ASTVผู้จัดการรายวัน - กอ.รมน.ภาค 2 สนธิกำลังตำรวจภาค 3 สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา รวบแก๊งมอดไม้ดัดแปลงเก๋งซุกพะยูง 12 ท่อน แถมติดสนบินอีก เลยเจอ 2 ข้อหาหนัก ด้านชุดเฉพาะกิจเมืองคอน ยึดไม้ซุงเถื่อนกองในที่ดินอัยการอาวุโส มูลค่ากว่า 3 ล้าน ขณะฉก.ร.4 แม่สอด บุกจับต่างด้าว-ยึดไม้แม่เลี้ยงดังอ.แม่ระมาด
เวลา 10.10 น. วานนี้(2 มิ.ย.) ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 พล.ท.จารุเกียรติ ชัยวงษ์ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 2 พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ รองผบช.ภ. 3 พร้อมนายตำรวจ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้าไม้พะยูง 2 คน ประกอบด้วย นายขุมทรัพย์ บุตตะคาม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 5 และนายชัยชนะ ผาลี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 3 ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ พร้อมด้วยรถยนต์โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ญศ 5109 กรุงเทพมหานคร ดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนไม้พะยูง 7 ท่อน และรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กข 3970 มุกดาหาร ดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนไม้พะยูง 5 ท่อน เงินสด 50,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ไม้พะยูงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร ยาว 2 เมตร 12 ท่อน มูลค่ากว่า 6 แสนบาท
สืบเนื่องจาก ตำรวจสภ.ชุมพวง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนชุมพวง-ลำปลายมาศ และพบรถยนต์ 2 คันเลี้ยวรถหลบจุดตรวจ มุ่งหน้าเข้าไปในรีสอร์ทที่กำลังก่อสร้าง จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น ซึ่งคนขับรถยนต์ทั้ง 2 คันได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายไร่มันสำปะหลัง เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมและจับกุมได้ ตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 2 คัน พบว่าถูกดัดแปลงห้องโดยสารเพื่อบรรทุกไม้พะยูง และใช้ผ้าปิดทับอำพราง
นายขุมทรัพย์รับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างขนไม้พะยูงจากนายเบี้ยว ไม่ทราบชื่อและนามสกุล จากอ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ไปส่งที่จ.บึงกาฬ ได้ค่าจ้าง 10,000 บาท โดยนายเบี้ยวจะขับรถนำเพื่อดูต้นทาง เมื่อมาถึงจุดตรวจอ.ชุมพวง จึงได้ขับรถเข้าไปในรีสอร์ทจนถูกจับกุม
ทั้งนี้ ระหว่างที่ควบคุมตัวนายขุมทรัพย์ นายเบี้ยวได้โทรศัพท์ติดนายขุมทรัพย์ พร้อมติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวนายขุมทรัพย์และรถยนต์เป็นเงิน 50,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงตกลงนัดรับเงินริมถนนชุมพวง-ประทาย เมื่อนายเบี้ยวนำเงินมาแล้ว ได้ให้นายชัยชนะนำเงินมาให้แทน เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุม แต่นายเบี้ยวหลบหนีไปได้
