xs
xsm
sm
md
lg

คุก2ปี"ชวนนท์"หมิ่นฯ"ปึ้ง" อัดเด้ง"ทูตวีรชัย"เอื้อเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (6 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.4990/2554 ที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ มอบอำนาจให้ นายวิรัช ศรีอินทรสุทธิ์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์, บริษัท เอ็นเคที นิวส์ จำกัด ผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.กรุงเทพธุรกิจ, น.ส.นิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ อดีตบรรณาธิการข่าวการเมือง, บริษัท เอ็นเอสที นิวส์ จำกัด ผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก และ นายเฉลียว คงตุก บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.คม ชัด ลึก เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกัน หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328
โจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย. 54 นายชวนนท์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า นายสุรพงษ์ โจทก์ซึ่งเป็น รมว.ต่างประเทศ ได้ให้ นายอัษฎา ชัยนาม ออกจากประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) และให้นายวีรชัย พลาศรัย ออกจากกรรมาธิการเจบีซี เพื่อประโยชน์แก่กัมพูชา ซึ่งเป็นความเท็จ และต่อมาจำเลยที่ 2-6 ได้นำตีพิมพ์เผยแพร่ข่าวในวันที่ 25 ก.ย. 54 การกระทำของพวกจำเลย ทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย เหตุเกิดที่ พรรคประชาธิปัตย์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
ขณะที่ศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว เห็นว่าคดีมีมูล จึงให้ประทับรับคำฟ้องไว้พิจารณา เพื่อมีคำพิพากษาต่อไป ชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ส่วนจำเลยที่ 2-6 ซึ่งเป็นบรรณาธิการ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และ นสพ.คมชัดลึก โจทก์ ได้ถอนฟ้องคดีไปแล้ว
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานชั้นพิจารณาที่โจทก์นำสืบ และจำเลยต่อสู้คดีแล้ว เห็นว่า คำแถลงของ จำเลยที่ 1 ได้กล่าวถึงโจทก์ ซึ่งจำเลยที่ 1 อ้างว่า เป็นการตั้งคำถามตรวจสอบโจทก์ และปกป้องประโยชน์ชาติ แต่หลังจากการแถลงข่าว ก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ได้ดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายในสภาฯ และตรวจสอบต่อ ขณะที่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว อีกทั้งภายหลังจากที่นายอัษฎา และ นายวีรชัย ออกจากตำแหน่ง ก็ไม่ปรากฏว่า มีการกระทำใดๆ ในพื้นที่ 4.6 ตารากิโลเมตร ที่ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการเผยแพร่ ไขข่าว ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ย่อมทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิด และโจทก์ได้รับความเสียหาย
พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานหมิ่นประมาทฯ ให้จำคุก 2 ปี และปรับ 100,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน จึงเห็นควรให้รอการลงโทษจำคุก มีกำหนด 2 ปี โดยให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาย่อ ในหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ และ นสพ.คมชัดลึก เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน
ภายหลัง นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนเคารพคำพิพากษาของศาล แต่จะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป และคงต้องรอปรึกษากับทนายความอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมาย ซึ่งมีหลายแง่มุม เราคิดว่าได้ยืนยันข้อเท็จจริงที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ในกระบวนการต่างๆ โดยก็จะพยายามเรียบเรียงข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อนำมาใช้ต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการทำหน้าที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติจะได้รับการคุ้มครอง

-
กำลังโหลดความคิดเห็น