"โค้ชเช" เปิดใจครั้งแรกผ่านสื่อญี่ปุ่น รับตีที่ใบหน้าและท้อง "น้องก้อย" จริง แต่ไม่รุนแรงอย่างที่เป็นข่าว ยันตนเองรู้วัฒนธรรมไทยที่ไม่คุ้นกับการลงโทษรุนแรง ด้าน ปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคม เผยเตรียมเดินทางหารือกับผู้บริหารสมาคมกีฬาเกาหลีใต้ พร้อมดึงกลับทำทีมต่อ
จากกรณีปัญหา “โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ที่ลงไม้ลงมือทำโทษ “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย 2014 รุ่น 62 กิโลกรัม โดยเจ้าตัวออกมาแฉว่าโดนโค้ชเช ชกเข้าที่ใบหน้า และต่อยท้อง หลังโมโหที่ตนลงแข่งขันช้า และไม่พร้อมในการลงสนาม ส่งผลให้พ่ายการแข่งขันกับเจ้าถิ่นไป ภายหลังนักกีฬารายนี้ได้นำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ตำหนิการกระทำของโค้ชชาวเกาหลีใต้ พร้อมระบุให้มีการขอโทษผ่านสื่อมวลชน กระทั่ง "โค้ชเช" ปฏิเสธที่จะเดินทางกลับประเทศไทย พร้อมกับนักกีฬาเทควันโดชุดสู้ศึกโคเรียล โอเพน ด้วยเที่ยวบิน OZ 741 เวลา 22.00 น. วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
** “พิมล”ทำทุกทางให้โค้ชกลับไทย
โดย นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “โค้ชเช” อาจไม่กลับมาเมืองไทยแล้ว "เท่าที่ได้คุยกับ โค้ชเช เขายืนยันว่ายังไม่กลับประเทศไทยในวันที่ 17 ก.ค.นี้ พร้อมทีมนักกีฬาที่เดินทางไปด้วย ส่วนจะกลับเมื่อไรก็ไม่มีคำตอบ ส่วนเรื่องที่น้องก้อยบอกว่าโค้ชคนไทยให้รอ และไม่ได้สั่งให้เตรียมพร้อมนั้น ผมไม่ทราบว่าไม่ได้ฟัง หรือว่าไม่ใส่ใจ หรือว่ากุเรื่องขึ้น แต่ผมไม่เชื่อว่าเป็นความผิดของโค้ช ไม่ว่าจะเรื่องนักกีฬาลืมไอดีการ์ด ไม่ใส่อุปกรณ์เครื่องป้องกันเพื่อเตรียมแข่งขัน"
นายพิมล กล่าวต่ออีกว่า "ผมก็ถาม โค้ชเช ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าเขาไม่ได้ลงมือรุนแรงอย่างที่นักกีฬาบอก ผมก็ถามอีกว่ามันแรงขนาดไหน เพราะถ้าแรงมากคนก็ต้องลงไปกองแล้ว เพราะโดนต่อยหน้า ตาปูด และเห็นว่าตอนที่นักกีฬากลับมาก็เลี่ยงผู้สื่อข่าว เพราะอาจห่วงว่าไม่มีรอยหรือเปล่า คือไม่ว่าจะอย่างไร โค้ชเชเขาทำไปก็เพราะด้วยความรัก ความหวังดี อยากจะให้จำ แล้วมาทำแบบนี้ ผมไม่คิดว่ามันสมควร"
พร้อมกันนี้นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เผยถึงการพยายามนำตัวยอดโค้ชชาวเกาหลีใต้กลับมาร่วมงานกันต่อให้ได้ "ผมจะพยายามคุยกับ โค้ชเช ให้เขากลับมา ถ้าเขาไม่กลับมาผมก็ต้องบินไปตามให้เขากลับมา ต้องพยายามทุกๆ ทางที่จะทำได้ ไม่ได้มองแค่เฉพาะความสำเร็จอย่างเดี่ยว แต่เขาเหมือนสมาชิกในครอบครัวเรา ชาวเกาหลีหัวใจไทย ผมคิดว่าเขาคงรู้สึกกดดัน ในหลายๆ ทางสื่อที่เกาหลีก็เอาสื่อไทยไปแปลอีก ชาติอื่นก็มาจีบบ้างระหว่างนี้คงต้องให้เขาตั้งสติสักพัก"
** เตือน “น้องก้อย” กลับลำก่อนถูกเมิน
สอดคล้องกับนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เผยว่าการที่ “โค้ชเช” ยืนยันว่าจะไม่กลับไทยนั้น ส่งผลกระทบต่อการที่สมาคมเทควันโดฯ ซึ่งเป็นกีฬาความหวังเหรียญทองในการแข่งขันมหกรรมกีฬาต่างๆ อาทิ ยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่เมืองนานจิง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 16-28 ส.ค. 2557 และเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 ก.ย.- 4 ต.ค. 2557
