เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (22 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ขวัญ (นามสมมติ) เหยื่อที่ถูกข่มขืนบนรถไฟเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ได้เดินทางมายื่นหนังสื่อร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรม และเร่งรัดคดีที่อยุ่ระหว่างการดำเนินการของศาล พร้อมทั้งเสนอให้มีการดำเนินการป้องกันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอความเป็นธรรม โดยมี พล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก เป็นตัวแทนรับหนังสือ ทั้งนี้ ในหนังสื่อร้องเรียน ได้ระบุ ดังนี้
1. การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ควรมีการปรับโครงสร้างองค์กรในการบริหารงานต้องมีการกำหนดให้มีการปฏิรูปร.ฟ.ท. และบรรจุอยู่ในวาระแห่งชาติ เนื่องจากเป็นองค์กรของรัฐ และเพื่อพัฒนาองค์กรให้ไปสู่ความเป็นสากล รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะการบริหารจัดการในส่วนของการให้บริการผู้โดยสาร ขั้นตอนการคัดเลือกพนักงาน และผู้ให้บริการระบบสาธารณะ ควรมีการจัดทำประกันชีวิตให้กับผู้ใช้บริการในวงเงินที่สูงเพียงพอต่อการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งผู้ให้บริการ จะต้องมีหน้าที่ และต้องรับผิดชอบผู้ใช้บริการในทุกกรณี เพื่อให้ผู้บริการจัดทำระบบรักษาความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการอย่างเข้มแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
2. ควรมีการแก้ไขและปรับปรุงระบบการคุ้มครองเยียวยาทางสังคม โดยเน้นความปลอดภัยของเด็ก และสตรีในทุกพื้นที่ไม่ใช่เฉพาะแค่บนรถไฟ ทั้งนี้ ขอเสนอบทลงโทษให้แรงมากกว่านี้ ฉะนั้นต้องมีการดำเนินการจัดการและบำบัดทางจิตแก่ผู้กระทำความผิด เพื่อป้องกันไม่ให้กระทำซ้ำอีก ส่วนในระบบการเยียวยา และการช่วยเหลือผู้เสียหาย การพิจารณาชดใช้ทางแพ่งต้องรวดเร็ว และเพียงพอสำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ควรมีการดำเนินการทันที และต้องได้รับการบำบัดอย่างเป็นขั้นตอน โดยเฉพาะทางจิตใจ
3 .ขอให้ปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม สำหรับผู้หญิงที่เสียหายในคดีทางเพศด้วย
ด้านพล.ต.พลภัทร กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า กรณีนี้ก็เช่นเดียวกับทุกๆ เรื่องที่มีการร้องเรียนมา ซึ่งในส่วนขั้นตอนต่อไป ก็จะส่งเรื่องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม รวมถึงส่งเรื่องให้กับพล.อ.องประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ฝ่ายเศรษฐกิจ ให้ดำเนินการ เนื่องจากกรณีนี้สืบเนื่องจากกรณีของน้องแก้ม ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และส่วนที่เกี่ยวข้องก็ให้ความสำคัญในการติดตาม เพื่อนำไปดำเนินการปฏิรูปให้เกิดความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องทบทวนตัวเอง และสิ่งที่ดำเนินการว่าจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
** “ญาติวีรชนพฤษภาฯ”ขอคสช.เยียวยา
เวลา 10.00 น. วันเดียวกันนี้ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีชนพฤษภา’35 เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เรียกร้องให้ช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยขอให้คสช. ยึดหลักของคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 87/2557 ที่วินิจฉัยว่า การจ่ายเงินเยียวยาให้กลุ่มคนเสื้อแดง เป็นการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ฉะนั้นนอกจากคนเสื้อแดงแล้ว ขอให้คสช. ขยายผลครอบคลุมทุกเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่ปัจจุบันถึงเหตุการณ์พฤษภา2535 เพื่อความยุติธรรม และเป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะการจัดระเบียบประเทศ เพื่อวางรากฐานประเทศชาติ ให้มั่นคง
1. การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ควรมีการปรับโครงสร้างองค์กรในการบริหารงานต้องมีการกำหนดให้มีการปฏิรูปร.ฟ.ท. และบรรจุอยู่ในวาระแห่งชาติ เนื่องจากเป็นองค์กรของรัฐ และเพื่อพัฒนาองค์กรให้ไปสู่ความเป็นสากล รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะการบริหารจัดการในส่วนของการให้บริการผู้โดยสาร ขั้นตอนการคัดเลือกพนักงาน และผู้ให้บริการระบบสาธารณะ ควรมีการจัดทำประกันชีวิตให้กับผู้ใช้บริการในวงเงินที่สูงเพียงพอต่อการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งผู้ให้บริการ จะต้องมีหน้าที่ และต้องรับผิดชอบผู้ใช้บริการในทุกกรณี เพื่อให้ผู้บริการจัดทำระบบรักษาความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการอย่างเข้มแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
2. ควรมีการแก้ไขและปรับปรุงระบบการคุ้มครองเยียวยาทางสังคม โดยเน้นความปลอดภัยของเด็ก และสตรีในทุกพื้นที่ไม่ใช่เฉพาะแค่บนรถไฟ ทั้งนี้ ขอเสนอบทลงโทษให้แรงมากกว่านี้ ฉะนั้นต้องมีการดำเนินการจัดการและบำบัดทางจิตแก่ผู้กระทำความผิด เพื่อป้องกันไม่ให้กระทำซ้ำอีก ส่วนในระบบการเยียวยา และการช่วยเหลือผู้เสียหาย การพิจารณาชดใช้ทางแพ่งต้องรวดเร็ว และเพียงพอสำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ควรมีการดำเนินการทันที และต้องได้รับการบำบัดอย่างเป็นขั้นตอน โดยเฉพาะทางจิตใจ
3 .ขอให้ปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม สำหรับผู้หญิงที่เสียหายในคดีทางเพศด้วย
ด้านพล.ต.พลภัทร กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า กรณีนี้ก็เช่นเดียวกับทุกๆ เรื่องที่มีการร้องเรียนมา ซึ่งในส่วนขั้นตอนต่อไป ก็จะส่งเรื่องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม รวมถึงส่งเรื่องให้กับพล.อ.องประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ฝ่ายเศรษฐกิจ ให้ดำเนินการ เนื่องจากกรณีนี้สืบเนื่องจากกรณีของน้องแก้ม ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และส่วนที่เกี่ยวข้องก็ให้ความสำคัญในการติดตาม เพื่อนำไปดำเนินการปฏิรูปให้เกิดความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องทบทวนตัวเอง และสิ่งที่ดำเนินการว่าจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
** “ญาติวีรชนพฤษภาฯ”ขอคสช.เยียวยา
เวลา 10.00 น. วันเดียวกันนี้ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีชนพฤษภา’35 เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เรียกร้องให้ช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยขอให้คสช. ยึดหลักของคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 87/2557 ที่วินิจฉัยว่า การจ่ายเงินเยียวยาให้กลุ่มคนเสื้อแดง เป็นการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ฉะนั้นนอกจากคนเสื้อแดงแล้ว ขอให้คสช. ขยายผลครอบคลุมทุกเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่ปัจจุบันถึงเหตุการณ์พฤษภา2535 เพื่อความยุติธรรม และเป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะการจัดระเบียบประเทศ เพื่อวางรากฐานประเทศชาติ ให้มั่นคง