xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์เชือดอาญา คสช.ปล่อย “ยิ่งลักษณ์” หนีคดีทุจริตจำนำข้าว?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ในที่สุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ลงดาบเชือดนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้อหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่เกิดขึ้นในทุกขั้นตอน โดยนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. แถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ว่า คณะกรรมการป.ป.ช. 7 คน ยกเว้นพล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง ที่ขอถอนตัวก่อนหน้านี้ ลงมติเอกฉันท์ว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดราคารับจำนำข้าวเปลือกสูงกว่าราคาตามท้องตลาด อันมีลักษณะเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด และมีการทุจริตทุกขั้นตอน ทั้งการขึ้นทะเบียนเกษตรกร การสวมสิทธิ์เกษตรกร โกงความชื้น โกงตาชั่ง นำข้าวมาเวียนเข้าโครงการ การลักลอบนำข้าวออกจากคลัง

ในส่วนของการระบายข้าวที่รับจำนำมีการใช้อิทธิพลทางการเมืองช่วยเหลือพวกพ้องให้ได้ข้าวจากโครงการไปจำหน่าย เกิดระบบนายหน้าค้าข้าว ไม่ประมูลข้าวอย่างเปิดเผย ก่อให้เกิดภาระรายจ่ายของรัฐและสภาวะขาดทุนจำนวนมาก ทั้งการอุดหนุนเกษตรกรและค่าใช้จ่ายต่างๆ และอาจมีปัญหาข้าวเสื่อมคุณภาพ ข้าวสูญหายจากโกดัง รัฐเป็นผู้ค้าข้าวรายใหญ่ ทำลายการค้าข้าวโดยเสรี โรงสีและผู้ส่งออกนอกโครงการไม่สามารถจัดหาข้าวได้เพียงพอ ส่วนโรงสีในโครงการได้เปรียบ และราคาข้าวไทยแพงกว่าต่างประเทศ สูญเสียตลาดส่งออกโดยสำคัญ การจำนำข้าวทุกเมล็ดทำให้เกิดความเสี่ยงจากการนำข้าวจากต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ ตลอดจนคุณภาพข้าวที่ต่ำลง เมื่อมีการระบายข้าวเกิดผลขาดทุนจำนวนมาก

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับรู้รับทราบจากผลการปิดบัญชีโครงการ รับรู้ว่ามีการทุจริตทุกขั้นตอน และมีชาวนาเข้าร่วมโครงการนับล้านครอบครัวไม่ได้รับเงิน เกิดความเสียหายและฆ่าตัวตาย จึงมีความจำเป็นที่นายกรัฐมนตรีจะต้องรับทราบและยับยั้งโครงการ แต่ยังดึงดันที่จะดำเนินโครงการต่อไป ก่อให้เกิดความเสียหายไปเรื่อยๆ การกระทำดังกล่าว จึงมีมูลความผิดต่อตำแหน่งตามมาตรา 157 ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต จึงได้ส่งรายงาน เอกสารพร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. มาตรา 70 ต่อไป

เป็นการลงมติของคณะกรรมการป.ป.ช. หลังจากที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ไฟเขียวให้นางสาวยิ่งลักษณ์ บินออกนอกประเทศ ไม่ถึง 24 ชั่วโมง
 
มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า การที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอบินออกประเทศเพื่อไปทัวร์ยุโรปและคาดว่าจะเข้าร่วมงานฉลองวันเกิดครบรอบ 65 ปี ของพี่ชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดี ที่เมืองฝรั่งเศส ในวันที่ 26 ก.ค. 2557 นั้น จะเป็นการหาทางหลบลี้หนีหนีคดีทุจริตจำนำข้าวหรือไม่?
 
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คำร้องขอนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้า คสช. เปิดไฟเขียวอนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า การทำหนังสือของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปยังพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขออนุญาตเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศแถบยุโรป ช่วงวันที่ 20 ก.ค. - 10 ส.ค. 2557 โดยจะเดินทางไปพร้อมกับด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย นั้น คณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้ อนุญาตให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปต่างประเทศได้ตามที่ร้องขอ เพราะที่ผ่านมาหลังจากคสช.มีคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือห้ามเดินทางออกนอกประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ให้ความร่วมมือด้วยดี ไม่มีพฤติกรรมต่อต้านขัดขวางแต่อย่างใด

ทว่า หลังจากคณะกรรมการป.ป.ช. มีมติฟันอาญานางสาวยิ่งลักษณ์ ออกมาแล้ว คสช. จะเปลี่ยนใจหรือไม่?

ไม่เฉพาะแต่การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป.ป.ช. เท่านั้น การทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวยังจะต้องมีผู้ร่วมกระทำผิดร่วมอีกพะเรอเกวียน โดยหลักฐานจากทีมเฉพาะกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลุยตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศผ่านไปแล้วกว่า 50% แล้วพบปัญหาข้าวหาย ข้าวเสื่อมสภาพ ฯลฯ สารพัด และนัดหมายจะส่งงานให้คสช.ในสิ้นเดือนก.ย.นี้

สำหรับการตรวจค้นโกดังถึงแม้จะยังไม่ครบทั้งหมด แต่กูรูในวงการค้าข้าวอย่างนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ก็ออกมาคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ข้าวในสต็อกของรัฐบาลจะด้อยมาตรฐานหรือเสื่อมสภาพอย่างน้อย 40% หรือประมาณ 6 - 7 ล้านตัน จากสต็อกประมาณ 18 ล้านตัน หมายความว่าผลการขาดทุนเสียหายจากโครงการจำนำข้าวจะเพิ่มมากขึ้น
 
จะเสียหายและขาดทุนป่นปี้กันเท่าไหร่อีกไม่นานคงได้รู้ตัวเลขกันชัดๆ แน่ๆ เพราะคณะอนุกรรมการฯ ผู้ตรวจราชการ และฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กำลังเร่งตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือในสต็อกทั่วประเทศ โดยจะสรุปรายงานส่งให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้
 
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น นายสมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองของชาติ ประเมินเบื้องต้นว่า ปริมาณข้าวในสต็อกที่กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่ามีปริมาณคงเหลือ 17.9 ล้านตัน คาดเป็นข้าวเสื่อมสภาพประมาณ 40% หรือคิดเป็นประมาณ 7 ล้านตันนั้น ตีมูลค่าความเสียหายตกประมาณ 1.1 แสนล้านบาท

นี่ยังไม่นับรวมราคาขายขาดทุนต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพราะคุณภาพข้าวไม่ดี ซึ่งนายชูเกียรติ ประเมินว่า ผลพวงโครงการรับจำนำสร้างความเสียหายภาคธุรกิจส่งออกแต่ละปีเกือบแสนล้านบาท แต่ถ้าให้คำนวณค่าเสียหายโดยรวมทั้งหมดแล้ว ตัวเลขก็อาจเฉียดล้านล้านบาทเลยทีเดียว เรียกว่าบวกลบคูณหารแล้ว มีแต่เสียหายกับเสียหาย เป็นที่เจ็บปวดใจปวงประชาชาวไทยยิ่งนัก เพราะชาวนาเองก็ใช่ว่าจะได้ผลประโยชน์จากโครงการจำนำข้าวมากล้นอย่างคำกล่าวอ้างของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์
 
มิหนำซ้ำ หากมองระยะยาวแล้ว อุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบมีแต่เสียกับเสีย และความเสียหายที่เกิดขึ้นก็เป็นประชาชนคนไทยนี่แหละที่เป็นผู้จ่าย ดังกรณีการเช่าโกดังสต็อกข้าวที่ใช้เม็ดเงินนับหมื่นล้าน ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นข้าวเน่าเต็มโกดังอยู่ในขณะนี้
 
