ศูนย์ข่าวภูมิภาค - คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว เข้าตรวจโกดังข้าวโครงการรับจำนำที่นครศรีธรรมราช พบข้าวสารเสียหายทั้งโกดัง ระบุโกดังดังกล่าวถูกไฟไหม้ซ้ำซาก 3 รอบ ส่วนที่เพชรบุรี บุกตรวจ 2 โกดังข้าวผงะ พบทั้งข้าวจมน้ำ เน่าส่งกลิ่นเหม็น เป็นมอดเพียบ พร้อมจู่โจมตรวจโกดังข้าวปากน้ำโพ เจอพิรุธอีกเพียบ ทั้งข้าว อ.ต.ก.อยู่ในคลัง อคส. ข้าวไร้ที่มาอีกเกือบ 6 พันกระสอบ แถมมีข้าวปนมั่วข้ามปี เสื่อมคุณภาพ สีผิดปกติ เบื้องต้นฟันธง! มีทุจริตแน่ ด้านชาวอุทัยธานี โวยลั่นมอดข้าวสารจำนวนมหาศาลจากโกดังเก็บข้าวสารโครงการรับจำนำของ อคส.บินว่อน ทำเดือดร้อนหนักต้องกางมุ้งกินข้าว
วันนี้ (8 ก.ค.) นางอรวรรณ ขุมทรัพย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณคุณภาพข้าว ชุดที่ 99 พร้อมด้วยคณะทำงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบคลังสินค้าบริษัทสินทองดี พาราวู๊ด เลขที่ 83 หมู่ 1 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นอำเภอที่ 3 ที่มีการเก็บข้าวในโครงการรับจำนำ โดยคลังสินค้าแห่งนี้มีข้าวสารในโครงการถึง 60,068 กระสอบ กระสอบละ 100 กิโลกรัม ซึ่งพบว่าข้าวสารเสียหายทั้งหมด โดยอยู่ในสภาพกระจัดกระจาย ห้องเก็บชั้นแรกถูกไฟไหม้จนทำให้ข้าวสารเสียหายทั้งหมด
ขณะที่ พ.ต.ท.ผจญ เนียมริน รอง ผกก.สส.สภ.กะปาง ซึ่งรับผิดชอบในคดีเพลิงไหม้ของโกดังแห่งนี้ ได้รายงานต่อ นางอรวรรณ ขุมทรัพย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณคุณภาพข้าวว่า โกดังแห่งนี้ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 54 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 57 และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 5 เม.ย.57 เบื้องต้นผลพิสูจน์ระบุว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้เกิดจากสารเคมีอะลูมิเนียมฟอสไฟด์ ทำปฏิกิริยากับความชื้นสัมพัทธ์จนเกิดเพลิงไหม้
ส่วนนางอรวรรณ ระบุว่า คณะทำงานจะเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์ ส่วนความเสียหายทั้งหมด หรือสภาพกองข้าวที่ปรากฏนั้นจะรายงานไปยังส่วนกลางเพื่อที่จะกำหนดมาตรการในการดำเนินการต่อไป
**พบข้าวที่เพชรบุรีทั้งจมน้ำ-เน่าเสียหายเพียบ
ที่ จ.เพชรบุรี คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 3 นำโดยนางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พ.อ.วันชาติ วราสินธุ์ รองประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ผู้แทนกองทัพบก ผู้แทนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การค้าภายใน ตัวแทนจากองค์การคลังสินค้า พร้อมคณะทำงาน เดินเข้าตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยจุดแรกเข้าตรวจสอบที่โกดัง บจก.ข้าวไทยโปรดักส์ หลัง 1 เลขที่ 88/8 หมู่ 3 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บข้าวสารขาว 5% จำนวน 7,890 กระสอบ
จากการตรวจสอบพบมีข้าวเน่าส่งกลิ่นเหม็นอยู่ด้านในของกองข้าว โดยมีน้ำบางส่วนท่วมขังอยู่ด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นน้ำฝนที่รั่วไหลลงมาจากหลังคาทำให้น้ำท่วมกระสอบข้าวจนได้รับความเสียหาย ซึ่งจากการมองด้วยตาเปล่านั้นอยู่ที่ประมาณกว่า 30 กระสอบ
นอกจากนี้ ยังพบข้าวที่อยู่ในกระสอบเป็นสีเหลือง และมีตัวมอดจำนวนมาก โดยคณะผู้ตรวจลงความเห็นให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายกระสอบข้าวด้านนอกออกเพื่อทำการตรวจสอบด้านในว่ามีข้าวเน่าทั้งหมดกี่กระสอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจนับ และตรวจสอบ
