xs
xsm
sm
md
lg

คมช.ล่ามโซ่ทีวีดาวเทียม ส่อใช้ “อำนาจไม่ถูกทาง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**เป็นการคำรามขู่ที่อาจกลายเป็น“ดาบสองคม”ทิ่มแทงตัว “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)” เองได้เหมือนกันในอนาคตหลังจากตีเกราะเคาะไม้ ส่งสัญญาณหากสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยยังไม่นิ่งสงบ อาจลากยาวอยู่บนคานอำนาจต่อไปเรื่อยๆ
ในทำนอง“ยิ่งต้าน ยิ่งอยู่ยาว”
แน่นอนว่า ณ วันนี้ คสช.เองอาจจะมั่นใจในกฎเหล็กที่ออกมาขึงพืด ทำให้กลุ่มต่อต้านไม่กล้าขยายตัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่น่าเป็นกังวลไม่น้อยหากประเทศไทยต้องอยู่ในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะความเข้มงวดของกฎหมายพิเศษเหล่านี้จะค่อยๆ บีบต่อมอึดอัดของประชาชนให้พองโตจนขยายใหญ่ได้เหมือนกัน เนื่องจากประชาชนเองนั้น ไม่ได้ชอบอยู่กับสิ่งที่มีคนตีกรอบให้นานๆ โดยเฉพาะคนไทย
ที่สำคัญการถูกจำกัดสิทธิ เสรีภาพ นานๆอาจกลายกลับตาลปัตรมาเป็นแรงต่อต้านในที่สุด อาจเข้าไปผสมโรงกับกลุ่มที่พยายามปลุกกระแสอยู่ในขณะนี้ด้วย หนำซ้ำข้อเสียของการลากยาวยังจะเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายต่อต้านนำไปเป็นเป้าพุ่งโจมตี
ไม่ว่าจะเป็นความโปร่งใสในการใช้งบประมาณที่ไม่สามารถมีใครตรวจสอบได้ เพราะไม่กล้าแหยมกับกระบองเหล็กที่ คสช. ถืออยู่จนที่สุดเกิดอีนุงตุงนัง คสช.อาจต้องเสีย “เพื่อนร่วมรบศพร่วมหลุม”ไปแบบมิรู้ตัว
**บีบให้ตัวเองอายุสั้น
**อย่างในกรณีการบล็อกสัญญาณทีวีดาวเทียมที่ คสช. กำลังทำอยู่ ตอนนี้เริ่มมีการมองว่า คสช.ใช้อำนาจในทางที่ผิด เพราะเล่นตีขลุมหว่านแหไปจนเกินงาม ทั้งที่สามารถลดหย่อนผ่อนปรนรูปแบบการควบคุมได้ ไม่จำเป็นต้องปิดตายให้เกิดจอดำมืดสนิท
อาทิ วิธีการที่ใช้กับฟรีทีวีในปัจจุบัน นั่นคือ เข้าไปควบคุมเนื้อหา ขอความร่วมมือไม่ให้สัมภาษณ์นักวิชาการ นักการเมืองที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดความขัดแย้งแทน ทำนองให้เปิดปกติแต่มีหมายเหตุไว้ค้ำยัน
การล่ามโซ่ล็อกประตูทีวีดาวเทียมโดยไม่ให้ขยับตัวเหมือนที่เป็นอยู่ กำลังทำร้ายให้ทีวีดาวเทียมเหล่านี้ตกอยู่ในสภาวะลำบาก ตลกร้ายปล่อยไว้เนิ่นนานปัญหายิ่งจะกลายเป็นลิงแก้แห ส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ ต้องไม่ลืมว่า ทีวีดาวเทียมจำนวนมากที่ถูกพิษรัฐประหารเล่นงาน มีบรรดาลูกจ้างที่ต้องอาศัยเงินเดือนทำมาเลี้ยงชีพหลายพันหลายหมื่นชีวิต ช่วงแรกอาจประคองกันได้ แต่นานๆไปคงจะยาก
ทีวีดาวเทียมส่วนใหญ่ได้รับการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้กำกับของ กสทช. และต้องเสียค่าธรรมเนียมอนุญาตรายปี แถมยังเป็นค่าธรรมเนียมที่อภิมหาโหด ร้อยละ 1.5 ต่อปี หากช่องใดมีรายได้เกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป เสียอัตราค่าธรรมร้อยละ 2.1 ต่อไปโดยอัตราค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะเหมารวมทั้งรายได้จากการโฆษณา และรายได้จากการสนับสนุนต่างๆ อีกด้วย
เมื่อไม่ได้ถ่ายทอด ก็ไม่มีโฆษณา เมื่อไม่มีโฆษณา ก็ไม่มีรายได้นำไปจุนเจือพนักงานในบริษัท พนักงานย่อมได้รับผลกระทบ เรียกว่า ตามๆ กันมาทั้งองคาพยพทีเดียว
**วันนี้ คสช. จึงต้องหันกลับไปคิดว่า ยุทธวิธีดังกล่าวถูกทาง ถูกจุดแล้วหรือยัง การแก้ปัญหาให้กับประเทศกำลังทำร้ายคนในประเทศเองด้วยหรือไม่ ??
ปัจจุบัน คสช.กำลังวิ่งแข่งกับปัญหา การวิ่งแข่งนานๆ ยังเป็นผลเสียกับตัวเอง ดังนั้นควรจะต้องทำอะไรให้เป็นรูปเป็นร่างโดยเร็ว ทั้งการตั้งสภาปฏิรูป สภานิติบัญญัติ เพื่อคลายความรู้สึกประชาชนให้ผ่อนลง รวมถึงเรื่องการเลือกคนที่ก็ต้องพิถีพิถัน หลีกเลี่ยงพวกตอหลดตอแหล
**เพราะจะทำให้งานพังเหมือนกับยุค คมช.
กำลังโหลดความคิดเห็น