xs
xsm
sm
md
lg

ถกทีวีดาวเทียมวันนี้กสทช.โยนหน้าที่คสช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - นัดถกทีวีดาวเทียม 14 ช่อง ที่ยังจอดำ หารือทำความเข้าใจวันนี้ ยันยังมีรายการ "ประยุทธ์" พบประชาชนทุกคืนวันศุกร์ ด้าน "สุภิญญา"กก.กสทช.ปัดมีอำนาจพิจารณาการกลับมาออกอากาศของ ASTV หนึ่งใน 14 ช่องดาวเทียมที่ถูกระงับ คสช.เผยยังไม่มีกำหนดอนุญาตให้ช่องทีวีการเมืองทั้ง 14 ช่องออกอากาศ ระบุขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมือง พร้อมเปรยหาก VOICE TV ปรับเนื้อหาไม่มีการเมืองอาจไฟเขียวออกอากาศ

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ยังมีการระงับการออกอากาศของวิทยุชุมชนต่างๆ ว่า เป็นเงื่อนไขของทาง กสทช. ซึ่งการจัดตั้งวิทยุชุมชน จะต้องมีการขออนุญาต ส่วนทีวีทางดาวเทียมอนุญาตให้เปิดไปกว่า 400 ช่อง สำหรับสถานีโทรทัศน์ 14 ช่อง ที่ยังถูกระงับอยู่นั้น เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการยุยงให้เกิดความแตกแยกทางการเมือง อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งจะเรียกผู้บริหารทั้ง 14 ช่อง หารือในวันนี้ (4 มิ.ย.) รวมถึงในส่วนของเคเบิ้ลอื่นๆ ด้วย เพื่อทำความเข้าใจด้วยกันทั้งหมด เบื้องต้นอาจต้องมีการปรับผังรายการ โดยผู้แทน กสทช. และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้าร่วมด้วย

เมื่อถามว่า หลายๆ ประเทศเลี่ยงที่จะมาประเทศไทย จะมีการประชาสัมพันธ์อย่างไร พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ข้อมูลและตัวเลขต้องมีการพิสูจน์ เพราะอาจเป็นเพียงกระแสข่าวผ่านสื่อเฉยๆ แต่จากข้อมูลทางสถิติ หน่วยงานที่รับผิดชอบ ถือว่ายังไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพียงแต่สื่ออาจจะเป็นกังวล เพราะได้รับข้อมูลในลักษณะแบบนี้เข้ามา ซึ่งมีเฉพาะบางประเทศที่เราได้รับข้อมูลแล้ว ในส่วนขององค์กรอื่นๆ ที่อยู่ในต่างประเทศ ก็มีท่าทีเข้าใจว่า ทำไม คสช.เลือกที่จะปฏิบัติแบบนี้ แม้จะไม่ได้พูดถึงวิธีการว่าถูกผิดอย่างไร

***กสทช.ไม่มีอำนาจพิจารณา ASTV

จากกรณีที่พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าของ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2557 เรื่อง ขอให้ระงับการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เคเบิล โทรทัศน์ระบบดิติตอล จำนวน 14 สถานี และสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายที่กำหนด ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557 ว่า การอนุญาตให้สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่ทาง คสช.ประกาศขอให้ระงับการออกอากาศ กลับมาออกอากาศได้อีกครั้งเป็นอำนาจพิจารณาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยผู้ประกอบการต้องไปชี้แจงทำความเข้าใจกับ กสทช. เกี่ยวกับรูปแบบและลักษณะของการประกอบการ

ค่ำวานนี้ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์นาม @Aor_dinary เข้าไปโพสต์ถาม น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ต่อกรณีดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ @supinya โดย น.ส.สุภิญญากลับตอบว่า “14 ช่องที่ถูกประกาศ คสช. ห้ามนั้น กสทช. ยังขยับอะไรไม่ได้เลยค่ะ ตอบแทนไม่ได้เช่นกัน พยายามถามแล้ว ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้เลยค่ะ”

จากนั้นเมื่อมีผู้ใช้นามว่า @Kawao_wowwow ถามต่อว่า “มีข่าวว่า คสช บอกว่า เอเอสทีวี อยู่ในการพิจารณาของ กสทช แล้วนี่คะ” ทาง น.ส.สุภิญญา ก็ตอบว่า “14 ช่องที่ยังมีประกาศระงับ ยังไม่อยู่ในอำนาจ กสทช.ค่ะ แต่ช่องดาวเทียมอื่นๆนอกเหนือจากนั้นกลับมาอยู่ในอำนาจ กสทช.กำกับแล้ว”

สำหรับคำตอบดังกล่าวของ น.ส.สุภิญญา ในฐานะเลขาฯ กสทช. ถือว่า สวนทางกับการให้ข่าวของ โฆษกของ คสช. อย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ พ.อ.วินธัยได้ออกมาให้ข่าวว่า ในวันนี้ (4 มิ.ย.) คสช. จะมีการประชุมร่วมกับ กสทช. และกระทรวงไอซีที โดยจะมีการทยอยเชิญผู้ประกอบการทีวีดาวเทียม 14 ช่องที่ คสช. มีคำสั่งระงับการออกอากาศมาประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกัน

***คสช.ระบุยังไม่มีกำหนดเปิดช่องทีวีการเมือง

พ.อ.พิรัติ บรรจงเขียน ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีทางทหาร กองทัพบก กล่าวว่า การออกประกาศระงับช่องรายการทีวี ดาวเทียมที่มีเนื้อหาบิด เบือน อันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งขยายตัว จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเมืองจำนวน 13 ช่องรายการ (1.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 ,2.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมดีเอ็นเอ็น ,3.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี ,4.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเชียอัพเดท ,5.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีแอนด์พี ,6.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมโฟร์แชนแนล ,7.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูกาย ,8.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี ,9.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมทีนิวส์ ,10.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี,11.สถานีดาวเทียมฮอตทีวี ,12.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเร็สคิ้ว ,13.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูประเทศ (คปท.) ) และช่องรายการทีวีดิจิตอล 1 ช่องรายการ (VOICE TV) นั้นล่าสุดคสช.ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในการอนุญาตให้ช่องรายการเหล่านั้นกลับมาออกอากาศได้ตามปกติ แต่เบื้องต้นคสช.ไม่สามารถระบุกรอบระยะเวลาได้ว่าจะอนุญาตให้ออกอากาศเมื่อใด

ทั้งนี้การพิจารณาช่องรายการที่คสช.สั่งระงับการออกอากาศไปให้กลับมาออกอากาศอีก ครั้งนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันว่ามีความสงบเรียบร้อย และเป็นปกติแล้ว ซึ่งหากมีแนวโน้มดีขึ้นก็อาจจะมีการพิจารณาเสร็จสิ้นเร็วๆ นี้

“ความคืบหน้าทีวีดาวเทียม13 ช่อง และ1ช่องทีวีดิจิตอลที่คสช.มีคำสั่งระงับการออกอากาศนั้นตอนนี้คงตอบไม่ได้ว่าจะอนุญาตให้ออกอากาศตามปกติได้เมื่อใด เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคสช.ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันในการพิจารณาด้วย โดยหากแนวโน้มสถานการณ์ดีขึ้นก็จะสามารถพิจารณาจบได้เร็ว”

กรณีการระงับการออกอากาศช่องทีวีดิจิตอล1 ช่องคือVOICE TV นั้นคสช.มองว่าด้วยสถาณการณ์ปัจจุบันการดำเนินการของคสช.กำลังพยายามทำให้ สงบเรียบร้อย เนื่องจากมีสื่อบางสื่อที่ยังมีปัญหาซึ่งถ้าโฟกัสเพียงรายเดียวก็จะทำให้เหมือนแบ่งฝ่าย แต่หากVOICE Tvมีการปรับเนื้อหาจนไม่มีเนื้อหาทางการเมืองใดๆเลยก็อาจจะอนุญาตให้ออกอากาศได้ตามปกติเร็วๆ นี้

“การที่ VOICE TV ยื่นการปรับแก้ไขผังรายการมานั้นเราก็กำลังพิจารณาซึ่งหากปรับผังรายการได้จริง และไม่มีเนื้อหาทางการเมือง หรือเนื้อหาที่ส่งผลต่อความไม่สงบก็มีความเป็นไปได้ที่จะอนุญาตให้ออกอากาศ ดังนั้นหากสังคมสงบ และนิ่ง ทุกสถานียอมรับเงื่อนไขของคสช.ก็พร้อมที่จะพิจารณาให้ออกกาศทุกช่องรายการ โดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการปิดการออกอากาศแล้ว”

ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดในฐานะสื่อมวลชนต้องช่วยเหลือกัน และประคับประคองเพื่อให้ประเทศเจอทางออกในขณะที่ทหารรับออกหน้าโดยไม่ต้องการยืดอำนาจไว้นาน อย่างไรก็ตามประชาธิปไตยในอนาคตต้องเกิด โดยประเทศไทยแตกต่างจากประเทศอื่นเพราะทหารออกมาเพื่อไม่ให้เกิดการประจันหน้ากัน

ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. กล่าวว่า กรณีช่องรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมจำนวน 13 ช่องรายการ และ1ช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล ที่คสช.มีคำสั่งไม่ให้ออกอากาศตามประกาศคสช.นั้นล่าสุดทั้ง14 ช่องรายการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในขณะนี้ โดยทั้งหมดมีการส่งผังรายการที่ปรับแก้ไขเนื้อหารายการมายังกสทช.แล้วเพื่อให้พิจารณา รวมถึงทุกช่องรายการที่ถูกระงับอยู่มีการส่งเรื่องขออุทธรณ์มายังกสทช. และคสช.แล้วเช่นเดียวกัน เพื่อขอให้อนุญาตออกอากาศได้ตามปกติ

ปัจจุบันช่องรายการที่สามารถออกอากาศได้ตามปกติแล้วได้แก่ช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบอนาล็อกหรือฟรีทีวี 6 ช่องรายการเดิม และช่องรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมจำนวน 333 ช่องรายการ และมีอีกจำนวน 98ช่องรายการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเนื้อหา อาทิ การโฆษณาไม่เหมาะสม การโฆษณาชวนเชื่อ หรือเนื้อหาไม่เหมาะสม รวมไปถึงช่องรายการโทรทัศน์ผ่านเคเบิลแบบบอกรับสมาชิก จำนวน 211 ช่องรายการ ส่วนไอพีทีวี จำนวน 24ช่องรายการ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ออกอากาศ

สำหรับสถานีวิทยุชุมชนทุกสถานีตอนนี้ให้ระงับการออกอากาศทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันสถานีวิทยุชุมชนที่มีใบอนุญาตจากกสทช.มีทั้งสิ้นจำนวน 4,300 สถานี ส่วนสถานีชุมชนอีกจำนวน 3,000 สถานีซึ่งไม่ได้รับใบอนุญาตจากกสทช.นั้นห้ามออกอากาศโดยเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น