ส่วนที่โกดัง หจก.โรงสีเกษตรธัญญา หลัง 1 เลขที่ 108 หมู่ 1 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรีซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บปลายข้าว จำนวน 45,200 กระสอบ ปรากฏว่า กองข้าวล้ม และแตกไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ โดยผู้ดูแลขอขยายเวลาไปอีก 2 สัปดาห์เพื่อขอเคลื่อนย้ายตั้งกระสอบข้าวใหม่ และให้มาดำเนินการตรวจสอบอีกรอบ ส่วนในช่วงบ่ายจะเดินทางไปตรวจที่โกดังคลังเจริญผล 2 ต.สำมะโรง อ.เมืองเพชรบุรีต่อไป
**มอดข้าวโกดังอุทัยฯ บินว่อนจนชาวบ้านเดือดร้อน
ที่ จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 7 ต.หนองยายดา อ.ทัพทัน ว่า กำลังได้รับความเดือดร้อนรำคราญใจอย่างหนักจากมอดข้าวสารในโกดังคลังสินค้าเก็บข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ อคส.เช่าเก็บข้าวสารไว้นับล้านกระสอบเป็นเวลาหลายปี จนมอดข้าวมากัดกินทำลายข้าวสารได้รับความเสียหาย และตัวมอดได้ขยายพันธุ์อีกเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำทุกวัน ตัวมอดจะออกบินว่อนไปทั่วหลายหมู่บ้านเป็น ทำให้ชาวบ้านกว่า 200 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน ทั้งตัวมอดยังสร้างความเสียหายต่อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ร้านขายของชำ ก็จะถูกตัวมอดจะบินมาลงข้าวสาร ข้าวเหนียว น้ำตาล พริก หอม กระเทียมต่างๆ
นอกจากนี้ มอดยังบินมาเกาะตามบ้านเรือน เสื้อผ้า และยังมาไต่ตามเนื้อตามตัว เข้าหูเข้าตาจนแสบตาไปหมด ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว หลายบ้านต้องปิดบ้านหนี บางรายต้องเอาเด็กเข้ามุ้งหนีก่อนที่จะถึงเวลาที่มอดข้าวสารจะบินมารบกวน วันไหนมอดมามากถึงกับต้องกางมุ้งกินข้าวกันเลยทีเดียว
ล่าสุด กลุ่มชาวบ้านได้รวมตัวรวบรวมรายชื่อแจ้งความเดือดร้อนไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลหนองยายดา อ.ทัพทัน เพื่อขอความช่วยเหลืออีกทางหนึ่งแล้ว
ด้านนายไพรวัลย์ ไม้สนธุ์ นายก อบต.หนองยายดา แจ้งว่า ได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อนายอำเภอทัพทัน เพื่อที่จะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ อคส.ที่เป็นผู้เช่าโกดังคลังสินค้าเก็บข้าวสารโครงการรับจำนำของรัฐบาลให้เข้ามารับผิดชอบ และมากำจัดมอดข้าวสารที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านโดยด่วนแล้ว
**จู่โจมตรวจโกดังข้าวปากน้ำโพพบพิรุธ 5 โกดัง
ด้านทหารมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ พร้อมนายพิเชฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจโกดังข้าว “พิมจิรภา” ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว เมื่อเย็นวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่แจ้งให้เจ้าของโกดังทราบล่วงหน้า รอจนกว่าไปถึงโกดังจึงโทรศัพท์แจ้ง โดยทำการตรวจโกดังหลังที่ 2 และ 2/1
เบื้องต้นในโกดังหลังแรกพบกระสอบข้าวไม่ตรงกับข้อมูลที่แจ้งไว้เป็นจำนวนมาก ตรวจสอบเพิ่มเติมพบข้าวที่ระบุเป็นของ อ.ต.ก.แต่กลับไปอยู่ในคลัง อคส.ข้างกระสอบระบุเป็นข้าวปี 55/56 จำนวน 45 กระสอบ แต่นำมาเก็บรวมไว้ในโกดังเก็บข้าวปี 56/57 ส่วนโกดังหลังที่ 2/1 พบกระสอบข้าวไม่มีการระบุที่มาที่ไปอีก จำนวน 5,722 กระสอบ
นายพิเชฐ เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้รับแจ้งไว้ โกดังข้าวพิมจิรภามีข้าวทั้งหมด 214,400 กระสอบ เบื้องต้นพบว่ามีความผิดปกติหลายอย่าง เช่น ข้าวเสื่อมคุณภาพ ข้าวสีผิดปกติ และพบข้าวหักท่อนเป็นจำนวนมาก
“ข้าวหลายกระสอบยังไม่ระบุที่มาที่ไปเชื่อว่าจะมีการทุจริต โดยกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยคือ พวกที่ถือกุญแจโกดังเก็บข้าว” นายพิเชฐ กล่าว
**ฉ่ำข้าวสารพบ 2 ใน 10 กองเมล็ดสีคล้ำ-เหลือง
ต่อมา นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 49 พ.ท.สมบูรณ์ วาระวิชนีย์ ทหารมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติฯ รองประธานคณะทำงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 14 หน่วยงานเข้าตรวจสอบคลังสินค้ายางตาล หลังที่ 1 เลขที่ 75/1 หมู่ 7 ต.ยางตาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นของนายประธาน ลิ้มมณี รับฝากข้าวขาว 5% ที่สีแปรจากข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2555 จำนวน 157,416 กระสอบ น้ำหนัก 15,701,963.500 กิโลกรัม
จากการตรวจสอบโดยการฉ่ำข้าวสาร 10 กอง เบื้องต้นพบว่าข้าวสารกองที่ 4 และกองที่ 7 มีสภาพสีคล้ำ และสีเหลืองที่ผิดปกติ คณะทำงานได้ให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างข้าวทั้ง 2 กองเพื่อเข้ากระบวนการตรวจโดยละเอียดอีกครั้ง อีกทั้งยังได้เจาะกองข้าวทั้ง 2 กอง ลึกลงไป 15 ชั้นกระสอบ เพื่อทำการฉ่ำข้าวเก็บตัวอย่างเพิ่มอีก และเตรียมส่งเรื่องรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป
**เปิดคลังวัดโบสถ์เช็กข้าว อ.ต.ก.3 หมื่นกระสอบ
ที่ จ.พิษณุโลก คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวของรัฐชุดที่ 61 ได้เข้าตรวจสอบข้าวสาร จำนวนมากกว่า 30,000 กระสอบ ที่สีแปรสภาพจากข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 ณ คลังสินค้ากลาง อ.ต.ก. บริษัท เกษตรไพศาลธัญกิจ จำกัด ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา
เบื้องต้นคณะทำงานต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเนื่องจากโกดังดังกล่าวเพิ่งผ่านการรมยาฆ่ามอดไปไม่นาน และต้องจัดกำลังสนับสนุน คนงาน ช่วยตรวจสอบเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากข้าวมีจำนวนมาก และการตรวจสอบครั้งนี้เป็นการตรวจสอบข้าวเชิงคุณภาพ ต้องได้ผลการตรวจสอบที่ชัดเจนเชื่อถือได้ ผลการตรวจในช่วงเช้ายังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
**บุรีรัมย์ พบข้าวเกินบัญชี 55 กระสอบยังไม่ผิดปกติ
นายพงษ์ชัย เกษมทวีศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ชุดที่ 41 พร้อม พ.อ.จิรเดช เหมะลิน รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องยังลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวสารในโกดังกลางแห่งที่สอง ที่คลังปรีชาพาณิชย์ (หลังที่สอง) ตั้งอยู่เลขที่ 84/1 ม.8 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
โกดังดังกล่าวมีข้าวสารในโครงการรับจำนำปีการผลิต 2555/56 จัดเก็บตามบัญชีชนิด (ข้าวท่อมหอมมะลิ) อยู่จำนวน 35,699 กระสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีข้าวอยู่ 2 กอง กองหนึ่งมีการจัดวางเป็นระเบียบจึงง่ายต่อการตรวจนับ แต่อีกกองกระสอบข้าวสารวางไม่เป็นระเบียบทำให้เป็นอุปสรรคในการตรวจนับ ต้องให้คนงานทำการจัดเรียงใหม่ให้เป็นระเบียบเจ้าหน้าที่จึงสามารถตรวจนับได้
ทั้งนี้ จากการตรวจนับไม่พบข้าวสารขาดหายจากบัญชี และไม่มีข้าวเสื่อมคุณภาพ แต่มียอดเกินบัญชี จำนวน 55 กระสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ผิดปกติ
นายพงษ์ชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบโกดังกลางที่ จ.บุรีรัมย์แล้ว 2 แห่งยังไม่พบความผิดปกติ และไม่มีข้าวเสื่อมคุณภาพ ทั้งนี้ มีแผนจะตรวจสอบข้าวในโกดังในพื้นที่บุรีรัมย์อีก 5 แห่งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ก.ค.นี้ จากนั้นจะทำบันทึกผลการตรวจรายงานกองทัพภาคที่ 2 และสำนักนายกรัฐมนตรี รับทราบต่อไป
**ศรีสะเกษพบล็อกกุญแจเกิน 5 ตัว ข้าวเสียหาย
ที่ จ.ศรีสะเกษ ที่คลังสินค้ากลาง ต.ไทยเจริญ ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 35 พร้อม พ.อ.พรหมวิศเนตร สัตถาผล เสนาธิการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 6 ได้นำทหาร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบภายในคลังสินค้ากลาง โครงการรับจำนำข้าว