ด้านพ.ต.ท.เทิดฤทธิ์ สุวรรณประทัง ผู้บังคับกองร้อยตชด. 234 สั่งการให้ร.ต.อ.ภาสกร หนุดตะแสง ผู้บังคับหมวดกองร้อยตชด. 234 มุกดาหาร ประสานร.อ.นภดล ใจคง หัวหน้ากลุ่มงานข่าวกอ.รมน.มุกดาหาร ไปตรวจสอบบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยพัฒนาการ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร โดยพบไม้พะยูงบรรทุกอยู่ในรถกระบะมิตชูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียน บค 5506 มุกดาหาร จอดอยู่ในบริเวณบ้านเช่า คาดว่าเตรียมลำเลียงไม้นำส่งประเทศเพื่อนบ้าน รวม 39 ท่อน ปริมาตร 1.80 ลูกบาศก์เมตร มูลค่า 2 แสนบาท จึงนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมือง สืบหาเจ้าของบ้านเช่าและเจ้าของรถมาดำเนินคดีต่อไป
วันเดียวกัน พ.จ.อ.ศุภโชค พราหมพูล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรธรรมชาตินครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ส่วนรักษาป่าสำนักอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช ร่วมกับทหารกองทัพภาคที่ 4 ตรวจยึดไม้ซุงที่กองอยู่ในที่ดินเอกสารสิทธิท้องที่หมู่ 7 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รวมกว่า 60 ท่อน ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเจ้าของที่ดิน ทั้งหมดเป็นไม้เนื้อแข็งหายาก ทั้งไม้รักเขา ไม้พะยอม ไม้หลุมพอ ไม้ตะเคียนทอง ไม้ตะเคียนหิน ไม้ยางนา มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าเป็นของอัยการอาวุโสรายหนึ่ง ขณะที่รั้วติดที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังรายหนึ่งของจ.นครศรีธรรมราช
นายกฤษฎา มิตรมาศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.นาสาร กล่าวว่า ไม้ทั้งหมดกองอยู่บนที่ดินของอัยการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง เข้าใจว่านำมาสร้างบ้าน เพราะปรับพื้นที่เตรียมรออยู่แล้ว ไม้ทั้งหมดถูกขนมาด้วยรถบรรทุก 10 ล้อสีขาว ติดสติกเกอร์สีส้ม ทะเบียนจังหวัดยะลา และมีรถเครนสำหรับยกซุงลงมาจากรถ 10 ล้ออีก 1 คัน
พ.จ.อ.ศุภโชค กล่าวว่า ได้ติดตามรถบรรทุกที่ขนไม้มาส่งยังที่ดินแปลงนี้ แต่คลาดกันแถวอ.ร่อนพิบูลย์ จนมีสายข่าวแจ้งว่าพบกองไว้ที่นี่ จึงสนธิกำลังเข้าตรวจยึด ส่วนที่มาของไม้สันนิษฐานว่าจะมาจากแถบป่าแถบอ.บางขัน
ขณะที่นายอชิระ ณ นคร ผู้อำนวยการส่วนรักษาป่าสำนักอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ไม่พบว่าซุงท่อนใดตีตราผ่านกระบวนการทางกฎหมาย สันนิษฐานได้ว่าเป็นไม้เถื่อนทั้งหมด ซึ่งไม้แต่ละต้นล้วนเป็นไม้เนื้อแข็งชั้นเยี่ยมของภาคใต้ ราคาสูงมาก แต่ละต้นอายุไม่น้อยกว่า 150 ปี
จ.ตาก พ.อ.เทอดศักดิ์ งามสนอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด สั่งการให้ทหารฉก.ร.4 สนธิกำลังกับชุดเฉพาะกิจกองกำกับการสืบสวน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ตำรวจสภ.แม่ระมาด ตรวจค้นโรงงานสิ่งประดิษฐ์ไม้ และตรวจยึดไม้ ที่บ้านเลขที่ 312 หมูที่ 6 ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก พบแรงงานต่างด้าว 22 คน ไม้สักแปรรูป 82 แผ่น ไม้ประดู่ 28 แผ่น เครื่องยนต์ยันม่าร์ ขนาด 10.5 แรงม้า 1 เครื่อง ใบเลื่อยวงเดือนเส้นผ่าศูนย์กลาง 26 นิ้ว 1 ใบ เหล็กลูกกลิ้ง 4 ตัว และสายพาน 1 เส้น จึงจับกุมแรงงานต่างด้าวและตรวจยึดไม้ทั้งหมดไว้
ต่อมา ได้ประสานกับหน่วยงานฝ่ายตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง ขยายผลเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 321 ต.แม่ระมาด ซึ่งเป็นของแม่เลี้ยงใหญ่ผู้กว้างขวางในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่ระมาด เบื้องต้นพบว่ามีเสาไม้สักขนาดใหญ่จำนวน 55 ต้น สร้างไว้ในรูปแบบบ้านไม้อำพราง จึงอายัดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ.
