“หม่อมปนัดดา”ลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าวสุพรรณฯไร้ปัญหา เปรยผ่านเฟซของดจ้อปมตรวจสต๊อกข้าว หวั่นคนเบื่อข่าวร้ายรายวัน "ยิ่งลักษณ์" ส่งทนายตื๊อ ป.ป.ช.อีกรอบ ขอไต่สวนพยานจำนำข้าวเพิ่ม 8 ปาก งัด 4 ประเด็นแย้งไม่เป็นธรรม ด้านรองเลขาฯป.ป.ช.ระบุ ป.ป.ท.มีอำนาจฟัน อคส.-อ.ต.ก. หากโกดังไหนข้าวหายเกิน 5% ฐานเป็นคนถือกุญแจ ระบุเดินหน้าคดี "ยิ่งลักษณ์" ไม่ต้องรอ คสช.ตรวจสต๊อกเสร็จ จนท.ปูพรมตรวจโกดังข้าว เพชรบุรีพบทั้งข้าวจมน้ำ เน่าส่งกลิ่นเหม็นเป็นมอด กองข้าวล้ม-แตกเพียบ คกก.ตรวจคุณภาพข้าวจู่โจมตรวจโกดังข้าวปากน้ำโพ เจอพิรุธอีกเพียบ ทั้งข้าว อ.ต.ก.อยู่ในคลัง อคส.-ข้าวไร้ที่มาอีกเกือบ 6 พันกระสอบ แถมมีข้าวปนมั่วข้ามปี-เสื่อมคุณภาพ สีผิดปกติ เบื้องต้นฟันธง! มีทุจริตแน่
วานนี้ (8 ก.ค.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่คลังสินค้าต้นข้าวต้นน้ำ หลังที่ 4 อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ที่เก็บรักษาข้าวขาว 5% ในโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/2557 จำนวนกว่า 5,525 ตัน โดยเบื้องต้นหลังจากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือเข้าข่ายการทุจริต รวมทั้งมีการจัดเรียงกระสอบข้าวไว้ได้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และไม่มีปัญหากระสอบข้าวล้ม ทำให้การตรวจสอบเป็นไปได้โดยง่าย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้มีการซุ่มตรวจตัวอย่างข้าวในโกดังเพื่อนำไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการอีกครั้ง ส่วนปริมาณข้าวผิดปกติและมีปัญหา เช่น กรณีข้าวเน่า จำนวนในโกดังไม่ครบตามรายงานในขณะนี้ อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลและรายงานให้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าวหรือ นบข. รับทราบทุกวัน
** “ม.ล.ปนัดดา”เซ็งแจ้งข่าวร้ายรายวัน
ก่อนหน้านั้น ม.ล.ปนัดดา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Panadda Diskul ระบุถึงการตรวจสอบโกดังข้าวที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีข้าวหาย ข้าวเสื่อมคุณภาพ และข้าวที่ไม่ตรงกับบัญชีที่มีการแจ้งไว้เป็นจำนวนมาก โดยจะขอให้ข้อมูลการดำเนินการเฉพาะที่เป็นประเด็นใหญ่ และงดให้ข้อมูลหรือให้สัมภาษณ์แบบรายวัน
“จากวันนี้เป็นต้นไป (8 ก.ค.) กระผมใคร่ขออนุญาตที่จะแจ้ง (ให้สัมภาษณ์) ข่าวเรื่องการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ เฉพาะที่เป็นประเด็นข่าวใหญ่จริงๆ เพราะยังคงเหลือเวลาปฏิบัติการในพื้นที่อีกหลายสัปดาห์ ไม่อยากให้สังคม และพี่น้องสื่อมวลชนเกิดความเบื่อหน่ายกับปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันๆ จนกลายเป็นการรายงานปัญหาประจำวันเรื่องข้าว หรือเปรียบกับกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยอากาศที่เลวร้ายทุกวันๆที่อาจสร้างความเครียดให้กับทุกท่านได้ ในทางกลับกันเราคนไทยทุกคน มาร่วมกันตั้งความหวังว่าในท้ายที่สุด ขอให้คงเหลือข้าวคุณภาพจำนวนหนึ่ง เพื่อนำส่งออกจำหน่ายเป็นรายได้ต่อแผ่นดินและพี่น้องชาวนา ครับ” ม.ล.ปนัดดา ระบุ
**“ปู”ดื้อขอไต่สวนพยานเพิ่ม
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบคดีรับจำนำข้าว ได้เดินทางไปยังที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เพื่อยื่นคำร้องขอคัดค้านมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่งดให้การเผชิญสืบสต๊อกข้าวจำนวน 2.977 ล้านตัน และให้งดการไต่สวนพยาน 8 ปาก โดยมีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับหนังสือ
นายนรวิชญ์ ระบุว่า ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้มายื่นโต้แย้ง 4 ประเด็น อาทิ กรณีที่ ป.ป.ช.ให้งดการเผชิญสืบสต๊อกข้าว จำนวน 2.977 ล้านตัน และงดสืบพยานจำนวน 3 ปาก ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับข้าวจำนวน 2.977 ล้านตัน นอกจากนี้ ข้าวสารจำนวนดังกล่าว ยังมีข้อโต้แย้งของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี โครงการรับจำนำข้าวกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ยังไม่ชัดเจน รวมไปถึงการประเมินผลการขาดทุน ตามรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี เมื่อวันที่ 31 ม.ค.56 ซึ่งมีข้อโต้แย้งกับตัวเลขของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง อยู่ถึงหลักแสนล้านบาท และการขอให้ไต่สวน นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เนื่องจากนายอำพน เห็นว่าอดีตนายกรัฐมนตรีสั่งการ มอบหมาย หรือกำชับในที่ประชุมอะไรบ้าง มีการป้องกันการทุจริต โปร่งใสอย่างไร
**โยน ป.ป.ท.ฟัน อ.ต.ก.-อคส.หากข้าวหาย
ขณะที่ นายวิทยา ได้กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช. ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมสังเกตการณ์ในการตรวจสต๊อกข้าว ของคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ป.ป.ช.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดไปร่วมสังเกตการณ์กับ คสช. เบื้องต้นได้รับรายงานว่า บางโกดังมีข้าวหาย และข้าวเสื่อมสภาพ แต่ต้องรอภาพรวมทั้งหมดก่อน ในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละโกดัง หากตรวจสอบแล้วพบว่า ข้าวหายเกินกว่า 5% เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดนั้นๆจะเป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนของโกดัง อ.ต.ก.หรือ อคส.ที่เป็นผู้รับผิดชอบฝากเก็บข้าวโกดังดังกล่าว
นายวิทยา กล่าวต่อว่า โกดังแต่ละแห่ง จะมีผู้ถือกุญแจ 3 ดอก คือ เจ้าหน้าที่ อ.ต.ก. ,อคส. และเซอเวเยอร์ หากมีความเสียหายเกิดขึ้นในโกดัง ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ถือกุญแจ จะต้องถูกดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก.หรือ อคส. เหล่านี้จะเป็นข้าราชการไม่เกินระดับ 7 ฉะนั้นจะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดยตามหลักปฏิบัติ
“หากมีข้าวหายเกินกว่า 5% ในแต่ละโกดังจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดี หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ท.ดำเนินคดีในแต่ละกรณีไป และหากมีเจ้าหน้าที่ในส่วนกลางเกี่ยวข้อง และรับรู้เรื่องที่ข้าวที่หายไปหรือไม่ ซึ่งหากเป็นข้าราชการระดับ 8 ขึ้นไป การตรวจสอบจะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.” นายวิทยาระบุ
**คสช.ตรวจสต๊อกไม่เกี่ยวคดี “ยิ่งลักษณ์”
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการตรวจสต๊อกข้าว ที่สุดจะต้องนำมอบให้ ป.ป.ช. ประกอบการไต่สวนในสำนวนคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ป.ป.ช.จะดูในภาพรวมทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจาก คสช.ตรวจในภาพรวมเสร็จสิ้นแล้ว จะมีคณะกรรมการจากส่วนกลางขึ้นมาอีกชุด เพื่อพิสูจน์ว่าค่าเปอร์เซ็นต์ของข้าวถูกต้องหรือไม่ ข้าวเสื่อมสภาพหรือไม่ โดยจะต้องรวบรวมทั้งหมด ว่ามีความเสียหายเท่าไร แต่ยืนยันว่า การตรวจสอบสต๊อกข้าวดังกล่าวของ คสช.จะไม่กระทบสำนวนคดีอาญาที่ ป.ป.ช.ไต่สวนอยู่ ทั้งสำนวนคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และสำนวนคดีอาญาของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เพราะเป็นคนละส่วนกัน ป.ป.ช.ไม่จำเป็นต้องรอให้ คสช.ตรวจสต๊อกข้าวเสร็จสิ้นก่อน ยังดำเนินการไปได้ เนื่องจากสำนวนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร และส่งบัญชีเรียบร้อยแล้ว ในวันที่มีการตรวจสอบ
