ASTVผู้จัดการรายวัน - ธ.ก.ส.รายงายยอดจ่ายเงินจำนำข้าว 16 วันหลัง คสช.เร่งรัดเป็นเงินทั้งสิ้น 6.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดรวมทั้งโครงการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรไปแล้วทั้งสิ้น 1.25 ล้านราย คิดเป็นวงเงินกว่า 1.67 แสนล้านบาท เหลือเกษตรกรที่รอรับเงินอีก 4.15 แสนราย วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 56/57 นับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้จ่ายเงินตามใบประทวนให้กับเกษตรกรตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม ถึงวันที่ 10 มิถุนายน มียอดรวมทั้งสิ้น 63,053 ล้านบาท คิดเป็นเกษตรกรจำนวนทั้งสิ้น 618,509 ราย โดยยอดจำนำข้าวเปลือกปี56/57 มีเกษตรกร เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 1,671,720 ราย จำนวนข้าวเปลือก 11.64 ล้านตัน จำนวนเงิน 192,950 ล้านบาท
ขณะที่ตัวเลขยอดใบประทวน และเงินจำนำข้าว ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2557 ธ.ก.ส.ทยอยจ่ายไปแล้วจำนวน 1,255,937 ราย ปริมาณข้าว 10.20 ล้านตัน จำนวนเงิน 167,609 ล้านบาท จากยอดจัดสรรทั้งหมด 180,090 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินงบประมาณและเงินระบายข้าว 149,590 ล้านบาท เงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา 10,500 ล้านบาท งบกลางที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยืม 20,000 ล้านบาท คงเหลือยอดค้างเกษตรกร 415,783 ราย ปริมาณข้าว 1.44 ล้านตัน คิดเป็นเงินเงิน 25,340.69 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้เริ่มจ่ายเงินจำนำข้าวที่เป็นเงินกู้จากธนาคารออมสินเป็นวันแรก นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธนาคารออมสินได้โอนเงินก้อนแรกจำนวน 3 หมื่นล้านบาทให้กับธ.ก.ส.เพื่อทยอยโอนเงินให้กับสาขาต่าง ๆ ที่ยังมียอดค้างจำนวนมาก ได้แก่ จังหวัดในภาคเหนือ ภาคอีสาน อาทิ เชียงราย พิษณุโลก พิจิตร อุบลราชธานี สุรินทร์ เป็นต้น โดยศักยภาพในการจ่ายเงินของธนาคารนั้นสามารถทำได้วันละ 4,500 -5,000 ล้านบาท แต่จะมีการเตรียมเอกสารให้เกษตรกรในช่วงเสาร์อาทิตย์ เพื่อให้การดำเนินการจ่ายเงินในวันจันทร์ถึงศุกร์ทำได้รวดเร็วขึ้นจึงคาดว่าเงินดังกล่าวจะจ่ายแล้วเสร็จในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะสอดรับกับการส่งเงินงวดสอง อีก 2หมื่นล้านบาท
สำหรับเปิดให้สถาบันการเงินยื่นซองประมูลการกู้เงินของกระทรวงการคลัง วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ในโรงการรับจำนำข้าวนั้นนับสถาบันการเงินสนใจยื่นซองประมูลเป็นจำนวนมากถึง 12 รายจากทั้งหมด 32 ราย เป็นวงเงินทั้งหมดที่เสนอมา 1.45 แสนล้านบาท ผลการเปิดซองของคณะกรรมการ ธนาคารออมสิน เป็นผู้ชนะการประมูลในการให้กู้เงินเต็มวงเงินรายเดียวทั้งหมด 5 หมื่นล้านบาท เสนออัตราดอกเบี้ย 2.1792% นับว่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้เสนออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยพันธบัตรของรัฐบาลที่ 2.45%
โดยธนาคารออมสินจะนำส่งเงินงวดแรก ส่งให้กับธ.ก.ส.ในวันที่ 6 มิ.ย.วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท จากนั้นจะนำส่งงวดที่ 2 ในวันที่ 12 มิ.ย. วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายให้กับชาวนา โดยออมสิน ยอมรับว่าเสนอให้อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด เพราะต้องการช่วยเหลือชาวนา หลังจากให้กู้ในครั้งก่อนแล้วมีปัญหา ดังนั้น สบน. จึงเตรียมทำหนังสือเชิญสถาบันการมายื่นประมูลปล่อยกู้อีก วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้คืน ธ.ก.ส. ซึ่งได้ทดลองจ่ายไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา จึงคาดว่าสถาบันการเงินสนใจเข้าปล่อยกู้ให้กับกระทรวงการคลังอีก เพราะการขอกู้ในลักษณะดังกล่าว สามารถขอชำระเงินคืนได้ก่อนกำหนด เมื่อได้เงินจากการระบายข้าวเข้ามาเพิ่มเติม.
