ASTVผู้จัดการรายวัน - "ม.ล.ปนัดดา" เผยผลการตรวจสอบโกดังข้าวในหลายจังหวัด พบข้าวขาดหายจากบัญชี ไม่สามารถระบุเหตุผลได้เกิน 5% เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ด้านมติ ป.ป.ช.ไม่แจง 7 ข้อโต้แย้ง"ยิ่งลักษณ์"ปมทุจริตจำนำข้าว วงในระบุ"ปู-หญิงอ้อ"บินนอก 24 ก.ค. ผงะ!ตรวจโกดังข้าว อ.ต.ก.แปดริ้ว ถูกแปรสภาพจนกลายเป็นฝุ่น “หมอวรงค์” แนะ “ยิ่งลักษณ์” ใจเย็นเดี๋ยวมีรมต.ถูกเชือดเป็นเพื่อนแน่ สวน “กิตติรัตน์” จำนำข้าวต่างกับประกันรายได้ ที่ทุจริตต้นถึงปลายน้ำ
วานนี้ (22 ก.ค.) หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจข้าวในโกดังต่างๆว่า ผลการตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือของรัฐ ประจำวันที่ 21 ก.ค. 57 ปัญหาปริมาณข้าวขาดหายจากบัญชีโดยไม่ระบุเหตุผลเกิน 5% มีเกิดขึ้นในโกดังหลายพื้นที่นอกเหนือจากปัญหาอื่นๆ ซึ่งคณะทำงานฯ นำโดยผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงต่างๆ ได้รายงานให้ประธานคณะอนุกรรมการฯ ทราบ ได้แก่ จ.ชัยนาท, ลำพูน และเชียงราย
***มติป.ป.ช.ไม่แจง7ข้อโตแย้ง'ปู'
ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วานนี้ (22 ก.ค.) ได้มีการประชุมถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่เป็นธรรม ที่ถูกชี้มูลความผิดในโครงการรับจำนำข้าว โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.เตรียมทำหนังสือชี้แจงข้อสังเกตทั้ง 7 ข้อของสาธารณชนนั้น ล่าสุด นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.แถลงว่า ที่ประชุมมีมติไม่ชี้แจงหรือตอบโต้ กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งข้อสังเกตถึงการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ใน 7 ประเด็น กรณี ป.ป.ช.ชี้มูลดำเนินคดีทางอาญาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการตอบโต้ไปมา อีกทั้งเห็นว่าหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ทั้งนี้ การดำเนินงานของ ป.ป.ช.จะมีการปรับสำนวนให้เป็นไปตามมติก่อนเสนอให้ ป.ป.ช.ลงนามและส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ที่คาดว่าจะสามารถยื่นต่ออัยการสูงสุดได้ในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม หากอัยการมีมติสั่งไม่ฟ้องตามหลักการ ป.ป.ช.จะนำสำนวนกลับมาพิจารณาว่าจะตั้งทนายยื่นฟ้องคดีเองหรือไม่
**"ปู-หญิงอ้อ"บินนอก 24 ก.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขออนุญาตคสช. เดินทางออกนอกประเทศ ในช่วงระหว่างวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 10 ส.ค. และได้รับการอนุญาตจากคสช.แล้วนั้น
แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ ด้วยเที่ยวบิน ในเวลา 00.45 น. ของวันที่ 24 ก.ค. โดยเดินทางไปพร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร (น้องไปป์ ) บุตรชาย และ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 22.30 น. วันที่ 23 ก.ค. โดยการเดินทางครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปร่วมงานวันเกิดครบ 65 ปี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ด้วย ขณะที่ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ นายสมชาย วงศ์สวัสด์ อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางคนละเที่ยวบิน กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยจะไป วันที่ 25 ก.ค. ทั้งนี้ เป็นการเดินทางภายหลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ในโครงการรับจำนำข้าวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และเตรียมส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง
***ผงะ!โกดังข้าวอ.ต.ก.แปดริ้วพบกลายเป็นฝุ่น
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว คณะชุดตรวจที่ 4 ซึ่งนำโดย นายวิศว ศะศิสมิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการตรวจ ในสายการตรวจสอบข้าว 3 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และสระแก้ว พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการข้าวระดับจังหวัด ซึ่งนำโดย นายบำรุง เจียรมาศ การค้าภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงคณะทำงานร่วมจากฝ่ายต่างๆ และเจ้าหน้าที่จากฝ่ายทหาร
โดยมี พ.อ.บรมวิทย์ วรูประภา รอง ผบ.กรม 111 กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นหน่วยทหารอำนวยการในพื้นที่ เข้ามาร่วมตรวจ และมี พ.ท.ชาลี วิสศิริ ตัวแทนจาก มทบ.14 จ.ชลบุรี คณะกรรมการผู้ทำการตรวจสอบ รวมถึงนายสมศักดิ์ ทองกัญชร นายอำเภอพนมสารคาม นางธัญญารักษ์ เจริญปรุ ผู้แทนจาก อ.ต.ก. เข้าทำการตรวจสอบโกดังกลางเก็บข้าว ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ในพื้นที่ ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
หลังเปิดประตูโกดังข้าวเข้าไปพบกองข้าวล้ม 1 กอง เป็นกองข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่สามารถคำนวณปริมาณ และตรวจนับจำนวนได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้คนงานทำการยกกระสอบออก เพื่อนำมาจัดเรียงใหม่ แต่ปรากฏว่า ขณะยกออกเพื่อเคลื่อนย้ายนั้น พบว่ามีกระสอบแตกจนมีเศษฝุ่นพุ่งทะลักออกมาจากภายในกระสอบเป็นจำนวนมาก ขณะที่เมล็ดข้าวนั้นได้กลายสภาพไปอยู่ในรูปทรงที่ไม่สมบูรณ์ และยุบตัวลง บางกระสอบยุบหายไปจากกระสอบเป็นจำนวนมาก
จนทำให้ฝ่ายทหาร โดย พ.อ.บรมวิทย์ วรูประภา รอง ผบ.กรม 111 กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นหน่วยทหารอำนวยการในพื้นที่ จะเดินทางเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้รับผิดชอบ ยัง สภ.พนมสารคาม แต่ได้ถูกกลุ่มคณะผู้ตรวจสอบบางส่วน ได้ขอให้ชะลอการเข้าแจ้งความเอาไว้ก่อน โดยขอให้มีการเก็บตัวอย่างข้าวส่งเข้าตรวจสอบพิสูจน์คุณภาพข้าวที่แน่ชัดเสียก่อนว่าคุณภาพข้าวได้รับความเสียหาย หรือเสื่อมคุณภาพไปมากน้อยเพียงใด
นอกจากกองข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ที่แปรสภาพกลายเป็นฝุ่น จนทำให้กระสอบข้าวยุบตัวเอียงล้มลงมาแล้ว ยังมีกองข้าวหอมจังหวัดที่อยู่ในสภาพที่มีมอดเกาะตายเกลื่อนกองอยู่ที่ด้านนอกกระสอบ และมีเศษขี้มอดติดอยู่เต็มพื้นผิวด้านนอกของกระสอบเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ภายในบริเวณโกดังเก็บข้าวยังมีกระสอบข้าววางกองระเกะระกะ อีกทั้งยังอยู่ในสภาพสกปรก มีคราบเศษขี้มอดเน่าติดอยู่ตามพื้นโกดังอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับโกดังเก็บข้าวแห่งนี้ได้เคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวมาแล้ว เมื่อช่วงประมาณกลางปี 2556 ที่กลุ่มชาวไร่มันได้กลิ่นเหม็นหืนของขี้มอดจากข้าวสารในโกดังปลิวลอยออกไปเตะจมูก และได้มีการร้องเรียนจนเป็นข่าวอื้อฉาว จนกระทั่งมีคณะอนุกรรมาธิการข้าววุฒิสภาเดินทางมาตรวจสอบ และพบว่าข้าวสารในโกดังขณะนั้น มีมอดมาก และกัดกินข้าวสารจนกลายเป็นฝุ่นแป้ง รวมถึงมีข้าวตกเสียหายอยู่ที่พื้นโกดัง และยังมีเศษคราบสกปรกของขี้มอดเน่ากองติดอยู่ที่พื้นด้วย
***มทภ.3ยันภาคเหนือตรวจเสร็จทัน28 ก.ค.นี้
พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า การตรวจสอบโกดังข้าวในภาคเหนือทั้งหมด 755 แห่ง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดคือวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ส่วนปัญหาที่พบคือปริมาณข้าวไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ และข้าวเสื่อมคุณภาพ
