xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านระยองฟ้องศาลปกครองเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานถ่านหินโค้ก ไม่ผ่านอีเอชไอเอ-หวั่นสร้างมลพิษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำชาวบ้านระยองยื่นฟ้องกรมโรงงานอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกใบอนุญาตโรงงานให้บริษัทผู้ผลิตถ่านหินโค้กโดยไม่ผ่านการทำอีไอเอ และเอชไอเอ แถมใกล้เดินเครื่องผลิต หวั่นก่อมลพิษและมลภาวะ

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วย พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และตัวแทนประชาชนที่ได้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.มาบข่า ต.นิคมพัฒนา ต.ห้วยโป้ง ต.มาบตาพุด อ.เมืองฯ จ.ระยอง รวม 71 คน ยื่นฟ้อง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รมว.อุตสาหกรรม และ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เป็นผู้ฟ้องที่ 1-4 ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการโรงงาน หรือใบ รง.4 ที่ออกให้บริษัท ไทยเจนเนอรัลไนซ์โคล แอนโค้ก จำกัด และขอให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในการออกคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งให้บริษัท ไทยเจนเนอรัลฯ ดำเนินการตามมาตรา 12 วรรคสอง มีการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ก่อนที่จะยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน และให้รื้อถอนโรงงานและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวออกให้ทั้งหมดเสียก่อน รวมถึงให้สั่งผู้ถูกฟ้องคดีต้องจัดให้มีวิธีการที่จะให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียทั้งจังหวัดระยองเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการดังกล่าวซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ และมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีต้องร่วมกับประชาชนผู้มีส่วนได้เสียจัดทำแผนหรือมาตรการขจัดมลพิษในจ.ระยองในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เหตุที่ต้องฟ้องคดีเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. อธิบดีกรมโรงงานอตุสาหกรรมได้เซ็นอนุมัติออกใบอนุญาตการการประกอบกิจการโรงงาน หรือใบ รง. 4 ให้กับบริษัทไทยเจนเนอรัลฯ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้รับอนุญาตจากเทศบาลเมืองมาบตาพุด ให้ก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างรวม 28 อาคารในเนื้อที่ 460 ไร่ของ ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองฯ จ.ระยอง ซึ่งถือว่าอยู่ในเขตควบคุมมลพิษ เพื่อทำเป็นโรงงานเผาถ่านหินให้กลายเป็นถ่านหินโค้ก ที่จะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก ถือว่าเป็นโรงงานแห่งแรกในประเทศไทย ทั้งที่ในประเทศไทยไม่มีอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก จึงสันนิษฐานได้ว่าเป็นการตั้งโรงงานเพื่อเผาทำถ่านหินโค้กที่จะส่งไปยังประเทศจีน ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างโรงงานได้เสร็จสิ้นแล้วและกำลังที่จะเริ่มผลิต จากหลักฐานการขออนุญาตผลิตพบว่าจะมีเตาเผาถ่านหินเพื่อให้ได้ถ่านหินโค้กจำนวน 12 เตา มีเป้าหมายการผลิตให้ได้ถ่านหินโค้กปีละไม่ต่ำว่า 5 แสนตัน

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็คัดค้านมาตลอดนับแต่ทราบว่าจะมีการก่อตั้งโรงงานดังกล่าวขึ้นเพราะทราบดีว่าหากเริ่มการผลิตก็จะสร้างมลพิษ มลภาวะให้เกิดขึ้นกับชุมชนและเป็นภัยต่อสุขภาพเหมือนกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะจ.ลำปาง รวมทั้งยังข้อมูลว่าสมัยที่นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ก็เคยมีหนังสือถึงอุตสาหกรรมจังหวัดและผู้ที่เกี่ยวข้องในนามคณะกรรมการ่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กกร.จ.ระยอง ว่ามีมติคัดค้านการจัดดั้งโรงงานดังกล่าว และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติก็ได้มีมติเมื่อ ส.ค. 56 ว่าการจะจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมถ่านหินโค้ก ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 67 วรรคสอง ในเรื่องต้องจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) เนื่องจากถือว่าเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชน แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองไม่ปกติ ทำให้ยังไม่มีการออกเป็นพระราชกฤษฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ จึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาศัยช่องว่างดังกล่าวเป็นข้ออ้างในการพิจาณาอนุมัติให้ออกใบ รง.4








กำลังโหลดความคิดเห็น