เวลา 10.10 น. วานนี้(2 มิ.ย.) ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 พล.ท.จารุเกียรติ ชัยวงษ์ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 2 พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ รองผบช.ภ. 3 พร้อมนายตำรวจ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้าไม้พะยูง 2 คน ประกอบด้วย นายขุมทรัพย์ บุตตะคาม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 5 และนายชัยชนะ ผาลี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 3 ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ พร้อมด้วยรถยนต์โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ญศ 5109 กรุงเทพมหานคร ดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนไม้พะยูง 7 ท่อน และรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กข 3970 มุกดาหาร ดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนไม้พะยูง 5 ท่อน เงินสด 50,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ไม้พะยูงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร ยาว 2 เมตร 12 ท่อน มูลค่ากว่า 6 แสนบาท
สืบเนื่องจาก ตำรวจสภ.ชุมพวง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนชุมพวง-ลำปลายมาศ และพบรถยนต์ 2 คันเลี้ยวรถหลบจุดตรวจ มุ่งหน้าเข้าไปในรีสอร์ทที่กำลังก่อสร้าง จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น ซึ่งคนขับรถยนต์ทั้ง 2 คันได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายไร่มันสำปะหลัง เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมและจับกุมได้ ตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 2 คัน พบว่าถูกดัดแปลงห้องโดยสารเพื่อบรรทุกไม้พะยูง และใช้ผ้าปิดทับอำพราง
นายขุมทรัพย์รับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างขนไม้พะยูงจากนายเบี้ยว ไม่ทราบชื่อและนามสกุล จากอ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ไปส่งที่จ.บึงกาฬ ได้ค่าจ้าง 10,000 บาท โดยนายเบี้ยวจะขับรถนำเพื่อดูต้นทาง เมื่อมาถึงจุดตรวจอ.ชุมพวง จึงได้ขับรถเข้าไปในรีสอร์ทจนถูกจับกุม
ทั้งนี้ ระหว่างที่ควบคุมตัวนายขุมทรัพย์ นายเบี้ยวได้โทรศัพท์ติดนายขุมทรัพย์ พร้อมติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวนายขุมทรัพย์และรถยนต์เป็นเงิน 50,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงตกลงนัดรับเงินริมถนนชุมพวง-ประทาย เมื่อนายเบี้ยวนำเงินมาแล้ว ได้ให้นายชัยชนะนำเงินมาให้แทน เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุม แต่นายเบี้ยวหลบหนีไปได้
ด้านพ.ต.ท.เทิดฤทธิ์ สุวรรณประทัง ผู้บังคับกองร้อยตชด. 234 สั่งการให้ร.ต.อ.ภาสกร หนุดตะแสง ผู้บังคับหมวดกองร้อยตชด. 234 มุกดาหาร ประสานร.อ.นภดล ใจคง หัวหน้ากลุ่มงานข่าวกอ.รมน.มุกดาหาร ไปตรวจสอบบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยพัฒนาการ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร โดยพบไม้พะยูงบรรทุกอยู่ในรถกระบะมิตชูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียน บค 5506 มุกดาหาร จอดอยู่ในบริเวณบ้านเช่า คาดว่าเตรียมลำเลียงไม้นำส่งประเทศเพื่อนบ้าน รวม 39 ท่อน ปริมาตร 1.80 ลูกบาศก์เมตร มูลค่า 2 แสนบาท จึงนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมือง สืบหาเจ้าของบ้านเช่าและเจ้าของรถมาดำเนินคดีต่อไป
