นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของคดีอาญา การทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. สนามบิน จ.นนทบุรี ในฐานะพยานบุคคลปากสุดท้ายจากทั้งหมด 4 ปาก ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือเชิญเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม
นายสุพัฒน์ กล่าวว่า ธ.ก.ส.จะชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงตามกรอบที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้นัดหมายให้ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม คือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลัง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งวันนี้ ธ.ก.ส.ได้เตรียมเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ธ.ก.ส.เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เช่น การจ่ายเงินคงค้างค่าจำนำข้าวเปลือกและข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งความก้าวหน้าของการดำเนินงาน
พร้อมย้ำว่า ธ.ก.ส.พร้อมให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการ ป.ป.ส.ในการชี้แจงและให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวในทุกประเด็น
นายสุพัฒน์ กล่าวว่า ธ.ก.ส.จะชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงตามกรอบที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้นัดหมายให้ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม คือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลัง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งวันนี้ ธ.ก.ส.ได้เตรียมเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ธ.ก.ส.เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เช่น การจ่ายเงินคงค้างค่าจำนำข้าวเปลือกและข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งความก้าวหน้าของการดำเนินงาน
พร้อมย้ำว่า ธ.ก.ส.พร้อมให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการ ป.ป.ส.ในการชี้แจงและให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวในทุกประเด็น