ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดี “แม้ว” ฟ้องหมิ่น “สนธิ ลิ้มทองกุล” พร้อมแกนนำพันธมิตรฯ เหตุพยานโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ “สุริยะใส” เชื่อสู้ถึงฎีกา ขณะพี่น้องพันธมิตรฯ ชัยภูมิร่วมโห่ร้องแสดงความยินดี พร้อมมอบกุหลาบเป็นกำลังใจ พร้อมร่วมบริจาคกว่า 1 แสนบาทให้เอเอสทีวี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (6 พ.ค.) ศาลจังหวัดชัยภูมินัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อ.1621/51 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพวกรวม 8 คน ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้บริหารบริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด และผู้บริหารบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ในข้อหาหมิ่นประมาท เมื่อครั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุมใหญ่ 193 วัน ขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อปี 2551 ณ บัลลังก์ 6 ชั้น 2 ศาลจังหวัดชัยภูมิ
โดยจำเลยทั้ง 8 คนได้ทยอยเดินทางมาถึงศาลจังหวัดชัยภูมิตามกำหนดเวลา ขณะเดียวกันมี พธม.ชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียงมารอต้อนรับให้กำลังใจนายสนธิและแกนนำพันธมิตรฯ ด้านหน้าศาลจังหวัดชัยภูมิจำนวนมาก โดยเตรียมกุหลาบสีแดง และเงินบริจาคเพื่อร่วมสมทบบริจาคช่วยเหลือการดำเนินงานของสื่อเอเอสทีวีอีกด้วย
ศาลอุทธรณ์ได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาราว 50 นาที และมีคำตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้องจำเลย ประชาชนที่มาให้กำลังใจอยู่ด้านหน้าศาลต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจกันอย่างกึกก้อง และรอมอบดอกกุหลาบเป็นกำลังใจแก่นายสนธิ และแกนนำพันธมิตรฯ
จากนั้นนายสนธิได้เดินออกจากศาลเป็นรายแรก ได้รับเสียงปรบมือและยื่นกุหลาบมอบให้ โดยตัวแทน พธม.จาก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ได้นำเงินบริจาค 1 แสนบาทมอบแก่นายสนธิเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของเอเอสทีวี
โดยนายสนธิยืนยันว่า “เอเอสทีวีเป็นสื่อของประชาชน ไม่มีผลประโยชน์กับใครหรือนักการเมืองทั้งสิ้น ผลประโยชน์ของเอเอสทีวีคือทำเพื่อประชาชน” จากนั้นนายสนธิได้ขึ้นรถยนต์เดินทางกลับ เพราะการ์ดห่วงความปลอดภัย
ด้านนายสุริยะใสกล่าวว่า ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น โดยให้เหตุผลว่าฝ่ายโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทอย่างไร ทั้งคำให้การฝ่ายโจทก์ คือ พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีน้ำหนัก เนื่องจากมีพยานมาคนเดียวคือทนายความ ส่วนตัวกลับอยู่ต่างประเทศ ศาลอุทธรณ์จึงยืนตามศาลชั้นต้น
“เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะต่อสู้ในชั้นฎีกา โดยทางแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 8 คนพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยคดีในลักษณะเดียวกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้สั่งให้ทนายยื่นฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ 4-5 จังหวัด โดยเราได้ยื่นร้องศาลขอให้ไม่รับคำร้องได้หรือไม่ เพราะเจ้าตัวที่ยื่นฟ้องอยู่ต่างประเทศ และตกเป็นผู้ต้องหาด้วย แต่กลับจ้างทนายไล่ฟ้องประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม”