xs
xsm
sm
md
lg

“ชวนนท์” โฆษก ปชป.เจอคุก 2 ปี แถลงข่าวหมิ่น “ปึ้ง” เด้งทูตวีรชัย เอื้อเขมร

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 1 แสนบาท “ชวนนท์” โฆษก ปชป. คดีหมิ่นประมาท แถลงข่าว “สุรพงษ์” อดีต รมว.ต่างประเทศ สั่งเด้ง “อัษฎา ชัยนาม-ทูตวีรชัย” เพื่อเื้อประโยชน์ให้กัมพูชา เมื่อปี 2554 แต่โทษให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ขณะจำเลยยืนยันอุทธรณ์สู้คดีต่อไป



ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (6 ส.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.4990/2554 ที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ มอบอำนาจให้นายวิรัช ศรีอินทรสุทธิ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์, บริษัท เอ็นเคที นิวส์ จำกัด ผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.กรุงเทพธุรกิจ, น.ส.นิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ อดีตบรรณาธิการข่าวการเมือง, บริษัท เอ็นเอสที นิวส์ จำกัด ผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก และนายเฉลียว คงตุก บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.คมชัดลึก เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328

โจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย. 2554 นายชวนนท์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่านายสุรพงษ์ โจทก์ซึ่งเป็น รมว.ต่างประเทศ ได้ให้นายอัษฎา ชัยนาม ออกจากประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) และให้นายวีรชัย พลาศรัย ออกจากกรรมาธิการเจบีซีเพื่อประโยชน์แก่กัมพูชา ซึ่งเป็นความเท็จ และต่อมาจำเลยที่ 2-6 ได้นำตีพิมพ์เผยแพร่ข่าวในวันที่ 25 ก.ย. 54 การกระทำของพวกจำเลยทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย เหตุเกิดที่พรรคประชาธิปัตย์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.

ขณะที่ศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่าคดีมีมูลจึงให้ประทับรับคำฟ้องไว้พิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาต่อไป ชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ส่วนจำเลยที่ 2-6 ซึ่งเป็นบรรณาธิการ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และ นสพ.คมชัดลึก โจทก์ได้ถอนฟ้องคดีไปแล้ว

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานชั้นพิจารณาที่โจทก์นำสืบและจำเลยต่อสู้คดีแล้ว เห็นว่า คำแถลงของจำเลยที่ 1 ได้กล่าวถึงโจทก์ ซึ่งจำเลยที่ 1 อ้างว่าเป็นการตั้งคำถามตรวจสอบโจทก์ และปกป้องประโยชน์ชาติ แต่หลังจากการแถลงข่าวก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ได้ดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายในสภาฯ และตรวจสอบต่อ ขณะที่ไม่ปรากฏว่าโจทก์เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว อีกทั้งภายหลังจากที่นายอัษฎา และนายวีรชัย ออกจากตำแหน่ง ก็ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำใดๆ ในพื้นที่ 4.6 ตารากิโลเมตรที่ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นการกะทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการเผยแพร่ไขข่าวด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ย่อมทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดและโจทก์ได้รับความเสียหาย

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานหมิ่นประมาทฯ ให้จำคุก 2 ปีและปรับ 100,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน จึงเห็นควรให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี โดยให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ และ นสพ.คมชัดลึก เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วันด้วย

ภายหลัง นายชวนนท์กล่าวว่า ตนเคารพคำพิพากษาของศาล แต่จะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป และคงต้องรอปรึกษากับทนายความอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมายซึ่งมีหลายแง่มุม เราคิดว่าได้ยืนยันข้อเท็จจริงที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ในกระบวนการต่างๆ โดยก็จะพยายามเรียบเรียงข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อนำมาใช้ต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการทำหน้าที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติจะได้รับการคุ้มครอง








กำลังโหลดความคิดเห็น