ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเข้ายึดอำนาจกวาดล้างสลายสีเสื้อพร้อมทั้งจับกุมอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมาก ตอนนี้เรียกได้ว่ากำลังเข้าสู่บรรยากาศของการผสานมือ ร้องเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” เลยกลายเป็นว่า เวลานี้หลายคนจึงอยากทราบว่าตระกูลชินวัตรหายหน้าหายตากันไปไหน จะคืนความสุขให้กับประเทศเหมือนดังที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาให้กับคนทั้งประเทศหรือเปล่า
ก็ต้องบอกเลยว่า ขณะนี้ตระกูลชินวัตรอาจจะยังไม่ได้ฟังเพลงของพล.อ.ประยุทธ์อย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากกำลังพักศึกรบนั่งดูฉาก “อินเลิฟ” ของอดีตแกนนำระหว่าง นปช.กับ กปปส.ที่กำลังล้อมวงจิบกาแฟพูดคุยกันเสมือนไม่มีเรื่องราวหนหลังที่เคยบาดหมางต่อกัน ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมก็ไม่มีอะไรมาก... แค่พาความสวยไปเดินชอปปิ้งที่ห้างหรูอย่างสบายใจเฉิบ
ในตระกูลชินวัตรตอนนี้ นช.ทักษิณจึงทำได้เพียงแค่เก็บตัวเงียบเพื่อรออุ้มหลานของเอม-พิณทองทา เลยปล่อยให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ น้องสาวสุดที่รัก โผล่มาให้เห็นที่ห้างหรูเพื่อเตือนความจำคนไทยจะได้ไม่ลืมตระกูลชินวัตร ให้ได้ถ่ายภาพคู่กันเป็นที่ระลึก เพราะภายหลังจากที่มีการรัฐประหารน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้ถูกเรียกไปรายงานตัว จากนั้นก็มีข่าวปรากฏออกมาว่าเธอไปเดินที่ห้างสรรพสินค้า เดอะ วอล์ก ราชพฤกษ์ เขตตลิ่งชัน
กระทั่งล่าสุดนี้เอง ก็ปรากฏออกมาเรียกกระแสความสนใจอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 โดยมีการเผยแพร่ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคนสนิท กำลังเดินชอปปิ้งที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถนนเพลินจิต ซึ่งนอกจากจะไม่มีประชาชนแสดงการต่อต้านแล้วยังมีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปอีกต่างหาก ที่สำคัญภาพดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและเดินคล่องแคล่วไม่ได้แสดงอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าแต่อย่างใดอีก
เรียกได้ว่า หลังจากถูกรัฐประหารแล้ว ดูเหมือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ตกอยู่ในภาวะสบายใจ ไม่ทุกข์ร้อนใดๆทั้งสิ้น
ทว่า แต่ที่เห็นจะสุขใจไม่น้อยไปกว่ากันเลยก็คือ อดีตแกนนำระดับฮาร์ดคอร์ที่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกันทั้งสองฝ่าย ที่เวลานี้กลับมานั่งร่วมโต๊ะจิบกาแฟด้วยกัน ลืมเรื่องราวหนหลัง จับมือให้อภัยซึ่งกันและกัน อันปรากฏเป็นภาพตามหน้าหนังสือพิมพ์และในโลกออนไลน์แทบไม่เว้นแต่ละวัน กระทั่งเกิดคำถามตามมาว่า แกนนำทั้งสองฝ่ายจะลืมความบาดหมางได้แล้ว จริงหรือเท็จ หรือจะเป็นการสร้างภาพตามคำสั่งของนายใหญ่เพื่อรอให้ถึงวันเลือกตั้งและกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับกิจกรรม “กินกาแฟสามัคคียามเช้า” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน2557 ที่ร้านโจ๊กไข่กระทะยิ่งเจริญ ห้าแยกวุ่นวาย เทศบาลนครอุดรธานี โดยมี พล.ต.สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 24 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ จ.อุดรธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รอง ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ทศพล คำสุพรหม รอง ผอ.รมน.อุดรธานี พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมตัวแทนส่วนราชการ ร่วมทำกิจกรรม “กินกาแฟสามัคคียามเช้า” ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการ “สร้างความสุขเดินหน้าประเทศ” หรือ “อุดรโมเดล” ในการตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เดินหน้าประเทศ ของ จ.อุดรธานี ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. สั่งให้ดำเนินการทั่วประเทศ