เมื่อถามย้ำว่า หากไม่ต้องรอให้ คสช.ตรวจสต๊อกข้าวเสร็จสิ้นก่อน แสดงว่า การไต่สวนสำนวนดคีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า เร็วเหมือนเดิม
**พบข้าวที่เพชรทั้งจมน้ำ-เน่าเสียหายเพียบ
ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ จ.เพชรบุรี คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 3 นำโดย นางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พ.อ.วันชาติ วราสินธุ์ รองประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ผู้แทนกองทัพบก ผู้แทนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การค้าภายใน ตัวแทนจาก อคส. พร้อมคณะทำงาน เดินเข้าตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยจุดแรกเข้าตรวจสอบที่โกดัง บจก.ข้าวไทยโปรดักส์ หลัง 1 เลขที่ 88/8 หมู่ 3 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บข้าวสารขาว 5% จำนวน 7,890 กระสอบ จากการตรวจสอบพบมีข้าวเน่าส่งกลิ่นเหม็นอยู่ด้านในของกองข้าวโดยมีน้ำบางส่วนท่วมขังอยู่ด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นน้ำฝนที่รั่วไหลลงมาจากหลังคาทำให้น้ำท่วมกระสอบข้าวจนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังพบข้าวที่อยู่ในกระสอบเป็นสีเหลืองและมีตัวมอดจำนวนมาก
ส่วนที่โกดัง หจก.โรงสีเกษตรธัญญา หลัง 1 เลขที่ 108 หมู่ 1 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรีซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บปลายข้าวจำนวน 45,200 กระสอบ ปรากฏว่ากองข้าวล้มและแตกไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ โดยผู้ดูแลขอขยายเวลาไปอีก 2 สัปดาห์เพื่อเข้าเคลื่อนย้ายตั้งกระสอบข้าวใหม่และให้มาดำเนินการตรวจสอบอีกรอบ
**จู่โจมโกดังปากน้ำโพพบพิรุธ5แห่ง
ทหารมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ พร้อมนายพิเชฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจโกดังข้าวพิมจิรภา ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ เมื่อเย็นวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่แจ้งให้เจ้าของโกดังทราบล่วงหน้า รอจนกว่าไปถึงโกดังจึงโทรศัพท์แจ้ง โดยทำการตรวจโกดังหลังที่ 2 และ 2/1 เบื้องต้นในโกดังหลังแรกพบกระสอบข้าวไม่ตรงกับข้อมูลที่แจ้งไว้เป็นจำนวนมาก ตรวจสอบเพิ่มเติมพบข้าวที่ระบุเป็นของ อ.ต.ก. แต่กลับไปอยู่ในคลัง อคส.ข้างกระสอบระบุเป็นข้าวปี 55/56 จำนวน 45 กระสอบ แต่นำมาเก็บรวมไว้ในโกดังเก็บข้าวปี 56/57 ส่วนโกดังหลังที่ 2/1 พบกระสอบข้าว ไม่มีการระบุที่มาที่ไปอีกจำนวน 5,722 กระสอบ
นายพิเชฐ เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้รับแจ้งไว้ โกดังข้าวพิมจิรภามีข้าวทั้งหมด 214,400 กระสอบ เบื้องต้นพบว่ามีความผิดปกติหลายอย่าง เช่น ข้าวเสื่อมคุณภาพ ข้าวสีผิดปกติ และพบข้าวหักท่อนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งข้าวหลายกระสอบยังไม่ระบุที่มาที่ไป เชื่อว่าจะมีการทุจริต โดยกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยคือผู้ที่ถือกุญแจโกดังเก็บข้าว สำหรับพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่มีการตรวจโกดังเก็บข้าวพบมีพิรุธแล้ว 5 โกดัง ทั้งข้อมูลไม่ตรง ข้าวเสียหาย เบื้องต้นจะทำรายงานผลการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้ทาง คสช.ทราบ และดำเนินการต่อไป
วานนี้ (8 ก.ค.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่คลังสินค้าต้นข้าวต้นน้ำ หลังที่ 4 อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ที่เก็บรักษาข้าวขาว 5% ในโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/2557 จำนวนกว่า 5,525 ตัน โดยเบื้องต้นหลังจากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือเข้าข่ายการทุจริต รวมทั้งมีการจัดเรียงกระสอบข้าวไว้ได้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และไม่มีปัญหากระสอบข้าวล้ม ทำให้การตรวจสอบเป็นไปได้โดยง่าย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้มีการซุ่มตรวจตัวอย่างข้าวในโกดังเพื่อนำไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการอีกครั้ง ส่วนปริมาณข้าวผิดปกติและมีปัญหา เช่น กรณีข้าวเน่า จำนวนในโกดังไม่ครบตามรายงานในขณะนี้ อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลและรายงานให้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าวหรือ นบข. รับทราบทุกวัน
** “ม.ล.ปนัดดา”เซ็งแจ้งข่าวร้ายรายวัน
ก่อนหน้านั้น ม.ล.ปนัดดา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Panadda Diskul ระบุถึงการตรวจสอบโกดังข้าวที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีข้าวหาย ข้าวเสื่อมคุณภาพ และข้าวที่ไม่ตรงกับบัญชีที่มีการแจ้งไว้เป็นจำนวนมาก โดยจะขอให้ข้อมูลการดำเนินการเฉพาะที่เป็นประเด็นใหญ่ และงดให้ข้อมูลหรือให้สัมภาษณ์แบบรายวัน
“จากวันนี้เป็นต้นไป (8 ก.ค.) กระผมใคร่ขออนุญาตที่จะแจ้ง (ให้สัมภาษณ์) ข่าวเรื่องการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ เฉพาะที่เป็นประเด็นข่าวใหญ่จริงๆ เพราะยังคงเหลือเวลาปฏิบัติการในพื้นที่อีกหลายสัปดาห์ ไม่อยากให้สังคม และพี่น้องสื่อมวลชนเกิดความเบื่อหน่ายกับปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันๆ จนกลายเป็นการรายงานปัญหาประจำวันเรื่องข้าว หรือเปรียบกับกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยอากาศที่เลวร้ายทุกวันๆที่อาจสร้างความเครียดให้กับทุกท่านได้ ในทางกลับกันเราคนไทยทุกคน มาร่วมกันตั้งความหวังว่าในท้ายที่สุด ขอให้คงเหลือข้าวคุณภาพจำนวนหนึ่ง เพื่อนำส่งออกจำหน่ายเป็นรายได้ต่อแผ่นดินและพี่น้องชาวนา ครับ” ม.ล.ปนัดดา ระบุ
**“ปู”ดื้อขอไต่สวนพยานเพิ่ม
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบคดีรับจำนำข้าว ได้เดินทางไปยังที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เพื่อยื่นคำร้องขอคัดค้านมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่งดให้การเผชิญสืบสต๊อกข้าวจำนวน 2.977 ล้านตัน และให้งดการไต่สวนพยาน 8 ปาก โดยมีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับหนังสือ
นายนรวิชญ์ ระบุว่า ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้มายื่นโต้แย้ง 4 ประเด็น อาทิ กรณีที่ ป.ป.ช.ให้งดการเผชิญสืบสต๊อกข้าว จำนวน 2.977 ล้านตัน และงดสืบพยานจำนวน 3 ปาก ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับข้าวจำนวน 2.977 ล้านตัน นอกจากนี้ ข้าวสารจำนวนดังกล่าว ยังมีข้อโต้แย้งของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี โครงการรับจำนำข้าวกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ยังไม่ชัดเจน รวมไปถึงการประเมินผลการขาดทุน ตามรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี เมื่อวันที่ 31 ม.ค.56 ซึ่งมีข้อโต้แย้งกับตัวเลขของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง อยู่ถึงหลักแสนล้านบาท และการขอให้ไต่สวน นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เนื่องจากนายอำพน เห็นว่าอดีตนายกรัฐมนตรีสั่งการ มอบหมาย หรือกำชับในที่ประชุมอะไรบ้าง มีการป้องกันการทุจริต โปร่งใสอย่างไร
**โยน ป.ป.ท.ฟัน อ.ต.ก.-อคส.หากข้าวหาย
ขณะที่ นายวิทยา ได้กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช. ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมสังเกตการณ์ในการตรวจสต๊อกข้าว ของคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ป.ป.ช.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดไปร่วมสังเกตการณ์กับ คสช. เบื้องต้นได้รับรายงานว่า บางโกดังมีข้าวหาย และข้าวเสื่อมสภาพ แต่ต้องรอภาพรวมทั้งหมดก่อน ในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละโกดัง หากตรวจสอบแล้วพบว่า ข้าวหายเกินกว่า 5% เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดนั้นๆจะเป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนของโกดัง อ.ต.ก.หรือ อคส.ที่เป็นผู้รับผิดชอบฝากเก็บข้าวโกดังดังกล่าว
นายวิทยา กล่าวต่อว่า โกดังแต่ละแห่ง จะมีผู้ถือกุญแจ 3 ดอก คือ เจ้าหน้าที่ อ.ต.ก. ,อคส. และเซอเวเยอร์ หากมีความเสียหายเกิดขึ้นในโกดัง ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ถือกุญแจ จะต้องถูกดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก.หรือ อคส. เหล่านี้จะเป็นข้าราชการไม่เกินระดับ 7 ฉะนั้นจะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดยตามหลักปฏิบัติ
“หากมีข้าวหายเกินกว่า 5% ในแต่ละโกดังจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดี หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ท.ดำเนินคดีในแต่ละกรณีไป และหากมีเจ้าหน้าที่ในส่วนกลางเกี่ยวข้อง และรับรู้เรื่องที่ข้าวที่หายไปหรือไม่ ซึ่งหากเป็นข้าราชการระดับ 8 ขึ้นไป การตรวจสอบจะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.” นายวิทยาระบุ
**คสช.ตรวจสต๊อกไม่เกี่ยวคดี “ยิ่งลักษณ์”
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการตรวจสต๊อกข้าว ที่สุดจะต้องนำมอบให้ ป.ป.ช. ประกอบการไต่สวนในสำนวนคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ป.ป.ช.จะดูในภาพรวมทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจาก คสช.ตรวจในภาพรวมเสร็จสิ้นแล้ว จะมีคณะกรรมการจากส่วนกลางขึ้นมาอีกชุด เพื่อพิสูจน์ว่าค่าเปอร์เซ็นต์ของข้าวถูกต้องหรือไม่ ข้าวเสื่อมสภาพหรือไม่ โดยจะต้องรวบรวมทั้งหมด ว่ามีความเสียหายเท่าไร แต่ยืนยันว่า การตรวจสอบสต๊อกข้าวดังกล่าวของ คสช.จะไม่กระทบสำนวนคดีอาญาที่ ป.ป.ช.ไต่สวนอยู่ ทั้งสำนวนคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และสำนวนคดีอาญาของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เพราะเป็นคนละส่วนกัน ป.ป.ช.ไม่จำเป็นต้องรอให้ คสช.ตรวจสต๊อกข้าวเสร็จสิ้นก่อน ยังดำเนินการไปได้ เนื่องจากสำนวนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร และส่งบัญชีเรียบร้อยแล้ว ในวันที่มีการตรวจสอบ