วันเดียวกัน พ.จ.อ.ศุภโชค พราหมพูล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรธรรมชาตินครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ส่วนรักษาป่าสำนักอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช ร่วมกับทหารกองทัพภาคที่ 4 ตรวจยึดไม้ซุงที่กองอยู่ในที่ดินเอกสารสิทธิท้องที่หมู่ 7 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รวมกว่า 60 ท่อน ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเจ้าของที่ดิน ทั้งหมดเป็นไม้เนื้อแข็งหายาก ทั้งไม้รักเขา ไม้พะยอม ไม้หลุมพอ ไม้ตะเคียนทอง ไม้ตะเคียนหิน ไม้ยางนา มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าเป็นของอัยการอาวุโสรายหนึ่ง ขณะที่รั้วติดที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังรายหนึ่งของจ.นครศรีธรรมราช
นายกฤษฎา มิตรมาศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.นาสาร กล่าวว่า ไม้ทั้งหมดกองอยู่บนที่ดินของอัยการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง เข้าใจว่านำมาสร้างบ้าน เพราะปรับพื้นที่เตรียมรออยู่แล้ว ไม้ทั้งหมดถูกขนมาด้วยรถบรรทุก 10 ล้อสีขาว ติดสติกเกอร์สีส้ม ทะเบียนจังหวัดยะลา และมีรถเครนสำหรับยกซุงลงมาจากรถ 10 ล้ออีก 1 คัน
พ.จ.อ.ศุภโชค กล่าวว่า ได้ติดตามรถบรรทุกที่ขนไม้มาส่งยังที่ดินแปลงนี้ แต่คลาดกันแถวอ.ร่อนพิบูลย์ จนมีสายข่าวแจ้งว่าพบกองไว้ที่นี่ จึงสนธิกำลังเข้าตรวจยึด ส่วนที่มาของไม้สันนิษฐานว่าจะมาจากแถบป่าแถบอ.บางขัน
ขณะที่นายอชิระ ณ นคร ผู้อำนวยการส่วนรักษาป่าสำนักอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ไม่พบว่าซุงท่อนใดตีตราผ่านกระบวนการทางกฎหมาย สันนิษฐานได้ว่าเป็นไม้เถื่อนทั้งหมด ซึ่งไม้แต่ละต้นล้วนเป็นไม้เนื้อแข็งชั้นเยี่ยมของภาคใต้ ราคาสูงมาก แต่ละต้นอายุไม่น้อยกว่า 150 ปี
จ.ตาก พ.อ.เทอดศักดิ์ งามสนอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด สั่งการให้ทหารฉก.ร.4 สนธิกำลังกับชุดเฉพาะกิจกองกำกับการสืบสวน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ตำรวจสภ.แม่ระมาด ตรวจค้นโรงงานสิ่งประดิษฐ์ไม้ และตรวจยึดไม้ ที่บ้านเลขที่ 312 หมูที่ 6 ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก พบแรงงานต่างด้าว 22 คน ไม้สักแปรรูป 82 แผ่น ไม้ประดู่ 28 แผ่น เครื่องยนต์ยันม่าร์ ขนาด 10.5 แรงม้า 1 เครื่อง ใบเลื่อยวงเดือนเส้นผ่าศูนย์กลาง 26 นิ้ว 1 ใบ เหล็กลูกกลิ้ง 4 ตัว และสายพาน 1 เส้น จึงจับกุมแรงงานต่างด้าวและตรวจยึดไม้ทั้งหมดไว้
ต่อมา ได้ประสานกับหน่วยงานฝ่ายตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง ขยายผลเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 321 ต.แม่ระมาด ซึ่งเป็นของแม่เลี้ยงใหญ่ผู้กว้างขวางในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่ระมาด เบื้องต้นพบว่ามีเสาไม้สักขนาดใหญ่จำนวน 55 ต้น สร้างไว้ในรูปแบบบ้านไม้อำพราง จึงอายัดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ.