xs
xsm
sm
md
lg

บุกค้นโกดังข้าวลำปาง พบมีเอี่ยวคดีโกงจีทูจี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - มทบ. 32 บุกค้นโกดังข้าว "พีระวัฒน์ เมืองตั้ง" ลูกชายปลัดอำเภอห้างฉัตร จ.ลำปาง เจอแรงงานต่างด้าวเพียบ ตรวจสอบเส้นทางพบพัวพัน "สยามอินดิก้า" ด้านคดีข้าวหายที่ชัยภูมิ ศาลสั่งจำคุกชาวนาคนละ 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญา เจ้าของโรงสีเจอ 20 ปี ขณะที่อดีต ส.ว.กลุ่ม 40 แนะคตส.2 ยกเป็นปัญหาที่ ปชช.อยากให้แก้มากสุด เริ่มที่อายัดทรัพย์ รมต.เอี่ยวโกงข้าว ไม่ต้องรอ ป.ป.ช.เหตุช้า ชี้ตั้ง สนช.ต้องถอดถอนผู้ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลทำผิดแก้ รธน.ที่มา ส.ว.

กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.)มณฑลทหารบก(มทบ.)ที่ 32 ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการ หน่วยทหารขนาดเล็ก(นทล.) 2 ชุด พร้อมตำรวจสภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ฝ่ายปกครองอ.ห้างฉัตร เข้าตรวจโกดังเก็บข้าวสารบริษัท พีเอเอส (2556) จำกัด เลขที่ 999 หมู่ 1 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร ของนายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง อายุ 25 ปี หลังสายข่าวได้รับรายงานว่าลักลอบนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานโดยผิดกฎหมาย แต่ไม่มีหน่วยไหนเข้าตรวจจับ เนื่องจากเป็นโกดังของลูกของข้าราชการระดับสูง

เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้นโกดังข้าว A4 ซึ่งอยู่ติดกับบ้านพักของงาน พบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก บางส่วนเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหนี ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้ 22 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 6 คน โดยเป็นเด็กหญิง 1 คน ทารกหญิง 1 คน มีเอกสารทำงานในจ.พิจิตร 9 คน ไม่มีใบอนุญาต 5 คน อ้างว่าอยู่ระหว่างขอต่อใบอนุญาต 6 คน รวมเด็กหญิง 2 คน จึงนำตัวทั้งหมดไปสอบสวนต่อไป

สำหรับโกดังแห่งนี้เป็นของนายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง บุตรชาย ของนายวรวุฒิ เมืองตั้ง ปลัดอำเภอห้างฉัตร ซึ่งขณะนี้นายวรวุฒิได้สั่งถูกพักราชการ จากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดเมื่อเดือนธันวาคม 2556 จากคดีทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ โดยนายพีระวัฒน์ยังมีชื่อเป็นหุ้นส่วนในบริษัทแห่งหนึ่งกว่า 600 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ www.isranews.org พบว่า ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2556 นายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ทำธุรกิจนำเข้าเครื่องมือและสว่านไฟฟ้า จำนวน 9,998 หุ้น มูลค่า 999,800 บาท นางวิไลลักษณ์ สุระมนต์ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท น.ส.สุธิดา จันทะเอ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท โดยนายพีระวัฒน์นอกจากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว ยังเป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัทเพียงคนเดียว

และบริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด มูลค่าหุ้น 655,359,000 บาท ซึ่งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เป็นตัวละครสำคัญในคดีการทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของป.ป.ช.

นอกจากนี้ น.ส.สุธิดา จันทะเอ ผู้ถือหุ้นบริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ยังเป็นคนใกล้ชิดน.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร คนในครอบครัวนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด และผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด โดยน.ส.ธันยพร ปรากฏรายชื่อถูกป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาคดีทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจีด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในอ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ หลังจังหวัดระดมกำลังเข้าตรวจโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2556 พร้อมแจ้งความดำเนินคดีโรงสีข้าวที่มีพฤติกรรมสวมสิทธิ์เวียนเทียนใบประทวน โดยร่วมกับชาวนายักยอกข้าวในโกดังสูญหายไปกว่า 750 ตัน มูลค่ากว่า 11 ล้านบาทว่า

พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ กล่าวว่า มีโรงสีข้าวถูกแจ้งดำเนินคดี คือ โรงสีนพภร อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ข้าวสูญหาย 750 ตัน แยกเป็นข้าวเปลือก 621 ตัน ข้าวสาร 129 ตัน มูลค่ากว่า 11 ล้านบาท สรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาลจังหวัดชัยภูมิ 4 ข้อหา

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดชัยภูมิมีคำพิพากษาลงโทษทั้งเจ้าของโรงสีและพวกที่เป็นชาวนาอีก 9 ราย เนื่องจากปลอมแปลงเอกสารทางราชการ สวมใบประทวน ข้าวลม และนำข้าวในโกดังของรัฐออกมาเวียนเทียนสวมสิทธิ ทำข้าวของรัฐสูญหาย โดยมีคำพิพากษาลงโทปรับชาวนาทั้ง 9 ราย และให้จำคุก 6 เดือน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

ส่วนเจ้าของโรงสีข้าว ศาลสั่งลงโทษข้อหายักยอกทรัพย์ข้าวที่หายไป จำคุก 20 ปีโดยไม่รอลงอาญา ซึ่งจำเลยยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อไป

พล.ต.ต.พินิต กล่าวว่า นอกจากโครงการรับจำนำข้าว ยังตรวจพบการทุจริตอีก 1 คดี ในโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ระหว่างเดือนมีนาคมถึงธันวาคม 2556 ซึ่งเริ่มมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับโกดังในจ.ชัยภูมิ ที่ทำมันสูญหายไปนับหมื่นตัน มูลค่ากว่า 60 ล้านบาทแล้ว ซึ่งทางตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทหารอยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

***จี้อายัดทรัพย์รมต.ส่อโกงข้าว

นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว.สรรหา เรียกร้องการบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า อันดับแรกต้องตั้งคณะตรวจสอบเรื่องทุจริตคอร์รัปชันเช่นเดียวกับ คตส. เพื่อตรวจสอบนักการเมืองที่มีพฤติกรรมการทุจริตต่างๆ อย่างเช่น 5 รัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากเป็นปัญหาที่ประชาชนต้องการให้แก้ไขมากที่สุด ทั้งนี้เบื้องต้นต้องการให้มีการอายัดทรัพย์สินของรัฐมนตรีกลุ่มดังกล่าวก่อน และหากชี้แจงได้สำเร็จก็นำทรัพย์สินคืนไปได้ ส่วนทำไมไม่หวังพึ่งการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะเนื่องจากบ้านเมืองอยู่ในสภาวะไม่ปกติ และการทำงานของ ป.ป.ช.ก็ช้าและมีขั้นตอนค่อนข้างมากอาจไม่ทันเหตุการณ์และทันใจประชาชน

ในส่วนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หากตั้งเข้ามาจะต้องทำงานเก่าของรัฐสภาชุดที่ผ่านมาที่ยังไม่เสร็จ อาทิ การถอนถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด รวมทั้ง ส.ส.และส.ว.ที่มีความผิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องที่มาของวุฒิสภาด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น