เมื่อถามย้ำว่า หากไม่ต้องรอให้ คสช.ตรวจสต๊อกข้าวเสร็จสิ้นก่อน แสดงว่า การไต่สวนสำนวนดคีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า เร็วเหมือนเดิม
**พบข้าวที่เพชรทั้งจมน้ำ-เน่าเสียหายเพียบ
ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ จ.เพชรบุรี คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 3 นำโดย นางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พ.อ.วันชาติ วราสินธุ์ รองประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ผู้แทนกองทัพบก ผู้แทนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การค้าภายใน ตัวแทนจาก อคส. พร้อมคณะทำงาน เดินเข้าตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยจุดแรกเข้าตรวจสอบที่โกดัง บจก.ข้าวไทยโปรดักส์ หลัง 1 เลขที่ 88/8 หมู่ 3 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บข้าวสารขาว 5% จำนวน 7,890 กระสอบ จากการตรวจสอบพบมีข้าวเน่าส่งกลิ่นเหม็นอยู่ด้านในของกองข้าวโดยมีน้ำบางส่วนท่วมขังอยู่ด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นน้ำฝนที่รั่วไหลลงมาจากหลังคาทำให้น้ำท่วมกระสอบข้าวจนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังพบข้าวที่อยู่ในกระสอบเป็นสีเหลืองและมีตัวมอดจำนวนมาก
ส่วนที่โกดัง หจก.โรงสีเกษตรธัญญา หลัง 1 เลขที่ 108 หมู่ 1 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรีซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บปลายข้าวจำนวน 45,200 กระสอบ ปรากฏว่ากองข้าวล้มและแตกไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ โดยผู้ดูแลขอขยายเวลาไปอีก 2 สัปดาห์เพื่อเข้าเคลื่อนย้ายตั้งกระสอบข้าวใหม่และให้มาดำเนินการตรวจสอบอีกรอบ
**จู่โจมโกดังปากน้ำโพพบพิรุธ5แห่ง
ทหารมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ พร้อมนายพิเชฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจโกดังข้าวพิมจิรภา ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ เมื่อเย็นวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่แจ้งให้เจ้าของโกดังทราบล่วงหน้า รอจนกว่าไปถึงโกดังจึงโทรศัพท์แจ้ง โดยทำการตรวจโกดังหลังที่ 2 และ 2/1 เบื้องต้นในโกดังหลังแรกพบกระสอบข้าวไม่ตรงกับข้อมูลที่แจ้งไว้เป็นจำนวนมาก ตรวจสอบเพิ่มเติมพบข้าวที่ระบุเป็นของ อ.ต.ก. แต่กลับไปอยู่ในคลัง อคส.ข้างกระสอบระบุเป็นข้าวปี 55/56 จำนวน 45 กระสอบ แต่นำมาเก็บรวมไว้ในโกดังเก็บข้าวปี 56/57 ส่วนโกดังหลังที่ 2/1 พบกระสอบข้าว ไม่มีการระบุที่มาที่ไปอีกจำนวน 5,722 กระสอบ
นายพิเชฐ เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้รับแจ้งไว้ โกดังข้าวพิมจิรภามีข้าวทั้งหมด 214,400 กระสอบ เบื้องต้นพบว่ามีความผิดปกติหลายอย่าง เช่น ข้าวเสื่อมคุณภาพ ข้าวสีผิดปกติ และพบข้าวหักท่อนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งข้าวหลายกระสอบยังไม่ระบุที่มาที่ไป เชื่อว่าจะมีการทุจริต โดยกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยคือผู้ที่ถือกุญแจโกดังเก็บข้าว สำหรับพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่มีการตรวจโกดังเก็บข้าวพบมีพิรุธแล้ว 5 โกดัง ทั้งข้อมูลไม่ตรง ข้าวเสียหาย เบื้องต้นจะทำรายงานผลการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้ทาง คสช.ทราบ และดำเนินการต่อไป
