บุรีรัมย์ - ตำรวจภาค 3 ร่วมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไล่ล่าแก๊งตัดไม้พะยูงข้ามจังหวัด ยึดไม้พะยูงแปรรูปมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท ลอบตัดจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลานโคราช มาซุกไว้ในไร่มันสำปะหลังท้องที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ รอขนย้ายขายนายทุน
วันนี้ (15 พ.ค.) พ.ต.อ.พลอย พิมพิสาร ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย นายภัทรพล ซุ่นฮั้ว ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน พ.ต.อ.สุธีร์ ตรุโนภาส ผกก.สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.2 (ชุมแสง-เย้ยปราสาท) ผสานกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันกว่า 10 นาย เข้าตรวจยึดไม้พะยูงแปรรูปจำนวน 15 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.51 ลบ.ม. มูลค่าประมาณเกือบ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการสืบสวนหาข่าวติดตามขยายผลการจับกุมและตรวจยึดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน และได้รับแจ้งจากสายว่ามีกลุ่มบุคคลจำนวน 5-10 คนนำรถยนต์กระบะ สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ลักลอบขนไม้พะยูงออกจากอุทยานแห่งชาติทับลาน บริเวณป่าด่านละกอล่าง ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา
เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบรถยนต์กระบะตามที่ได้รับแจ้งวิ่งสวนทางออกมาจึงได้ขับรถไล่ติดตาม โดยรถคันดังกล่าวขับมุ่งหน้าออกไปทาง อ.เสิงสาง-อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ จากนั้นได้ขับรถหลบเข้าไปในป่าชุมชนบ้านโคกรัก หมู่ 8 ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และทิ้งไม้พะยูงแปรรูปไว้ในป่ามันสำปะหลัง ข้างป่าชุมชนบ้านโคกรัก
เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบในบริเวณดังกล่าว พบไม้พะยูงแปรรูปจำนวน 15 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.51 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท วางซุกซ่อนอยู่ในไร่มันสำปะหลัง
ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบไม้พะยูงอยู่นั้นได้มีรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับเข้าไปบริเวณดังกล่าว แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่อยู่จำนวนมากจึงรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นนายทุนหรือกลุ่มขบวนการค้าไม้พะยูงเข้ามาติดต่อรับไม้ แต่ไหวตัวทันจึงหลบหนีไป โดยคาดว่าพื้นที่ อ.หนองกี่เป็นจุดพักไม้พะยูงก่อนส่งขายไปให้นายทุน เพราะก่อนหน้านี้มีการตรวจจับไม้พะยูงในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่สามารถจับผู้ต้องหาได้
จากการตรวจสอบไม้พบว่ามีการแปรรูปเป็นท่อนเหลี่ยม และตรวจสอบที่หน้าตัดของไม้ไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้แต่อย่างใด และตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบบุคคลหนึ่งบุคคลใดพอจะสอบถามได้ว่าไม้ดังกล่าวเป็นของใคร
จึงร่วมกันตรวจยึดไว้ส่ง ร.ต.ท.สมศักดิ์ เที่ยงดาห์ พนักงานสอบสวน สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหามีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำไม้ของกลางทั้งหมดไปลงบันทึก และเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.2 (ชุมแสง-เย้ยปราสาท) อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์
