เพื่อไทยฟอร์มเดิม ออกแถลงการณ์ 9 ข้อค้านนายกฯ รัฐบาล นอกรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มาจกการเลือกตั้ง อ้างพรรคปฏิรูปตัวเองก่อนปฏิรูปประเทศ จี้ กกต.เร่งจัดการเลือกตั้ง แย้มแผนปฏิรูป ต้องให้องค์กรอิสระ เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน เพื่อความโปร่งใส
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) วันนี้ (19 พ.ค.) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค ร่วมอ่านแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย เรื่อง “บ้านเมืองจะสงบสุขเมื่อยุติการบิดเบือนกฎหมาย”
นายโภคินกล่าวว่า 1. ตามที่ได้มีหลายฝ่ายพยายามหาทางออกให้แก่สังคมไทย เพื่อให้เดินหน้าไปอย่างสันตินั้น พรรคเพื่อไทยขอชื่นชมและให้กำลังใจทุกฝ่ายที่กระทำไปโดยสุจริตตามหลักการประชาธิปไตยและหลักนิติรัฐ นิติธรรม เคารพและอธิบายกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา แต่พรรคเพื่อไทยขอตำหนิ คัดค้านและต่อต้านบุคคลหรือองค์กรใดก็ตามที่บิดเบือนประชาธิปไตยและกฎหมาย เพื่อสนองตอบต่อขบวนการเผด็จการอำนาจนิยมที่จะสถาปนานายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนอกรัฐธรรมนูญ ที่มิได้มาจากการเลือกตั้งและการเคารพในสิทธิเลือกตั้งของประชาชน
2. มีความพยายามอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบของนักกฎหมาย กลุ่มบุคคลที่อยู่ในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ กลุ่ม กปปส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และแนวร่วมต่างๆ ที่โกหกหลอกลวงผู้คนในสังคมว่าประเทศต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ประเทศต้องมีนายกฯ และรัฐบาลตามมาตรา 7 หรือนายกฯ และรัฐบาลคนกลาง รัฐบาลเฉพาะกิจ รัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ฯลฯ โดยไม่มีความชัดเจนว่าจะปฏิรูปอะไร และมีกระบวนการที่ถูกต้องชอบธรรม ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร เพื่อให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ ตรงกันข้าม กลุ่ม กปปส. กลับต้องการเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตั้งสภาปฏิรูปของตนเอง
วุฒิสมาชิกลุ่มหนึ่งก็จะอาศัยการเทียบเคียงกฎหมายเพื่อให้มีรัฐบาลเฉพาะกิจที่มีอำนาจเต็ม โดยไม่มีกฎหมายใดรองรับ เป็นการคิดเองเออเอง กรรมการ ป.ป.ช.บางคนก็อ้างว่าประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือ กฎหมายสูงสุด ไม่ใช่รัฐธรรมนูญอีกต่อไป ทั้งที่ ป.ป.ช.ทุกวันนี้มีขึ้นได้ก็เพราะรัฐธรรมนูญ กลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นธาตุแท้ว่า แม้แต่รัฐธรรมนูญเผด็จการ 2550 ที่พวกเขาเขียนขึ้นเอง เขายังไม่เคารพนั่นคือ ไม่เคารพแม้แต่ตนเอง คงมุ่งตอบสนองการที่พวกตนจะได้ครองอำนาจอย่างอยุติธรรม เพื่อตักตวงผลประโยชน์จากสังคมและพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะชาวรากหญ้าตลอดไป
3. เอกสารแผนบันได 8 ขั้นของสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนที่ปรากฏในกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เมื่อ 16 พฤษภาคม 2557 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าถ้าเป็นจริงตามนั้นจะมีการใช้วุฒิสภายึดอำนาจการปกครอง ทำลายระบอบประชาธิปไตย สร้างความระคายเคืองและต้องฉีกรัฐธรรมนูญหลายมาตราด้วยการตั้งนายกฯ และคณะรัฐมนตรีนอกรัฐธรรมนูญโดยวุฒิสภาซึ่งขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง และต่อไปก็จะอนุมัติงบประมาณ 2558 โดยวุฒิสภาเพื่อใช้เงินแผ่นดินโดยไม่มีการตรวจสอบของประชาชนผ่านสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยไม่เข้าใจว่าคนระดับนี้มีแนวคิดที่เหยียดหยามความรู้สึก และไม่เคารพอำนาจของประชาชนได้อย่างไร ซึ่งน่าจะเป็นเพราะวุฒิสมาชิกส่วนใหญ่ที่คิดเช่นนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนนั่นเอง
