ASTVผู้จัดการรายวัน- สมาคมอุตฯเซลล์แสงอาทิตย์เตรียมทำหนังสือถึง”คสช”ให้เปิดรับซื้อไฟโซล่าร์รูฟบ้านที่อยู่อาศัยเพิ่มให้เป็นไปตามเป้าหมาย 100 เมกะวัตต์หลังอุปสรรครง. 4 หมดลง แถมล่าสุดกรมโยธาธิการฯเตรียมประกาศยกเว้นการผลิตไม่เกิน 10กิโลวัตต์ไม่ต้องขออนุญาตดัดแปลงอาคาร ด้านเรกูเลเตอร์ลั่นพร้อมอนุญาต 10 วันหากเอกสารครบ
นายดุสิต เครืองาม นายกสมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ทางสมาคมฯ จะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)เพื่อให้พิจารณาเปิดเสนอรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัย(Solar PV Rooftop) เพิ่มเติมให้เป็นไปตามเป้าหมาย 100เมกะวัตต์เนื่องจากการเปิดให้ยื่นครั้งที่ผ่านมามีผู้มายื่นผลิตไฟ 52 เมกะวัตต์แต่ลงนามสัญญาจริงเพียง 20 เมกะวัตต์เท่านั้น
“โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีไม่ได้เป็นปัญหาอะไรแต่ที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าหมายสว่นหนึ่งมาจากเหตุผลของการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือ รง.4ที่เป็นอุปสรรคแต่ล่าสุดทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือเรกูเลเตอร์ได้ประกาศยกเว้นให้โซล่าร์รูฟไม่ต้องขอรง.4 แล้ว “นายดุสิตกล่าว
นอกจากนี้ล่าสุดอุปสรรคที่สำคัญคือการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคาปัจจุบันถูกมองว่าเป็นการดัดแปลงอาคารทำให้ต้องขออนุญาตซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและเป็นปัญหาไม่น้อยไปกว่าการขอรง. 4 ล่าสุดทางเรกูเลเตอร์ได้มีการประสานไปยังกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อที่จะขอยกเว้นให้บ้านที่อยู่อาศัยที่ติดตั้งโซล่าร์รูฟขนาดไม่เกิน 70 ตารางเมตร(กรณีโซล่าร์ผลึก)และไม่เกิน 150 ตารางเมตร(ฟิล์มบาง) ไม่ต้องยื่นขอใบอนุญาตหรือคิดเป็นการติดตั้งโซล่าร์รูฟไม่เกิน 10กิโลวัตต์แต่ถ้าเกิน 10กิโลวัตต์คงจะต้องขออนุญาตเพื่อความปลอดภัย คาดว่าจะประกาศระเบียบดังกล่าวได้เร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้แนวโน้มโซล่าร์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัยของไทยจะง่ายขึ้นและมีการแข่งขันทำให้ประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด
นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สกพ.) กล่าวว่า จากนี้ไปการออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าทั้งหมดจะมาอยู่ที่สกพ.หลังจากไม่ต้องขอรง. 4 ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมั่นใจการพิจารณาอนุมัติหากเอกสารครบเร็วสุดใช้เวลา10วัน หรือช้าสุดไม่เกิน30วัน ซึ่งล่าสุดกรอ.ได้ส่งเรื่องมาให้พิจารณา 29 รายคิดเป็น 714.37 เมกะวัตต์ แต่เรกูเลเตอร์เพิ่งพิจารณาอนุญาตไป 2 ราย กำลังผลิต76.40เมกะวัตต์เนื่องจากที่เหลือกรอ.ส่งเอกสารไม่ครบถ้วน โดยปัจจุบันได้พิจารณาอนุมัติใบอนุญาต ร.ง. 4 รวมทั้งสิ้น 513 ราย คิดเป็น 9,370เมกะวัตต์
นายดุสิต เครืองาม นายกสมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ทางสมาคมฯ จะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)เพื่อให้พิจารณาเปิดเสนอรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัย(Solar PV Rooftop) เพิ่มเติมให้เป็นไปตามเป้าหมาย 100เมกะวัตต์เนื่องจากการเปิดให้ยื่นครั้งที่ผ่านมามีผู้มายื่นผลิตไฟ 52 เมกะวัตต์แต่ลงนามสัญญาจริงเพียง 20 เมกะวัตต์เท่านั้น
“โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีไม่ได้เป็นปัญหาอะไรแต่ที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าหมายสว่นหนึ่งมาจากเหตุผลของการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือ รง.4ที่เป็นอุปสรรคแต่ล่าสุดทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือเรกูเลเตอร์ได้ประกาศยกเว้นให้โซล่าร์รูฟไม่ต้องขอรง.4 แล้ว “นายดุสิตกล่าว
นอกจากนี้ล่าสุดอุปสรรคที่สำคัญคือการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคาปัจจุบันถูกมองว่าเป็นการดัดแปลงอาคารทำให้ต้องขออนุญาตซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและเป็นปัญหาไม่น้อยไปกว่าการขอรง. 4 ล่าสุดทางเรกูเลเตอร์ได้มีการประสานไปยังกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อที่จะขอยกเว้นให้บ้านที่อยู่อาศัยที่ติดตั้งโซล่าร์รูฟขนาดไม่เกิน 70 ตารางเมตร(กรณีโซล่าร์ผลึก)และไม่เกิน 150 ตารางเมตร(ฟิล์มบาง) ไม่ต้องยื่นขอใบอนุญาตหรือคิดเป็นการติดตั้งโซล่าร์รูฟไม่เกิน 10กิโลวัตต์แต่ถ้าเกิน 10กิโลวัตต์คงจะต้องขออนุญาตเพื่อความปลอดภัย คาดว่าจะประกาศระเบียบดังกล่าวได้เร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้แนวโน้มโซล่าร์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัยของไทยจะง่ายขึ้นและมีการแข่งขันทำให้ประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด
นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สกพ.) กล่าวว่า จากนี้ไปการออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าทั้งหมดจะมาอยู่ที่สกพ.หลังจากไม่ต้องขอรง. 4 ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมั่นใจการพิจารณาอนุมัติหากเอกสารครบเร็วสุดใช้เวลา10วัน หรือช้าสุดไม่เกิน30วัน ซึ่งล่าสุดกรอ.ได้ส่งเรื่องมาให้พิจารณา 29 รายคิดเป็น 714.37 เมกะวัตต์ แต่เรกูเลเตอร์เพิ่งพิจารณาอนุญาตไป 2 ราย กำลังผลิต76.40เมกะวัตต์เนื่องจากที่เหลือกรอ.ส่งเอกสารไม่ครบถ้วน โดยปัจจุบันได้พิจารณาอนุมัติใบอนุญาต ร.ง. 4 รวมทั้งสิ้น 513 ราย คิดเป็น 9,370เมกะวัตต์
