xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

"เสี่ยเปี๋ยง"หนึ่งในจิ๊กซอว์ มัด"ยิ่งลักษณ์"ทุจริตจำนำข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ชื่อของ"เสี่ยเปี๋ยง" หรือ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ได้ปรากฏบนหน้าสื่อ และมีการพูดถึงกันอีกครั้ง เมื่อศาลแขวงสมุทรปราการ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในคดีที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด กับ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อายุ 50 ปี นักธุรกิจชื่อดัง คนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยฐานยักยอกข้าวกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องส่งไปขายอิหร่าน 2 หมื่นตัน มูลค่า 200 ล้านบาท โดยศาลสั่งจำคุกเสี่ยเปี๋ยง 6 ปี ปรับ 12,000 บาท และให้ชดใช้เงินอีกประมาณ 200 ล้านบาท

คดีนี้ไม่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

โดยขณะนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้รับใบสั่งซื้อข้าวชนิดแตกหัก 5 เปอร์เซ็นต์ จากประเทศอิหร่านแบบ"จีทูจี" จำนวน 2 หมื่นตัน ราคา 200 ล้านบาท มีกำหนดนัดส่งข้าวที่ท่าเรือตามกฎหมายขนส่งทางทะเล โดยที่บริษัทของเสี่ยเปี๋ยง เสนอตัวเป็นผู้นำข้าวชนิดแตกหักไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ไป "รีบิวด์" คือเอาข้าวไปปรับสภาพใหม่ ภาษาทางการเรียกว่า สัญญาจ้างทำของ ให้เป็นข้าวแตกหัก 5 เปอร์เซ็นต์ เพื่อกินส่วนต่าง โดยบริษัทของเสี่ยเปี๋ยง ต้องมารับข้าวไปรีบิวด์ให้ครบจำนวน และตรงเวลา แล้วส่งไปยังประเทศอิหร่าน ที่ท่าเรือ

ปรากฏว่า พอถึงเวลานัด บริษัท เพรซิเดนท์ฯ กลับไม่นำข้าวไปส่งตามกำหนดถึง 2 ครั้ง ทำให้รัฐบาลในสมัยนั้นเสียหาย ต้องเสียมัดจำ และเบี้ยปรับให้กับประเทศอิหร่าน

ต่อมารัฐบาลมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินคดีจำเลยทั้งสอง ฐานยักยอกทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งเสี่ยเปี๋ยงให้การปฏิเสธ และได้ประกันตัวไป จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษาจำคุก เมื่อ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา

คดีนี้ฟ้องเป็น 2 สำนวน ในรายละเอียดของคำพิพากษา ระบุว่า จากคำเบิกความ และพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสอง รับข้าวสารขาวจากกระทรวงพาณิชย์มาไว้ในครอบครองเพื่อนำไปปรับปรุงคุณภาพจากข้าว 10 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็นข้าวสารขาว 5 เปอร์เซ็นต์ โดยมีเจตนาทุจริต เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวจำเลยได้ขายข้าวจำนวน 2 หมื่นตันไปให้ประเทศอื่นในนามของบริษัท ไม่สามารถส่งข้าวสารให้แก่ประเทศอิหร่านคู่สัญญาตามที่กำหนดไว้ได้ อันเป็นการผิดสัญญาต่อรัฐ จำเลยทั้งสอง จึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตามที่โจทก์ฟ้อง

พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 สำนวนละ 3 ปี รวม 6 ปี ปรับบริษัทจำเลย ที่ 1 สำนวนละ 6,000 บาท รวม 12,000 บาท โดยในสำนวนแรกพิพากษาให้จำเลยคืนข้าวสารจำนวน 16,400 ตัน ในความครอบครองแก่กระทรวงพาณิชย์ หากไม่นำคืนข้าวสารขาว ให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 175 ล้านบาทเศษ และ สำนวนที่ 2 ให้จำเลยคืนข้าวสารขาวจำนวน 4,742 ตัน แก่กระทรวงพาณิชย์ หากไม่นำมาคืนให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 54 ล้านบาท

หลังมีคำพิพากษา เสี่ยเปี๋ยงได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว สำนวนละ 1 ล้านบาท รวม 2 สำนวน เป็นเงิน 2 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ซึ่งศาลได้อนุญาตปล่อยชั่วคราวไป

ตามปูมประวัติ เสี่ยเปี๋ยง โตมาจากธุรกิจโรงสีที่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เป็นแกนพรรคไทยรักไทย ที่จ.พิจิตร อยู่ค่าย "เจ๊ ด." ในฐานะหัวคะแนน ชนกับ "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ในสนามการเมืองมาตลอด
 