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวถึงกรณี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาวิจารณ์คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ว่ามุ่งเอาผิดแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ในการชี้มูลคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า ตนเห็นข่าวที่อดีตรมต.คลังท่านหนึ่ง ตัดพ้อการทำงานของป.ป.ช.ในลักษณะแผ่นเสียงตกร่อง ซึ่งพยายามที่จะสื่อว่าถูกเหมารวมเป็นความผิดแต่ผู้เดียว โดยส่วนตนอยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ใจเย็น เพราะจะไม่ถูกชี้มูลความผิดคนเดียว คุณยิ่งลักษณ์ผิดแค่ไม่ระงับยับยั้ง ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่คนเดียว ส่วนรัฐมนตรีที่ทุจริตเชื่อว่าตามมาอีกหลายคนแน่
น.พ.วรงค์ กล่าวอีกว่า การพยายามโจมตีโครงการประกันรายได้ว่าก็มีการทุจริตนั้น ท่านไม่รู้จริงหรือว่า จุดเริ่มต้นของโครงการจำนำข้าว และประกันรายได้นั้นเหมือนกันทุกอย่าง แต่ต่างที่โครงการรับจำนำข้าว นำไปสู่กระบวนการทุจริต ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ สร้างความหายนะแก่ข้าวไทย และประเทศเสียหายไม่ต่ำกว่าห้าแสนล้านบาท พร้อมกับสร้างสิ่งที่เรียกว่าที่สุดของจำนำข้าวถึง 16 ข้อ
“ที่สำคัญ ท่านน่าต้องจำได้ว่า กระทรวงการคลังสมัยท่านที่ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี บอกไปว่า โครงการรับจำนำข้าวส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น ประเทศส่งออกข้าวรายอื่นได้ประโยชน์ ในขณะที่ไทยเราไม่สามารถขายข้าวได้ ท่านจำไม่ได้แล้วหรือ จึงอยากจะแนะนำอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า ก่อนที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตัดพ้อ หรือให้ร้ายคนอื่น เราต้องศึกษาให้ลึกซึ่งก่อน แค่การเรียกชื่อท่านยังเรียกผิดเลย เขาเรียกประกันรายได้ครับ ไม่ใช่ประกันราคาข้าว”
วานนี้ (22 ก.ค.) หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจข้าวในโกดังต่างๆว่า ผลการตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือของรัฐ ประจำวันที่ 21 ก.ค. 57 ปัญหาปริมาณข้าวขาดหายจากบัญชีโดยไม่ระบุเหตุผลเกิน 5% มีเกิดขึ้นในโกดังหลายพื้นที่นอกเหนือจากปัญหาอื่นๆ ซึ่งคณะทำงานฯ นำโดยผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงต่างๆ ได้รายงานให้ประธานคณะอนุกรรมการฯ ทราบ ได้แก่ จ.ชัยนาท, ลำพูน และเชียงราย
***มติป.ป.ช.ไม่แจง7ข้อโตแย้ง'ปู'
ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วานนี้ (22 ก.ค.) ได้มีการประชุมถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่เป็นธรรม ที่ถูกชี้มูลความผิดในโครงการรับจำนำข้าว โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.เตรียมทำหนังสือชี้แจงข้อสังเกตทั้ง 7 ข้อของสาธารณชนนั้น ล่าสุด นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.แถลงว่า ที่ประชุมมีมติไม่ชี้แจงหรือตอบโต้ กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งข้อสังเกตถึงการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ใน 7 ประเด็น กรณี ป.ป.ช.ชี้มูลดำเนินคดีทางอาญาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการตอบโต้ไปมา อีกทั้งเห็นว่าหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ทั้งนี้ การดำเนินงานของ ป.ป.ช.จะมีการปรับสำนวนให้เป็นไปตามมติก่อนเสนอให้ ป.ป.ช.ลงนามและส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ที่คาดว่าจะสามารถยื่นต่ออัยการสูงสุดได้ในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม หากอัยการมีมติสั่งไม่ฟ้องตามหลักการ ป.ป.ช.จะนำสำนวนกลับมาพิจารณาว่าจะตั้งทนายยื่นฟ้องคดีเองหรือไม่
**"ปู-หญิงอ้อ"บินนอก 24 ก.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขออนุญาตคสช. เดินทางออกนอกประเทศ ในช่วงระหว่างวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 10 ส.ค. และได้รับการอนุญาตจากคสช.แล้วนั้น
แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ ด้วยเที่ยวบิน ในเวลา 00.45 น. ของวันที่ 24 ก.ค. โดยเดินทางไปพร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร (น้องไปป์ ) บุตรชาย และ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 22.30 น. วันที่ 23 ก.ค. โดยการเดินทางครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปร่วมงานวันเกิดครบ 65 ปี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ด้วย ขณะที่ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ นายสมชาย วงศ์สวัสด์ อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางคนละเที่ยวบิน กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยจะไป วันที่ 25 ก.ค. ทั้งนี้ เป็นการเดินทางภายหลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ในโครงการรับจำนำข้าวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และเตรียมส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง
***ผงะ!โกดังข้าวอ.ต.ก.แปดริ้วพบกลายเป็นฝุ่น
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว คณะชุดตรวจที่ 4 ซึ่งนำโดย นายวิศว ศะศิสมิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการตรวจ ในสายการตรวจสอบข้าว 3 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และสระแก้ว พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการข้าวระดับจังหวัด ซึ่งนำโดย นายบำรุง เจียรมาศ การค้าภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงคณะทำงานร่วมจากฝ่ายต่างๆ และเจ้าหน้าที่จากฝ่ายทหาร
โดยมี พ.อ.บรมวิทย์ วรูประภา รอง ผบ.กรม 111 กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นหน่วยทหารอำนวยการในพื้นที่ เข้ามาร่วมตรวจ และมี พ.ท.ชาลี วิสศิริ ตัวแทนจาก มทบ.14 จ.ชลบุรี คณะกรรมการผู้ทำการตรวจสอบ รวมถึงนายสมศักดิ์ ทองกัญชร นายอำเภอพนมสารคาม นางธัญญารักษ์ เจริญปรุ ผู้แทนจาก อ.ต.ก. เข้าทำการตรวจสอบโกดังกลางเก็บข้าว ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ในพื้นที่ ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
หลังเปิดประตูโกดังข้าวเข้าไปพบกองข้าวล้ม 1 กอง เป็นกองข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่สามารถคำนวณปริมาณ และตรวจนับจำนวนได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้คนงานทำการยกกระสอบออก เพื่อนำมาจัดเรียงใหม่ แต่ปรากฏว่า ขณะยกออกเพื่อเคลื่อนย้ายนั้น พบว่ามีกระสอบแตกจนมีเศษฝุ่นพุ่งทะลักออกมาจากภายในกระสอบเป็นจำนวนมาก ขณะที่เมล็ดข้าวนั้นได้กลายสภาพไปอยู่ในรูปทรงที่ไม่สมบูรณ์ และยุบตัวลง บางกระสอบยุบหายไปจากกระสอบเป็นจำนวนมาก
จนทำให้ฝ่ายทหาร โดย พ.อ.บรมวิทย์ วรูประภา รอง ผบ.กรม 111 กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นหน่วยทหารอำนวยการในพื้นที่ จะเดินทางเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้รับผิดชอบ ยัง สภ.พนมสารคาม แต่ได้ถูกกลุ่มคณะผู้ตรวจสอบบางส่วน ได้ขอให้ชะลอการเข้าแจ้งความเอาไว้ก่อน โดยขอให้มีการเก็บตัวอย่างข้าวส่งเข้าตรวจสอบพิสูจน์คุณภาพข้าวที่แน่ชัดเสียก่อนว่าคุณภาพข้าวได้รับความเสียหาย หรือเสื่อมคุณภาพไปมากน้อยเพียงใด
