xs
xsm
sm
md
lg

IRCP หวังกล่องดิจิตอลดันรายได้พุ่ง 50% แถมเตรียมเพิ่มทุนเพิ่มสภาพคล่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


IRCP ลุ้นไลน์ธุรกิจใหม่พุ่งกระฉูด หากตั๋วแลกซื้อกล่องสัญญาณดิจิตอล กสทช.ฉลุย ดันรายได้ทั้งปีโต 50% จากเป้าหมายเดิม 30% ตั้งเป้าปีแรกขาย 1 ล้านกล่อง พร้อมเดินหน้ายื่นประกวดงานกรมประชามสัมพันธ์ และ MCOT แถมเตรียมเพิ่มทุนเพิ่มสภาพคล่อง อัปเกรตย้ายจาก mai ขึ้นสู่ Set ยอมรับปัญหาการเมืองฉุดธุรกิจหลายโครงการรัฐมีปัญหา

นายกังวาล กุศลธรรมรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นเนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น หรือ IRCP กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯ ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ทำได้ 1,100 ล้านบาท โดยในปี 2557 คาดว่าจะมีรายได้แตะที่ระดับ 1,300-1,400 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/2557 บริษัทรับรู้รายได้จากงานในมือที่ได้เซ็นสัญญาไว้กว่า 700 ล้านบาทแล้ว นอกจากนี้ ยังมีงานที่รอรับรู้รายได้ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้ได้ในในไตรมาส 3-4 เพิ่มขึ้นจากโครงการกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล หรือ Set-Top Box  แต่ทั้งนี้ ยังรอความชัดเจนจากทาง กสทช.ที่จะกำหนดหลักเกณฑ์การใช้คูปองส่วนลดเพื่อแลกซื้อ Set-Top Box ซึ่งถ้าได้ข้อสรุปในส่วนนี้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้พิเศษที่เพิ่มเข้ามาจากเป้าหมาย 30% เดิมที่ตั้งไว้ ซึ่งอาจทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตมากขึ้นถึง 50%  จากการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียมนี้

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินภาพรวมจำนวนโทรทัศน์ในประเทศไทยมีประมาณ 22 ล้านครัวเรือน ซึ่งกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล หรือ Set-Top Box จะมีอย่างน้อยครัวเรือนละ 1 กล่อง เพราะฉะนั้น ตลาดโดยรวมคาดว่าน่าจะมีอย่างน้อย 50 ล้านกล่อง ในการเปิดให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศภายในระยะเวลา 3 ปี โดยในปีแรกบริษัทตั้งเป้าที่จะมีส่วนแบ่งการตลาดกล่อง Set-Top Box อย่างน้อย 1 ล้านกล่อง แต่ทั้งนี้ ยังขึ้นอยู่กับนโยบายของทางรัฐบาลซึ่งถ้าออกมาช้ากว่าที่คาดไว้ อาจจะทำให้การรับรู้รายได้จากยอดขาย โอนรับรู้ในปีหน้า  

ในส่วนของสัญญาการรับจัดจำหน่ายอุปกรณ์โครงข่ายสัญญาณให้แก่ทางสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS มี 2 สัญญา โดยในสัญญาแรก 120 ล้านบาท สัญญาที่ 2 จำนวน 99 ล้านบาท ในการจำหน่ายอุปกรณ์เชื่อมโยงเครื่องส่งสัญญาณร่วมกัน นอกจากนี้ บริษัทเตรียมที่จะยื่นซองประกวดราคา หรือ TOR ต่อทางสถานีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ และ บมจ.อสมท หรือ MCOT ด้วย

ขณะเดียวกัน ทางคณะกรรมการบริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มทุนเพื่อที่จะให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นมากที่สุด ทั้งการเพิ่มสภาพคล่องภายในบริษัท และการเพิ่มทุนในบริษัทลูก โดยอยู่ในช่วงของการเตรียมการ เนื่องจากยังมีอุปสรรคของปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และความไม่ชัดเจนในโครงการทีวีดิจิตอล ของทาง กสทช. จึงอาจต้องรอจังหวะที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ หากบริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนสำเร็จก็จะทำการย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET พร้อมทั้งเตรียมที่จะนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เนื่องจากมีแนวโน้มทำกำไรที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี

ขณะเดียวกัน ในส่วนของการเจรจาเตรียมเข้าซื้อกิจการ (Mergers and Acquisitions : M&A) ซึ่งอยู่ในช่วงของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินประเมินมูลค่า โดยคาดว่าจะใช้เงินในการเข้าซื้อบริษัทใหม่ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และถ้าหากเพิ่มทุนในบริษัทลูกด้วยคาดว่าจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปที่ชัดเจนได้ภายในปลายไตรมาส 2  

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการเจรจาร่วมกับพันธมิตรบ้างแล้ว โดยมองการลงทุนใน 2 ประเทศคือ กัมพูชา และพม่า ซึ่งอยู่ในช่วงของการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเข้าไปลงทุน

ขณะที่ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากบริษัทฯ มีโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องพึ่งพิงประมูลงานภาครัฐเกินกว่า 50% ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้วางแผนที่จะหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นหากการเมืองยังคงยืดเยื้อไปจนถึงครึ่งปีหลัง หรือปี 2558  และถ้าหากรัฐบาลขาดอำนาจในการตัดสินในอนุมัติโครงการที่รอดำเนินงานอยู่ทำให้ล่าช้าออกไป เพราะจะกระทบต่อรายได้ที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น