“เบนซ์ทีทีซี”เดินเกมรุกปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้แก่องค์กร เผยกลยุทธ์สู่ความเป็นผู้นำในฐานะผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย สร้างจุดแข็งด้วยบริการก่อนและหลังการขาย และการตลาดแบบซีอาร์เอ็ม มั่นใจยอดขายสิ้นปีทะลุ 900 คัน
ทิพย์ จั่นเทศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ ทีทีซี จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดเผยว่า ในปีนี้เบนซ์ ทีทีซี มีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นผู้นำในฐานะตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย ด้วยการปรับโครงสร้างการบริหารงานเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งให้แก่องค์กรโดยสร้างทีมงานระดับมืออาชีพเข้ามาดูแลฝ่ายศูนย์บริการ , ฝ่ายขาย , ฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ , ฝ่ายขายรถเบนซ์ใช้แล้ว และฝ่ายบริหารงานทั่วไป เพื่อให้บริการลูกค้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
“เราให้ความสำคัญกับศูนย์บริการเป็นอย่างมาก เพราะศูนย์บริการถือเป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการ และเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจเบนซ์ ทีทีซี และเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเรามีทีมงานช่างที่มีความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพถึง 24 คน ผ่านการอบรมและรับรองมาตรฐานจาก บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด มารองรับปริมาณรถยนต์ที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในแต่ละปี พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมช่องซ่อม 37 ช่องซ่อม รับบริการได้มากถึง 60-70 คันต่อวัน รวมถึงมีเครื่องมือพิเศษ Star Diagnosis ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจเช็คผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ใช้ในการตรวจเช็คความผิดปกติของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างแม่นยำ รองรับเทคโนโลยีที่ทันสมัยของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี”
ทิพย์ กล่าวอีกว่า เบนซ์ ทีทีซี ยังให้ความสำคัญกับบริการทั้งก่อนและหลังการขาย โดยจัดตั้งทีมการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ ด้วยทีมงานทั้งสิ้น 13 คน เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดแบบซีอาร์เอ็ม ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าที่นำรถเข้ามาใช้บริการ โดยลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงการใส่ใจในทุกรายละเอียดที่สามารถสร้างความพึงพอใจสูงสุด จากบริการที่จริงใจและออกมาจากใจของพนักงานทุกคน เนื่องจากเล็งเห็นว่าปัจจุบันพฤติกรรมของผู้ใช้รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะยืดระยะเวลาการเปลี่ยนรถออกไปให้ยาวนานมากขึ้น ดังนั้นในช่วงปีแรกๆของการใช้รถยนต์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและไว้วางใจในการเข้ามารับบริการ ซึ่งจะส่งผลต่อไปในอนาคตที่ลูกค้าเมื่อคิดจะซื้อรถยนต์คันต่อไป ก็จะนึกถึงเบนซ์ ทีทีซี เป็นแห่งแรก
“จุดแข็งที่ถือเป็นหัวใจของบริการเราคือ การมุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาเบนซ์ ทีทีซี ได้รับการพูดถึงจากลูกค้าในเรื่องของบริการที่เหนือกว่ามาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริการรับ-ส่งรถถึงบ้าน บริการโฮมสปาให้ลูกค้าระหว่างรอรับรถ บริการอาหาร และของว่าง เครื่องดื่มสมุนไพร มีมุมอินเทอร์เน็ทความเร็วสูง รวมทั้งมีสินค้าที่ระลึกให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกว่า 100 รายการ และเรายังมีการจัดกิจกรรมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การตรวจเช็คดวงชะตาจากหมอดูชื่อดัง และการให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการทำประโยชน์เพื่อสังคม เป็นต้น”
นอกจากนี้ เบนซ์ ทีทีซี ยังได้ปรับโฉมโชว์รูมใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรองรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ปัจจุบันจำหน่ายอยู่ถึง 20 รุ่น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มคอมแพค คาร์ ได้แก่รุ่น A , B , CLA , GLA ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท , กลุ่ม C , E , E-Coupe , M Class และกลุ่ม Exclusive ได้แก่รุ่น S Class และรุ่น SL ซึ่งรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นใหม่ๆ ที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยลูกค้ากลุ่มใหม่นี้มักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงาน ที่ต้องการรถยนต์ที่มีคุณภาพและตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยการปรับโฉมโชว์รูมและการปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ของเบนซ์ ทีทีซี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จำหน่ายได้ 759 คัน เป็น 900 คันในปีนี้.