นอกจากกองข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ที่แปรสภาพกลายเป็นฝุ่น จนทำให้กระสอบข้าวยุบตัวเอียงล้มลงมาแล้ว ยังมีกองข้าวหอมจังหวัดที่อยู่ในสภาพที่มีมอดเกาะตายเกลื่อนกองอยู่ที่ด้านนอกกระสอบ และมีเศษขี้มอดติดอยู่เต็มพื้นผิวด้านนอกของกระสอบเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ภายในบริเวณโกดังเก็บข้าวยังมีกระสอบข้าววางกองระเกะระกะ อีกทั้งยังอยู่ในสภาพสกปรก มีคราบเศษขี้มอดเน่าติดอยู่ตามพื้นโกดังอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับโกดังเก็บข้าวแห่งนี้ได้เคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวมาแล้ว เมื่อช่วงประมาณกลางปี 2556 ที่กลุ่มชาวไร่มันได้กลิ่นเหม็นหืนของขี้มอดจากข้าวสารในโกดังปลิวลอยออกไปเตะจมูก และได้มีการร้องเรียนจนเป็นข่าวอื้อฉาว จนกระทั่งมีคณะอนุกรรมาธิการข้าววุฒิสภาเดินทางมาตรวจสอบ และพบว่าข้าวสารในโกดังขณะนั้น มีมอดมาก และกัดกินข้าวสารจนกลายเป็นฝุ่นแป้ง รวมถึงมีข้าวตกเสียหายอยู่ที่พื้นโกดัง และยังมีเศษคราบสกปรกของขี้มอดเน่ากองติดอยู่ที่พื้นด้วย
***มทภ.3ยันภาคเหนือตรวจเสร็จทัน28 ก.ค.นี้
พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า การตรวจสอบโกดังข้าวในภาคเหนือทั้งหมด 755 แห่ง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดคือวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ส่วนปัญหาที่พบคือปริมาณข้าวไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ และข้าวเสื่อมคุณภาพ
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวถึงกรณี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาวิจารณ์คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ว่ามุ่งเอาผิดแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ในการชี้มูลคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า ตนเห็นข่าวที่อดีตรมต.คลังท่านหนึ่ง ตัดพ้อการทำงานของป.ป.ช.ในลักษณะแผ่นเสียงตกร่อง ซึ่งพยายามที่จะสื่อว่าถูกเหมารวมเป็นความผิดแต่ผู้เดียว โดยส่วนตนอยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ใจเย็น เพราะจะไม่ถูกชี้มูลความผิดคนเดียว คุณยิ่งลักษณ์ผิดแค่ไม่ระงับยับยั้ง ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่คนเดียว ส่วนรัฐมนตรีที่ทุจริตเชื่อว่าตามมาอีกหลายคนแน่
น.พ.วรงค์ กล่าวอีกว่า การพยายามโจมตีโครงการประกันรายได้ว่าก็มีการทุจริตนั้น ท่านไม่รู้จริงหรือว่า จุดเริ่มต้นของโครงการจำนำข้าว และประกันรายได้นั้นเหมือนกันทุกอย่าง แต่ต่างที่โครงการรับจำนำข้าว นำไปสู่กระบวนการทุจริต ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ สร้างความหายนะแก่ข้าวไทย และประเทศเสียหายไม่ต่ำกว่าห้าแสนล้านบาท พร้อมกับสร้างสิ่งที่เรียกว่าที่สุดของจำนำข้าวถึง 16 ข้อ
“ที่สำคัญ ท่านน่าต้องจำได้ว่า กระทรวงการคลังสมัยท่านที่ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี บอกไปว่า โครงการรับจำนำข้าวส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น ประเทศส่งออกข้าวรายอื่นได้ประโยชน์ ในขณะที่ไทยเราไม่สามารถขายข้าวได้ ท่านจำไม่ได้แล้วหรือ จึงอยากจะแนะนำอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า ก่อนที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตัดพ้อ หรือให้ร้ายคนอื่น เราต้องศึกษาให้ลึกซึ่งก่อน แค่การเรียกชื่อท่านยังเรียกผิดเลย เขาเรียกประกันรายได้ครับ ไม่ใช่ประกันราคาข้าว”