4. พรรคเพื่อไทยขอประณามและคัดค้านการข่มขู่คุกคามทั้งหลายของ กปปส. และแนวร่วมที่กระทำต่อคณะรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชน ตลอดจนการปลุกปั่นยุยงให้ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจกระทำผิดกฏหมาย เพื่อให้ยอมรับการกระทำที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ขัดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย หลักการประชาธิปไตย และหลักสิทธิมนุษยชน พรรคเพื่อไทย จะต่อสู้อย่างถึงที่สุดร่วมกับพี่น้องประชาชนเพื่อปกป้องประชาธิปไตย และการเคารพกฎหมาย
5. พรรคเพื่อไทย ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า เมื่อพูดถึงการปฏิรูปนั้น พรรคต้องการปฏิรูปตัวเองก่อน ด้วยการปรับเปลี่ยนกฎข้อบังคับ และแนวปฏิบัติทั้งหลายที่พรรคสามารถทำได้ในกรอบของกฎหมาย เพื่อทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ประกอบด้วยสมาชิก สาขา กลุ่มสาขาในโซนต่างๆ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ในแต่ละระดับ และผู้สนับสนุน มีการนำเสนอปัญหาและแนวทางในการบริหารประเทศและรับใช้ประชาชนจากทุกภาคส่วน เพื่อกำหนดเป็นแนวทางและนโยบายของพรรคผ่านการมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ
ขณะนี้พรรคได้เริ่มทำแล้วคือการมีคณะกรรมการกิจการพรรค ซึ่งมีตัวแทนจากภาค และโซนต่างๆ คณะกรรมการบริหารพรรคคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ฝ่ายวิชาการประมาณ 50 คน ร่วมกันวิเคราะห์และกำหนดท่าที ตลอดจนทิศทางที่พรรคพึงดำเนินการเสนอต่อสังคมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และจะมีการดำเนินการในลักษณะเช่นนี้สำหรับเรื่องอื่นๆ ต่อไป รวมทั้งกระบวนการทั้งหลายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และการกำหนดนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง
6. พรรคเพื่อไทย จะนำเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศไทยในด้านต่างๆ อย่างเป็นขั้นตอน โดยเริ่มนำเสนอต่อประชาชนในลักษณะของนโยบายในช่วงเลือกตั้ง จากนั้นจะเป็นข้อเสนอแก่สภาปฏิรูปประเทศไทยที่จะต้องมีกฎหมายจัดตั้งภายหลังการเลือกตั้งและมีสภาผู้แทนราษฎร เพื่อทำแผนปฏิรูปประเทศเสนอประชาชนลงประชามติต่อไป จึงขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองและทุกฝ่ายได้เสนอแนวทางปฏิรูปประเทศต่อประชาชนที่เป็นรูปธรรมและอยู่ในกรอบของกฎหมายเพื่อให้บังเกิดผลอย่างจริงจัง
7. สำหรับการปฏิรูปการเลือกตั้งนั้น หากพรรคประชาธิปัตยืไม่บอยคอต กปปส.และแนวร่วมไม่ขัดขวางการเลือกตั้งแล้ว จะต้องมีการปฏิรูปเช่นใดบ้าง พรรคเพื่อไทยขอให้ กกต. ซึ่งมีอำนาจและรับผิดชอบการจัดการเลือกตั้งได้เสนอต่อสังคมว่า มีประเด็นอะไรต้องปฏิรูปบ้าง และประเด็นเหล่านั้นเรื่องใดอยู่ในอำนาจของ กกต. ที่จะแก้ไขหรือเพิ่มเติมประกาศระเบียบของ กกต.เรื่องใดต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องใดต้องแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความชัดเจนและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ส่วนการขัดขวางของพรรค ปชป. กปปส. และแนวร่วมนั้น หากจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ ระเบียบ หรือกฎหมายย่อมไม่ใช่การปฏิรูป แต่เป็นการแก้ปัญหาที่เกิดจากกลุ่มที่ไม่เอาระบอบประชาธิปไตยและกฎหมาย
8. พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับนักวิชาการบางส่วนที่เสนอว่าการปฏิรูปเรื่องทุจริต คอร์รัปชันนั้น ในเบื้องต้นองค์กรทั้งหลายโดยเฉพาะองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นศาล องค์กรอิสระ หรือองค์อื่นตามรัฐธรรมนูญ จะต้องแสดงความโปร่งใสและเป็นแบบอย่างอันดีงามให้แก่สังคมตั้งแต่บัดนี้ ด้วยการเปิดเผยทรัพย์สินต่อสาธารณะเช่นเดียวกับ ส.ส., ส.ว. และรัฐมนตรี และควรนำแบบอย่างของสหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย มาใช้ด้วย คือ รายได้ทั้งหมดที่ได้รับ เช่น เบี้ยประชุม รถประจำตำแหน่ง ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ ฯลฯ สรุป คือ รายได้ที่เป็นสวัสดิการจากรัฐ และรายได้พิเศษอื่นๆ ตลอดจนแบบแสดงการเสียภาษี ลงเปิดเผยในเว็บไซต์ขององค์กรของตน หรือของ ป.ป.ช. เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ถ้าเริ่มต้นเช่นนี้สังคมจะยิ่งตระหนักและเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาดังกล่าว และต่อไปก็จะเกิดความสำนึกในภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แม้แต่องค์กรสื่อมวลชน ที่บุคคลระดับสำคัญจะต้องแสดงทรัพย์สินต่อสาธารณะเช่นเดียวกัน
9. พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้องค์กรตามรัฐธรรมนูญทั้งหลายยุติการบิดเบือนประชาธิปไตยและกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ขบวนการเผด็จการ และขอให้ กกต.รีบทำหน้าที่ของตน อย่าพยายามหาข้ออ้างต่างๆ นานาเพื่อไม่จัดการเลือกตั้ง เลื่อนการเลือกตั้ง ไม่รณรงค์ให้ประชาชนไปเลือกตั้งอย่างเต็มกำลัง เพราะมิเช่นนั้นประชาชนจะเข้าใจได้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ของขบวนการเผด็จการ
สุดท้าย ในแถลงการณ์ได้ขอคารวะต่อวิญญาณของพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิตในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 และขอความเสียใจต่อผู้ได้รับบาดเจ็บรวมถึงญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกท่าน พท.จะยืนเคียงข้างกับพวกท่านในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมตลอดไป
นายโภคินยังกล่าวถึงการเตรียมการรับมือของพรรคต่อแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.ว่า ตามที่แถลงการณ์นี้ได้แจ้งไปแล้วว่า แนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. นั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายทั้งหมด และศาลได้ออกหมายจับข้อหาก่อการกบฏกับแกนนำเกือบทั้งหมดแล้ว ดังนั้นจึงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากจะอยู่ในระบบปกติ เคารพรัฐธรรมนูญ เคารพกฎหมาย พรรคเพื่อไทยก็จะยืนหยัดเช่นนี้ต่อไปและถ้าผู้ใดที่ปฏิบัติออกนอกกฎหมาย ทางพรรคก็จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อต่อต้าน แต่จะทำในกรอบของกฎหมายเท่านั้น
ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งเรื่องให้ศาล และศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว จะทำให้เกิดความเคลื่อนไหวต่อเนื่องอีกหรือไม่ นายโภคินกล่าวว่า เป็นเรื่องของดีเอสไอ และ ศอ.รส. ถ้าเห็นว่าผู้ที่เคลื่อนไหวเหล่านั้นผิดเงื่อนไขการประกันตัว ก็ต้องมีหน้าที่ไปยื่นขอศาลเพื่อไม่ให้ประกันตัวต่อไป