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 56/57 นับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้จ่ายเงินตามใบประทวนให้กับเกษตรกรตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม ถึงวันที่ 10 มิถุนายน มียอดรวมทั้งสิ้น 63,053 ล้านบาท คิดเป็นเกษตรกรจำนวนทั้งสิ้น 618,509 ราย โดยยอดจำนำข้าวเปลือกปี56/57 มีเกษตรกร เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 1,671,720 ราย จำนวนข้าวเปลือก 11.64 ล้านตัน จำนวนเงิน 192,950 ล้านบาท
ขณะที่ตัวเลขยอดใบประทวน และเงินจำนำข้าว ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2557 ธ.ก.ส.ทยอยจ่ายไปแล้วจำนวน 1,255,937 ราย ปริมาณข้าว 10.20 ล้านตัน จำนวนเงิน 167,609 ล้านบาท จากยอดจัดสรรทั้งหมด 180,090 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินงบประมาณและเงินระบายข้าว 149,590 ล้านบาท เงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา 10,500 ล้านบาท งบกลางที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยืม 20,000 ล้านบาท คงเหลือยอดค้างเกษตรกร 415,783 ราย ปริมาณข้าว 1.44 ล้านตัน คิดเป็นเงินเงิน 25,340.69 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้เริ่มจ่ายเงินจำนำข้าวที่เป็นเงินกู้จากธนาคารออมสินเป็นวันแรก นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธนาคารออมสินได้โอนเงินก้อนแรกจำนวน 3 หมื่นล้านบาทให้กับธ.ก.ส.เพื่อทยอยโอนเงินให้กับสาขาต่าง ๆ ที่ยังมียอดค้างจำนวนมาก ได้แก่ จังหวัดในภาคเหนือ ภาคอีสาน อาทิ เชียงราย พิษณุโลก พิจิตร อุบลราชธานี สุรินทร์ เป็นต้น โดยศักยภาพในการจ่ายเงินของธนาคารนั้นสามารถทำได้วันละ 4,500 -5,000 ล้านบาท แต่จะมีการเตรียมเอกสารให้เกษตรกรในช่วงเสาร์อาทิตย์ เพื่อให้การดำเนินการจ่ายเงินในวันจันทร์ถึงศุกร์ทำได้รวดเร็วขึ้นจึงคาดว่าเงินดังกล่าวจะจ่ายแล้วเสร็จในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะสอดรับกับการส่งเงินงวดสอง อีก 2หมื่นล้านบาท
สำหรับเปิดให้สถาบันการเงินยื่นซองประมูลการกู้เงินของกระทรวงการคลัง วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ในโรงการรับจำนำข้าวนั้นนับสถาบันการเงินสนใจยื่นซองประมูลเป็นจำนวนมากถึง 12 รายจากทั้งหมด 32 ราย เป็นวงเงินทั้งหมดที่เสนอมา 1.45 แสนล้านบาท ผลการเปิดซองของคณะกรรมการ ธนาคารออมสิน เป็นผู้ชนะการประมูลในการให้กู้เงินเต็มวงเงินรายเดียวทั้งหมด 5 หมื่นล้านบาท เสนออัตราดอกเบี้ย 2.1792% นับว่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้เสนออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยพันธบัตรของรัฐบาลที่ 2.45%
โดยธนาคารออมสินจะนำส่งเงินงวดแรก ส่งให้กับธ.ก.ส.ในวันที่ 6 มิ.ย.วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท จากนั้นจะนำส่งงวดที่ 2 ในวันที่ 12 มิ.ย. วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายให้กับชาวนา โดยออมสิน ยอมรับว่าเสนอให้อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด เพราะต้องการช่วยเหลือชาวนา หลังจากให้กู้ในครั้งก่อนแล้วมีปัญหา ดังนั้น สบน. จึงเตรียมทำหนังสือเชิญสถาบันการมายื่นประมูลปล่อยกู้อีก วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้คืน ธ.ก.ส. ซึ่งได้ทดลองจ่ายไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา จึงคาดว่าสถาบันการเงินสนใจเข้าปล่อยกู้ให้กับกระทรวงการคลังอีก เพราะการขอกู้ในลักษณะดังกล่าว สามารถขอชำระเงินคืนได้ก่อนกำหนด เมื่อได้เงินจากการระบายข้าวเข้ามาเพิ่มเติม.
