xs
xsm
sm
md
lg

ทีวีดิจิตอลทุบไพร์มไทม์ไลฟ์สไตล์สู่มัลติสกรีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - นายสุวิทย์ สาสนพิจิตร์ ผู้อำนวยการสำนักรายการและสร้างสรรค์รายการ สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส (ThaiPBS) กล่าวในงานเสวนาและนิทรรศการทางวิชาการ ภายใต้หัวข้อ "สู่ยุคโทรทัศน์ดิจิทัล" (Digital TV) ว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้ชมรายการโทรทัศน์ เปลี่ยนแปลงเร็วมาก มากกว่าคนทำทีวีจะตามทัน โดยพบว่า เฉลี่ยคนดูทีวี 20 นาทีต่อวัน และดูผ่านจอทีวีลดลง เห็นจากกลุ่มวัยรุ่นที่จะหันมาใช้งานผ่านจอขนาดเล็กที่ไม่ใช่จอทีวีถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน และยังพบอีกว่า ผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปดูผ่านจอเล็กมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี ที่ปัจจุบันคนไทยมีการใช้งานผ่านมัลติสกรีนในเวลาเดียวกัน กับการใช้งานผ่านดีไวซ์หลายๆตัว ถือเป็นพฤติกรรปกติที่ใช้ตลอดทั้งวัน

"เป็นโจทย์ใหญ่ของการเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล ที่จะต้องเลือกใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยให้คอนเท้นท์ยังคงอยู่บนแพลทฟอร์มไม่หลุดไปอยู่บนแพลทฟอร์มอื่น อย่าง ยูทูป เป็นต้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่กำลังเกิดขึ้น เราต้องวิ่งไล่ตามให้ทัน แต่ที่สำคัญที่สุดจะทำอย่างไรให้อยู่รอดให้ได้ในเวลานี้ ในแง่ของรายได้ที่จะมาจากโฆษณา จะต้องเน้นเพิ่มกลุ่มที่ไม่เคยลงโฆษณามาใช้เงินมากขึ้น ดีกว่าแย่งเม็ดเงินในอุตสากรรมโฆษณาที่มีอยู่เท่าเดิม อุตสาหกรรมโฆษณาจึงจะขยายตัวขึ้นจริง" นายสุวิทย์กล่าว

ด้านนางสาวจิตสุภา วัชรพล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหารช่อง ไทยรัฐทีวี กล่าวว่า โรดแมพของช่องไทยรัฐทีวี ต้องการเป็น คอนเน็กเต็ดทีวี ด้วยการนำพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์สื่อสารของผู้ชม นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการรับชมช่องไทยรัฐทีวีมากที่สุด ไม่ให้คนเปลี่ยนไปดูช่องอื่น และวางโมเดลการสร้างรายได้โดยการมองตัวเองเป็นคอนเท้นท์โพไวเดอร์ ปรับวิธีคิดในการผลิตคอนเท้นท์ใหม่ จากเดิมที่เน้นผลิตเพื่อช่องตัวเองเพียงอย่างเดียว ต้องมองถึงการขายคอนเท้นท์ออกไปด้วย จึงจะอยู่ได้

"พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายในการรับชมเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เนื่องจากปัจจุบันช่องรายการทางเคเบิลทีวีมีเกิดขึ้นอยู่แล้วหลายช่อง แต่ละช่องก็เน้นจับกลุ่มเป้าหมายแบบนีชมาร์เก็ตอยู่แล้ว ดังนั้นผังรายการ และคอนเท้นท์ที่นำเสนอจะทำได้ยากขึ้น บวกกับพฤติกรรมของผู้ชมที่มีสามารถรับชมได้หลายจอในเวลาเดียวกัน รายการไพร์มไทม์เปลี่ยนไป "

สำหรับไทยรัฐทีวี ออกอากาศมาได้เดือนกว่าแล้ว โดยวางสัดส่วนรายการออกเป็น ข่าวสารสาระ 50% และวาไรตี้บันเทิง 50% เนื่องจากมีความแข็งแกร่งในเรื่องของข่าว แม้ว่าจะได้ใบอนุญาติแบบช่องวาไรตี้ เอชดี ที่ต้องมีสัดส่วนรายการข่าวไม่ต่ำกว่า 25% ทั้งนี้ยอมรับว่า มีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับไทยรัฐ รายการบันเทิงต่างๆจึงยังไม่โดดเด่น เช่น ดารา นักแสดง ที่ไม่มีในสังกัด เป็นโจทย์ที่ไทยรัฐจะพัฒนาต่อไป ถึงปีหน้าไทยรัฐน่าจะมีละครมาออกอากาศได้
กำลังโหลดความคิดเห็น