โดยครั้งนี้เป็นจุดตรวจที่ 11 เจ้าหน้าที่ทหารได้ยกกระสอบข้าวหอมมะลิออกเป็นช่องลึกลงไปในกองข้าว ประมาณ 5 เมตร เพื่อทำการตรวจสอบว่าภายในกองข้าวมีข้าวอยู่เต็มตามจำนวนหรือไม่ เนื่องจากเกรงว่าอาจมีการนำเอาฐานโครงเหล็กมาวางไว้ตรงกลาง แล้วเอากระสอบข้าวทับไว้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ให้เห็นว่ามีจำนวนเต็มตามที่กำหนด พร้อมทั้งเจาะเอาข้าวสารที่อยู่ภายในกระสอบเพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพ
จากการตรวจสอบภายในโกดังเก็บข้าวจุดนี้พบว่า กระสอบข้าวมีครบตามจำนวน แต่พบมีเศษข้าวกระจายออกจากกระสอบข้าวกองอยู่ด้านนอก ทำให้ข้าวได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน
ต่อมา ได้ไปตรวจสอบคลังสินค้ากลางที่ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ส.สินทวี หลังที่ 2 หมู่ 15 ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย ซึ่งอยู่ใกล้กันโดยจุดนี้เป็นจุดตรวจที่ 12 เป็นข้าวท่อนหอมมะลิ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะทำการเปิดกุญแจที่ล็อกคลังสินค้า ซึ่งปกติจะมีกุญแจล็อกอยู่ 4 ลูกจาก 4 ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ปรากฏว่า ที่คลังสินค้ากลางแห่งนี้มีกุญแจล็อกอยู่ถึง 5 ลูก และไม่มีลูกกุญแจที่จะเปิดออกได้
สอบถามเจ้าของโกดังก็ไม่ทราบว่าเป็นกุญแจของผู้ใด นายจิรายุ จึงให้เจ้าหน้าที่ทำการงัดกุญแจออกเพื่อเข้าไปตรวจสอบภายในคลังสินค้า พบว่า กระสอบข้าววางไม่เป็นระเบียบ และทำการตรวจสอบกองข้าวท่อนหอมมะลิที่สูงจากพื้นประมาณ 15 เมตร ซึ่งเป็นกองกระสอบข้าวขนาดใหญ่ พบว่า ช่องว่างระหว่างกองข้าวมีกระสอบข้าวหล่นลงมาจากด้านบนกองอยู่กับพื้น และมีเศษข้าวท่อนหอมมะลิกองกระจายตามช่องว่างระหว่างกองข้าวเป็นทางยาว ทำให้ข้าวได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ
**“ปนัดดา” ลุยตรวจโกดังสุพรรณฯ พบปกติ
ที่ จ.สุพรรณบุรี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้าวคงเหลือของรัฐ พร้อมด้วย พล.ต.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 นายอำนวย โชติสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวของรัฐชุดที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวภายในโกดังต้นข้าว ต้นน้ำ ของบริษัทเจริญดีค้าข้าว จำกัด เลขที่ 59/1 หมู่ 7 ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นโกดังเก็บข้าวขาว 5% จำนวน 4 กอง รวม 55,221 กระสอบ รับมอบตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557-6 เมษายน 2557
โดยมี ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายรณชัย วิรุฬห์รัฐ ผู้แทนกรมการค้าภายในจังหวัด สุพรรณบุรี ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้าวฯ ให้การต้อนรับ
ม.ล.ปนัดดา กล่าวภายหลังจากการตรวจสอบข้าวทั้งหมดไม่พบความผิดปกติ ไม่พบข้าวหาย หรือเน่าเสีย ถือเป็นกรณีศึกษ าและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่โกดังอื่นนำไปศึกษา เพราะตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หากตรวจสอบแล้วพบว่าข้าวที่มีอยู่หากหายไปเกิน 5% เจ้าของโกดังจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยองค์การคลังสินค้า จะต้องเป็นหน่วยงานที่จะต้องเป็นผู้ร้องทุกข์ดำเนินการตามกฏหมาย
แต่อย่างไรก็ตาม คณะทำงานตรวจสอบข้าวจะดำเนินการให้ทันกรอบระยะเวลาภายในเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขที่แน่นอนได้ เพราะต้องรอให้ตรวจสอบครบ 1,800 โกดัง กับ 137ไ ซโล เบื้องต้นคณะทำงานแต่ละชุดได้รายงานความคืบหน้าให้คณะอนุกรรมการทราบทุกวัน และจะได้รายงานให้คณะ คสช.ทราบ