“สำหรับปัญหาดังกล่าว สมาคมเทควันโดฯ ได้แต่งตั้งให้ พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ อดีตประธานเตรียมนักกีฬาไทย เป็นประธานสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ร่วมกับกรรมการอีก 2 ท่าน ซึ่งจะมีการพิจารณากันในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ที่สมาคม หลังจากนั้นนายกสมาคมฯ ได้มีคำสั่งให้ผมบินด่วนไปประเทศเกาหลีใต้ทันที เพื่อเจรจากับทางสมาคมเทควันโดของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับเรื่องของโค้ชเชอีกครั้ง และพูดคุยกับทางโค้ชเพื่อขอให้เดินทางกลับมาประเทศไทย”
ขณะเดียวกัน นายปรีชา ยังได้เปิดเผยต่ออีกว่า “โค้ชเช ได้บอกลานักกีฬาที่เดินทางไปแข่งโคเรียล โอเพน แล้วเรียบร้อย ส่วนตัวอยากให้น้องก้อยไตร่ตรองการกระทำของตัวด้วยว่าถูกหรือผิดที่เรียกร้องให้โค้ชเช ออกมาขอโทษเหมาะสมหรือไม่ ระวังอาจเป็นนักกีฬาคนแรกที่คนไทยไม่เชียร์”
** “โค้ชเช”ปฏิเสธลั่นไม่ได้ต่อย
อย่างไรก็ตาม “โค้ชเช” ได้กล่าวเปิดใจเป็นครั้งแรกกับ สำนักข่าวเอ็นเอชเค ของญี่ปุ่น โดยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "วันนั้นเป็นการแข่งขันวันแรก ผมจึงปล่อยให้ความประมาทของนักกีฬาคนหนึ่งมาสร้างอิทธิพลในทีมไม่ได้ ทำให้ต้องสั่งสอน ยอมรับว่าตีเขาที่ใบหน้า และท้องเบาๆ แต่ไม่ได้ต่อย ซึ่งด้วยความที่ทำหน้าที่โค้ชให้ทีมชาติไทยมานาน จึงรู้ดีว่าวัฒนธรรมไทยไม่คุ้นกับการสั่งสอนแบบนี้ ยิ่งเป็นนักกีฬาผู้หญิงด้วย แล้วตนจะต่อยได้อย่างไร"
จากกรณีปัญหา “โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ที่ลงไม้ลงมือทำโทษ “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย 2014 รุ่น 62 กิโลกรัม โดยเจ้าตัวออกมาแฉว่าโดนโค้ชเช ชกเข้าที่ใบหน้า และต่อยท้อง หลังโมโหที่ตนลงแข่งขันช้า และไม่พร้อมในการลงสนาม ส่งผลให้พ่ายการแข่งขันกับเจ้าถิ่นไป ภายหลังนักกีฬารายนี้ได้นำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ตำหนิการกระทำของโค้ชชาวเกาหลีใต้ พร้อมระบุให้มีการขอโทษผ่านสื่อมวลชน กระทั่ง "โค้ชเช" ปฏิเสธที่จะเดินทางกลับประเทศไทย พร้อมกับนักกีฬาเทควันโดชุดสู้ศึกโคเรียล โอเพน ด้วยเที่ยวบิน OZ 741 เวลา 22.00 น. วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
** “พิมล”ทำทุกทางให้โค้ชกลับไทย
โดย นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “โค้ชเช” อาจไม่กลับมาเมืองไทยแล้ว "เท่าที่ได้คุยกับ โค้ชเช เขายืนยันว่ายังไม่กลับประเทศไทยในวันที่ 17 ก.ค.นี้ พร้อมทีมนักกีฬาที่เดินทางไปด้วย ส่วนจะกลับเมื่อไรก็ไม่มีคำตอบ ส่วนเรื่องที่น้องก้อยบอกว่าโค้ชคนไทยให้รอ และไม่ได้สั่งให้เตรียมพร้อมนั้น ผมไม่ทราบว่าไม่ได้ฟัง หรือว่าไม่ใส่ใจ หรือว่ากุเรื่องขึ้น แต่ผมไม่เชื่อว่าเป็นความผิดของโค้ช ไม่ว่าจะเรื่องนักกีฬาลืมไอดีการ์ด ไม่ใส่อุปกรณ์เครื่องป้องกันเพื่อเตรียมแข่งขัน"
นายพิมล กล่าวต่ออีกว่า "ผมก็ถาม โค้ชเช ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าเขาไม่ได้ลงมือรุนแรงอย่างที่นักกีฬาบอก ผมก็ถามอีกว่ามันแรงขนาดไหน เพราะถ้าแรงมากคนก็ต้องลงไปกองแล้ว เพราะโดนต่อยหน้า ตาปูด และเห็นว่าตอนที่นักกีฬากลับมาก็เลี่ยงผู้สื่อข่าว เพราะอาจห่วงว่าไม่มีรอยหรือเปล่า คือไม่ว่าจะอย่างไร โค้ชเชเขาทำไปก็เพราะด้วยความรัก ความหวังดี อยากจะให้จำ แล้วมาทำแบบนี้ ผมไม่คิดว่ามันสมควร"
พร้อมกันนี้นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เผยถึงการพยายามนำตัวยอดโค้ชชาวเกาหลีใต้กลับมาร่วมงานกันต่อให้ได้ "ผมจะพยายามคุยกับ โค้ชเช ให้เขากลับมา ถ้าเขาไม่กลับมาผมก็ต้องบินไปตามให้เขากลับมา ต้องพยายามทุกๆ ทางที่จะทำได้ ไม่ได้มองแค่เฉพาะความสำเร็จอย่างเดี่ยว แต่เขาเหมือนสมาชิกในครอบครัวเรา ชาวเกาหลีหัวใจไทย ผมคิดว่าเขาคงรู้สึกกดดัน ในหลายๆ ทางสื่อที่เกาหลีก็เอาสื่อไทยไปแปลอีก ชาติอื่นก็มาจีบบ้างระหว่างนี้คงต้องให้เขาตั้งสติสักพัก"
** เตือน “น้องก้อย” กลับลำก่อนถูกเมิน
สอดคล้องกับนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เผยว่าการที่ “โค้ชเช” ยืนยันว่าจะไม่กลับไทยนั้น ส่งผลกระทบต่อการที่สมาคมเทควันโดฯ ซึ่งเป็นกีฬาความหวังเหรียญทองในการแข่งขันมหกรรมกีฬาต่างๆ อาทิ ยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่เมืองนานจิง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 16-28 ส.ค. 2557 และเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 ก.ย.- 4 ต.ค. 2557
“สำหรับปัญหาดังกล่าว สมาคมเทควันโดฯ ได้แต่งตั้งให้ พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ อดีตประธานเตรียมนักกีฬาไทย เป็นประธานสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ร่วมกับกรรมการอีก 2 ท่าน ซึ่งจะมีการพิจารณากันในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ที่สมาคม หลังจากนั้นนายกสมาคมฯ ได้มีคำสั่งให้ผมบินด่วนไปประเทศเกาหลีใต้ทันที เพื่อเจรจากับทางสมาคมเทควันโดของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับเรื่องของโค้ชเชอีกครั้ง และพูดคุยกับทางโค้ชเพื่อขอให้เดินทางกลับมาประเทศไทย”
ขณะเดียวกัน นายปรีชา ยังได้เปิดเผยต่ออีกว่า “โค้ชเช ได้บอกลานักกีฬาที่เดินทางไปแข่งโคเรียล โอเพน แล้วเรียบร้อย ส่วนตัวอยากให้น้องก้อยไตร่ตรองการกระทำของตัวด้วยว่าถูกหรือผิดที่เรียกร้องให้โค้ชเช ออกมาขอโทษเหมาะสมหรือไม่ ระวังอาจเป็นนักกีฬาคนแรกที่คนไทยไม่เชียร์”
** “โค้ชเช”ปฏิเสธลั่นไม่ได้ต่อย
อย่างไรก็ตาม “โค้ชเช” ได้กล่าวเปิดใจเป็นครั้งแรกกับ สำนักข่าวเอ็นเอชเค ของญี่ปุ่น โดยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "วันนั้นเป็นการแข่งขันวันแรก ผมจึงปล่อยให้ความประมาทของนักกีฬาคนหนึ่งมาสร้างอิทธิพลในทีมไม่ได้ ทำให้ต้องสั่งสอน ยอมรับว่าตีเขาที่ใบหน้า และท้องเบาๆ แต่ไม่ได้ต่อย ซึ่งด้วยความที่ทำหน้าที่โค้ชให้ทีมชาติไทยมานาน จึงรู้ดีว่าวัฒนธรรมไทยไม่คุ้นกับการสั่งสอนแบบนี้ ยิ่งเป็นนักกีฬาผู้หญิงด้วย แล้วตนจะต่อยได้อย่างไร"
