบกพร่อง อีกทั้งหัวหน้า คสช. ได้พยายามศึกษางานของ กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ และจากความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเสียงที่สะท้อนกลับจากประชาชนก็มีความพอใจ ตนจึงเห็นว่า หัวหน้า คสช. มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ
“แน่นอน หัวหน้า คสช. ไม่ได้เติบโตด้านบริหาร แต่ก็ได้ศึกษา และใช้คนเป็น ในการบริหารบ้านเมือง ซึ่งจะเห็นได้จากการที่หัวหน้า คสช. แถลงผลงานในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ซึ่งท่านมีความเข้าใจการบริหารงานของประเทศชาติ ถ้าหากแถลงออกมาแล้วประชาชนร้องยี้ ก็จะเกิดผลกระทบย้อนมาสู่ท่านเอง ทุกครั้งที่ท่านแถลงทุกวันศุกร์ ผมมีความเข้าใจว่า ท่านหัวหน้า คสช. เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการประคับประคองบริหารประเทศเป็นไปตามโรดแมป ของ คสช. และที่ผ่านๆ มา ท่านก็สามารถทำได้ดีในการเข้ามาบริหารประเทศ” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า อยากให้ประชาชนได้พิสูจน์การบริหารงานประเทศของหัวหน้า คสช. ด้วย ไม่ใช่ตนเป็น คสช. แล้วจะมาพูด แต่อยากให้เปรียบเทียบทุกอย่างที่เกิดขึ้น รวมถึงขอให้มองด้วยความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม คสช. จะพยายามสร้างสิ่งที่ดีงาม ถูกต้อง ด้วยความสุจริต และยุติธรรม ตามที่ได้เคยพูดไว้
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงการคณะกรรมการ 11 คณะ ที่จะคัดสรรสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า ตามรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 คสช. จะเป็นผู้คัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งกรรมการทั้ง 11 คณะ เพื่อคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมจากการเสนอชื่อขององค์กรต่างๆ เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ สปช. ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับงาน บุคคลที่ถูกคัดเลือกจะมาจากด้านต่างๆ ทั้งด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยต้องมีความรู้ในสาขานั้นๆ ขณะนี้คงเริ่มดำเนินการแล้ว ส่วนจะประกาศเมื่อใดต้องเฝ้าดูต่อไป ซึ่งตนไม่มั่นใจว่าสมบูรณ์หรือยังว่ามีบุคคลใดจะมาดำรงตำแหน่งในแต่ละคณะ
เมื่อถามว่าส่วนตัวอยากได้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มาบริหารงานแบบใด พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า อยากได้ ครม. ที่เข้ามาบริหารประเทศ แต่ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องเป็นเรื่องของนายกฯที่จะเลือก ครม. ซึ่งตนเข้าใจว่าหัวหน้า คสช. มีรายชื่อคนที่อยู่ในใจอยู่แล้ว และเชื่อว่าสามารถคัดเลือกคนที่จะมาดูแลประเทศชาติได้ ทั้งนี้ อยากให้มีการประกาศนายกฯอย่างเป็นทางการก่อน เมื่อถามอีกว่า มีกระแสข่าวว่าจะมาเป็น รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ ได้แต่ยิ้มรับ โดยไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด พร้อมกับเดินทางกลับทันที