เรื่องนี้ นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ สาธยายถึงค่าใช้จ่ายในการเก็บข้าวสารที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฝากไว้กับโกดังเอกชนที่มีปัญหาข้าวหายและข้าวเสื่อมสภาพว่า ในข้อเท็จจริงรัฐบาลต้องมีค่าใช้จ่ายในการฝากเก็บ โดยการฝากเก็บข้าวรัฐบาลจะฝากเก็บใน 2 รูปแบบ คือ ฝากที่โกดังในรูปกระสอบ และฝากเก็บที่ไซโลเป็นเนื้อข้าวสารซึ่งค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกัน
 
สำหรับการฝากเก็บที่โกดังจะเก็บในรูปของกระสอบ กระสอบละ100 กิโลกรัม ข้าว 1 ตันจะมี 10 กระสอบ มีค่าใช้จ่าย แยกเป็นค่าเช่า 20บาทต่อตันต่อเดือน ค่าจ้างผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว 16 บาทต่อตันจ่ายครั้งเดียว ค่าจ้างรมยาเดือนละ 6 บาทต่อตัน ค่ากรรมกรแบกขน ตันละ30 บาทครั้งเดียว และค่าเบี้ยประกันภัยน้ำท่วม 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีค่าเบี้ยแพงขึ้นหลังจากเกิดน้ำท่วม สูงมาก 10 เปอร์เซ็นต์ของราคาข้าวสาร โดยเฉลี่ยประมาณ 100 บาทต่อตันต่อเดือน หากข้าว 18 ล้านตันจะตกประมาณเดือนละ 1,800 ล้านบาท
      
ส่วนการฝากเก็บกับไซโล โดยปกติแล้วจะมีค่าใช้จ่ายการจัดเก็บข้าวสารในไซโลระบบปิดจะมีราคาสูงกว่าแบบกระสอบ เพราะข้าวจะมีคุณภาพดีกว่า ซึ่งมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช .) ได้อนุมัติค่าเก็บรักษาข้าวสารในไซโลและโกดังระบบปิดตามที่จ่ายจริงไม่เกิน อัตราตันละ 546 บาท ต่อ 6 เดือน ค่าฝากเก็บตันละ 360 บาท ต่อ 6เดือน ค่าประกันภัยตันละ18 บาทต่อ 6 เดือน ค่ารักษาคุณภาพตันละ120 บาทต่อ 6 เดือน ค่าตรวจสอบคุณภาพตันละ 18 บาท ตรวจครั้งเดียวและค่าขนถ่ายเก็บตันละ 30 ตรวจครั้งเดียว
     
“จากค่าใช้จ่ายที่เห็น ไม่ใช่เอกชนเก็บให้รัฐบาลฟรี ข้าวยอดรวมประมาณ 18 ล้านตัน ใน 1,800 โกดัง และ 137 ไซโล คิดเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาล ปีหนึ่งนับหมื่นล้านบาทที่ต้องจ่ายไปฟรีๆ แล้วต้องมาเจอปัญหาข้าวเหลือง ข้าวเสื่อม ข้าวยัดไส้และข้าวหาย จึงนับเป็นความหายนะอย่างมากทีเดียวสำหรับข้าวไทย” นพ.วรงค์ แจกแจงละเอียดยิบ

หลักฐานชัดเจน มัดแน่นกันขนาดนี้ ขบวนการทุจริตข้าวตั้งแต่หัวยันหาง มีหนาวแน่ๆ!

นาทีนี้ จึงมีคำถามตัวโตๆ ว่าการปล่อยให้นางสาวยิ่งลักษณ์ บินออกนอกประเทศ จะเป็นการปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ ของ คสช.หรือไม่ เพราะชัดเจนแล้วว่าคณะกรรมการป.ป.ช. ลงมติเอกฉันท์เชือดอาญานางสาวยิ่งลักษณ์แล้ว และโครงการรับจำนำข้าวมีปัญหาทุจริตใหญ่หลวงทั้งปลาใหญ่และปลาเล็กต้องถูกรวบทั้งหมด เว้นเสียแต่ว่า คสช. จะเลือกปฏิบัติ จับแต่ปลาซิวปลาสร้อย แล้วปล่อยปลาใหญ่ให้ลอยนวลต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น