สำหรับกิจกรรม “กินกาแฟสร้างสามัคคียามเช้า” ทางฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ได้เชิญบุคคลสำคัญในพื้นที่ซี่งก็คือแกนนำแต่ละสีเสื้อ มาร่วมรับประทานอาหารเช้า ซึ่งนายรังษี ศุภชัยสาคร และนายดนุช ตันเทิดทิตย์ อดีตแกนนำ กปปส.อุดรธานี ได้เดินทางมาก่อน จากนั้นนายขวัญชัย สาราคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรและอดีตแกนนำนปช.ได้เดินทางมาพร้อมนางอาภรณ์ สาราคำ อดีต ส.ว.อุดรธานี ภรรยานายขวัญชัยฯ ซึ่งทั้งหมดได้นั่งโต๊ะร่วมรับประทานอาหารเช้าในโต๊ะเดียวกัน และหลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ทุกคนก็ได้ร่วมต่อแขนจับมือเพื่อบันทึกภาพประวัติศาสตร์เอาไว้
จึงนับว่า เป็นชอตเด็ดเต็มไปด้วยฟิลลิ่งปรองดองล้วนๆที่ได้ถูกบันทึกภาพออกมาได้อย่างสวยงาม
“วันนี้ได้เชิญให้บุคคลสำคัญในพื้นที่เข้ามาร่วมกิจกรรมกินกาแฟสร้างสามัคคียามเช้าด้วยบรรยากาศที่เรียบง่าย ไม่ต้องมีพิธีรีตรอง ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี ซึ่งบุคคลที่เดินทางมาจะไม่มีการพูดคุยรื้อฟื้นเรื่องในอดีตมาพูด แต่จะให้ทุกคนเริ่มต้นพูดจาด้วยกันเริ่มนับหนึ่งใหม่ และอาจจะจัดกิจกรรมลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของบุคคลต่าง ๆ” รอง ผวจ.อุดรธานี กล่าว
ด้าน พล.ต.สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 24 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ จ.อุดรธานี ได้กล่าวถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง และพูดถึงจุดมุ่งหมายในการนัดทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมืองให้ลืมเรื่องในอดีต และหันมาพูดคุยปรับความเข้าใจกัน เพื่อสร้างความปรองดองและเดินหน้าประเทศไทย พร้อมกับดื่มกาแฟ และรับประทานอาหารเช้า ซึ่งมีข้าวต้มเลือดหมู โจ๊ก ไข่กระทะ ขนมปัง ซึ่งเป็นอาหารเช้าของชาวเมืองอุดรธานีไปด้วย โดยนายขวัญชัย นายดนุท และนายรังษี ได้หันหน้ามาคุยกัน พร้อมกับจับมือกัน
“พร้อมและยินดีให้ความร่วมมือกับ คสช.ทุกอย่าง ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด ส่วนนายดนุท ก็กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับ คสช.ทุกอย่าง และสิ่งที่ คสช.จะทำให้พี่น้องชาวอุดรธานี และชาวไทยมีความสุข คือการดูแลชาวนา ดูแลชาวสวนยางพารา ดูแลราคาน้ำมัน แก๊สหุงต้มให้พี่น้องคนไทยได้ยิ้มออก”
อย่างไรก็ตาม ขณะที่บรรยากาศจิบกาแฟปรองดองกำลังดำเนินอยู่ แกนนำเสื้อแดงระดับห้าวเป้งหลายคนก็ได้รับคำสั่งให้ไปรายงานตัวเป็นระยะๆ ทั้งนายชินวัฒน์ หาบุญพาด ลุงยิ้ม ตาสว่าง หรือแม้แต่ “กี้ร์ อริสมันต์” จอมตะกายตึก แกนนำเสื้อแดงระดับหัวรุนแรงที่ถูกคสช.ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ก็เข้ารายงานตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา
งานนี้ตระกูลชินวัตรก็คงได้แต่เก็บตัวเงียบ นั่งดูฉากอินเลิฟของแกนนำเสื้อแดงที่ส่งเสียเลี้ยงดูไปนั่งจิบกาแฟสบายสุนทรีย์กับแกนนำกปปส.เพื่อความสมานฉันท์ และรอคอยที่จะกลับคืนสู่อำนาจอีกครั้งหลัง คสช.มีบทสรุปในเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน
จะมีก็เพียงพวกที่อยู่เหนือการควบคุมเท่านั้นที่ตีโพยตีพายอยู่ อย่างกรณีของ เจ๊เพ๊ญ จักรภพ เพ็ญแข หรือกลุ่มต้านรัฐประหาร ขณะที่บรรดาขาใหญ่อย่างจตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งเป็นคนในบ้าน หลังถูกปล่อยตัวออกมาก็เงียบกริบไม่มีปากมีเสียงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น