ASTVผู้จัดการรายวัน ตลาดตราสารหนี้ไทย เผยครึ่งปีแรกเริ่มมีเงินไหลกลับเข้าลงทุนหลังคสช. ประกาศแผนเศรษฐกิจ ขณะที่ บอนด์เอกชนครึ่งปีแรก ออกเพียบถึง 3 แสนล้านบาท คาดครึ่งปีหลังออกเพิ่มอีกดันยอดออกหุ้นกู้ทั้งปีถึง 6 แสนล้านบาท พร้อมแนะจับตาสหรัฐลดQEดันเงินทุนไหลกลับตลาดสหรัฐได้
นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้ไทยมียอดคงค้างตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 9.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน โดยครึ่งปีแรกมีเงินทุนไหลออกจากคลาดตราสารหนี้ ประมาณ 39000 ล้านบาท โดยเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น 5000 ล้านบาท ตราสารหนี้ระยะยาว 34000 ล้านบาท โดยไหลออกมากในเดือนพฤษภาคม จากปัญหาด้านการเมือง แต่ในภาพรวมแม้ว่าเงินจะไหลออกจากตลาดแต่ก็ยังมีตัวเลขการกลับเข้ามาอีกครั้งในเดือนมิถุนายน หลังการประกาศแผนเศรษฐกิจของ คสช. ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีกับตลาด
ขณะที่การถือครองตราสารหนี้ต่างชาติทุกประเภท ณ สิ้นเดือนมิถุยายน อยู่ที่ 670,282 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นเดือนธันวาคม 2556 ซึ่งอยุ่ที่ 709,394 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา ต่างชาติถือครองพันธบัตรไทยคิดเป็น 15.68% ลดลงจากสินเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา คิดเป็น 17.44% ซี่งตราสารหนี้ระยะสั้นต่างชาติถือครองอยุ่ 13,000 ล้านบาท เกือบทั้งหมดเป็นตราสารที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตราสารที่ออกมาเพื่อรักษาสภาพคล่องไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหากต่างชาติถอนออกไป ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยในช่วง3ปีที่ผ่านมามีความสัมพันธ์กับตราสารหนี้ของสหรัฐฯ สะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลีงดีขึ้น ผ่านพ้นวิกฤติไปแล้ว
ด้านตราสารหนี้ภาคเอกชน ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเอกชนออกหุ้นกู้ไปแล้วกว่า 300,000ล้านบาทและคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีน่าจะมีออกมาอีกในระดับที่เท่ากันทำให้ยอดการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนทั้งปีอยู่ที่600,000 ล้านบาทมากกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ที่ระดับ 450,000 ล้านบาท โดยเป็นบริษัท กลุ่ม พาณิชย์ พลังงาน และ ไอซีที
"เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดในช่วงที่เกิดการยึดอำนาจ แต่หลังจาก คสช. มีความชัดเจนด้านเศรษฐกิจการเบิกจ่ายงบประมาณก็ทำให้ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมาเงินทุนเริ่มกลับเข้ามารวมถึงการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงที่อยู่ในระดับปัจจุบันไปอีกระยะเพื่อให้เกิดความชัดเจนทางเศรษฐกิจแต่ก็ยังมียังมีปัจจัยทั้งในและนอกประเทศเป็นตัวแปร หากสหรัฐฯลด QE ลงและมีการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นอาจทำให้เงินทุนไหลกลับไปตลาดสหรัฐฯได้
นายธาดา กล่าวว่า คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีเงินต่างชาติน่าจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยหลังปัญหาควาทขัดแย้งทางการเมืองคลี่คลายลง ขณะเดียวกันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น คาดดว่าเอกชนน่าจะระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง
นายพิสิฐ ลี้อาธรม ประธานกรรมการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย พาในส่วนของสมาคมตราสารหนี้ต้องการให้คนเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้มากขึ้น ทางสมาคมก็จะทำหน้าที่กำกับดูแลเข้มงวดมากขึ้น ทำให้ตลาดตราสารหนี้มีประสิทธิภาพในเรื่องการออมนอกเหนือจากแบงก์พาณิชย์รวมทั้งการให้ความรู้และการประสานงานให้ใกล้ชิดกับสมาชิกมากขึ้น
นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้ไทยมียอดคงค้างตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 9.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน โดยครึ่งปีแรกมีเงินทุนไหลออกจากคลาดตราสารหนี้ ประมาณ 39000 ล้านบาท โดยเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น 5000 ล้านบาท ตราสารหนี้ระยะยาว 34000 ล้านบาท โดยไหลออกมากในเดือนพฤษภาคม จากปัญหาด้านการเมือง แต่ในภาพรวมแม้ว่าเงินจะไหลออกจากตลาดแต่ก็ยังมีตัวเลขการกลับเข้ามาอีกครั้งในเดือนมิถุนายน หลังการประกาศแผนเศรษฐกิจของ คสช. ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีกับตลาด
ขณะที่การถือครองตราสารหนี้ต่างชาติทุกประเภท ณ สิ้นเดือนมิถุยายน อยู่ที่ 670,282 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นเดือนธันวาคม 2556 ซึ่งอยุ่ที่ 709,394 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา ต่างชาติถือครองพันธบัตรไทยคิดเป็น 15.68% ลดลงจากสินเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา คิดเป็น 17.44% ซี่งตราสารหนี้ระยะสั้นต่างชาติถือครองอยุ่ 13,000 ล้านบาท เกือบทั้งหมดเป็นตราสารที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตราสารที่ออกมาเพื่อรักษาสภาพคล่องไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหากต่างชาติถอนออกไป ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยในช่วง3ปีที่ผ่านมามีความสัมพันธ์กับตราสารหนี้ของสหรัฐฯ สะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลีงดีขึ้น ผ่านพ้นวิกฤติไปแล้ว
ด้านตราสารหนี้ภาคเอกชน ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเอกชนออกหุ้นกู้ไปแล้วกว่า 300,000ล้านบาทและคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีน่าจะมีออกมาอีกในระดับที่เท่ากันทำให้ยอดการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนทั้งปีอยู่ที่600,000 ล้านบาทมากกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ที่ระดับ 450,000 ล้านบาท โดยเป็นบริษัท กลุ่ม พาณิชย์ พลังงาน และ ไอซีที
"เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดในช่วงที่เกิดการยึดอำนาจ แต่หลังจาก คสช. มีความชัดเจนด้านเศรษฐกิจการเบิกจ่ายงบประมาณก็ทำให้ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมาเงินทุนเริ่มกลับเข้ามารวมถึงการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงที่อยู่ในระดับปัจจุบันไปอีกระยะเพื่อให้เกิดความชัดเจนทางเศรษฐกิจแต่ก็ยังมียังมีปัจจัยทั้งในและนอกประเทศเป็นตัวแปร หากสหรัฐฯลด QE ลงและมีการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นอาจทำให้เงินทุนไหลกลับไปตลาดสหรัฐฯได้
นายธาดา กล่าวว่า คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีเงินต่างชาติน่าจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยหลังปัญหาควาทขัดแย้งทางการเมืองคลี่คลายลง ขณะเดียวกันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น คาดดว่าเอกชนน่าจะระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง
นายพิสิฐ ลี้อาธรม ประธานกรรมการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย พาในส่วนของสมาคมตราสารหนี้ต้องการให้คนเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้มากขึ้น ทางสมาคมก็จะทำหน้าที่กำกับดูแลเข้มงวดมากขึ้น ทำให้ตลาดตราสารหนี้มีประสิทธิภาพในเรื่องการออมนอกเหนือจากแบงก์พาณิชย์รวมทั้งการให้ความรู้และการประสานงานให้ใกล้ชิดกับสมาชิกมากขึ้น