ในช่วงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เรืองอำนาจ เสี่ยเปี๋ยง นับเป็นขาใหญ่ในวงการค้าข้าว และส่งออกข้าวไทยไปต่างประเทศ เพราะเป็นเจ้าของเพรสซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ที่ผูกขาดขายข้าว และส่งออกรายใหญ่ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ
 
ไม่เพียงเท่านั้น เสี่ยเปี๋ยง ยังรู้จักใช้ความสนิทสนมกับผู้มีอำนาจทางการเมืองไปหากินจากโครงการของรัฐ เรียกรับเงินได้แล้ว ก็ฟอกเงินเก่ง เอาเงินมาให้เจ้านาย โดยใครก็ตามรอยไม่ได้

หลังรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกรัฐประหารไปเมื่อ19 ก.ย.49 ชื่อเสี่ยเปี๋ยง และบริษัทเพรสซิเดนท์ฯ ก็ปรากฏอยู่ในสำนวนการสอบสวนคดี"บ้านเอื้ออาทร" ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งต่อมา คสต.ส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนต่อ ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเรียกรับเงินผู้ประกอบการเอกชนในโครงการบ้านเอื้ออาทร

โดยรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีบ้านเอื้ออาทรนี้ มี 7 ราย ประกอบไปด้วย 1. นายวัฒนา เมืองสุข 2. นายพรพรหม วงศ์วิทัศน์ 3. นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง 4.นายอภิชาติ จันสกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง กรรมการผู้จัดการบริษัทเพรสซิเดนท์ ฯ 5. น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง 6. น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว และ 7. บริษัท เพรซิเดนท์ฯ

หมดยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชื่อเสี่ยเปี๋ยง ก็หายไปพักใหญ่ จนกระทั่งมาถึงยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็โผล่มาอีก โดยนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.นครสวรรค์ ประชาธิปปัตย์ ได้เปิดโปงพฤติกรรมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯยิ่งลักษณ์ ในสภาช่วงเดือน พ.ย. 55 ว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการระบายข้าวแบบ"จีทูจี" ในโครงการรับจำนำข้าว โดยรับข้าวจำนำ จากกระทรวงพาณิชย์ไปขาย ทั้งแบบเปิดประมูล และไม่เปิดประมูล

แต่ครั้งนี้ทำผ่านบริษัท สยามอินดิก้า แทน หลังจากบริษัทเพรสซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ล้มละลายไปเมื่อปี 53 และมีตัวละครใหม่ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้ง"ไอ้ปาล์ม" และ"เสี่ยโจว" รวมทั้ง"หมอโด่ง" ที่เป็นเลขารัฐมนตรีพาณิชย์ ในลักษณะที่เป็นลูกมือ

นพ.วรงค์ ได้แฉเทคนิกการซิกแซกหาผลประโยชน์ว่า การที่รัฐบาลอ้างว่า ขายข้าวแบบจีทูจี ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการประมูล เพื่อให้ได้ในราคาพิเศษ แต่ไม่มีการระบายข้าวจริง มีการตั้งบริษัทผีมารับข้าว เพื่อนำข้าวไปเร่ขายให้กับโรงสี ซึ่งจะได้ส่วนต่างสูงถึงตันละ 3,000-5,000 บาท

 นี่จึงเป็นที่มาของเหตุผลที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขที่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ทั้งจำนวนที่รับจำนำ ขายไปแล้วเท่าไร ขายให้ใคร เหลือในสต๊อกเท่าไร ปิดเป็นความลับมาตลอด

อย่างไรก็ตาม คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกี่ยวกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของป.ป.ช.ในขณะนี้ และกำลังงวดเข้ามาทุกขณะ มีอยู่ 4 คดี คือ 1. คดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี 2. คดีการปรับปรุงคุณภาพข้าวสารส่งมอบองค์การสำรองอาหารแห่งประเทศอินโดนีเซีย (บูล็อก) จำนวน 300,000 ตัน ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) 3. คดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และ 4. คดีตรวจสอบทรัพย์สิน 5 รัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว

ในจำนวนนี้ มี 1 คดี ที่ปรากฏชื่อ เสี่ยเปี๋ยง หรือนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง คือ คดีการระบายข้าวแบบ จีทูจี โดยการเป็นกรรมการบริษัท สยามอินดิก้า ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด

นอกจากนี้ เสี่ยเปี๋ยง ยังปรากฏรายชื่อเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกเข้าไปรายงานตัว หลังการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกด้วย
 
คำพิพากษาของศาลแขวงสมุทรปราการในครั้งนี้ กับพฤติกรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ที่มีเสี่ยเปี๋ยงเข้าไปพัวพัน อาจเป็นหลักฐานสำคัญที่มัด ยิ่งลักษณ์ จนดิ้นไม่หลุดก็เป็นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น