ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจ สภ.ครบุรี โคราช รวบเครือข่ายค้ายาเสพติดนักโทษในเรือนจำบุรีรัมย์ 6 ราย ได้ของกลางยาบ้าอื้อ พร้อมอาวุธปืน 6 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวนมาก และตามยึดทรัพย์ได้อีกเพียบ
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่ สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ถิรวุฒิ พิศุทธิ์เศรษฐ์ศิริ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.ครบุรี พ.ต.ท.ไกรสร ศรีอำพร สารวัตรกองกับกำการสืบสวนสอบสวน และชุดจับกุมได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในท้องที่ อ.ครบุรี ได้ผู้ต้องหา 6 ราย ประกอบด้วย นายฉัตรชัย รุนกระโทก อายุ 28 ปี (หัวหน้าทีม) นายสมศักดิ์ นอบครบุรี อายุ 24 ปี นายเดชา เบียดกลาง อายุ 26 ปี นายเลิศชาย ตำคะเพชร อายุ 28 ปี นายสุรสิทธิ์ สีวงกลาง อายุ 18 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นชาว อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และ น.ส.อารียา จรูญไธสง อายุ 20 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ
พร้อมของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด อาวุธปืนพกสั้น 5 กระบอก และอาวุธปืนแก๊ป จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก และได้ยึดทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 หลายรายการ เช่น เงินสด 2 แสนบาท รถจักรยานยนต์ 4 คัน สร้อยคอลักษณะคล้ายทองคำ จำนวน 2 เส้น แหวนลักษณะคล้ายทองคำ จำนวน 2 วง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายฉัตรชัย รุนกระโทก หรือนายต้อม เป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในเขตพื้นที่ อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง มีพฤติกรรมใช้ป่าอ้อย และป่ามันสำปะหลัง หรือกระท่อมตามป่าเป็นจุดจำหน่ายยาบ้า ซึ่งยากต่อการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเปลี่ยนสถานที่ตลอดเวลา อีกทั้งผู้ต้องหายังมีอาวุธปืนติดตัว และมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้แก่กลุ่มเครือข่ายไม้พะยูงด้วย กระทั่งสายข่าวรายงานว่า มีการนัดส่งยาเสพติด และอาวุธปืนที่บริเวณกลางป่าอ้อย บ้านไผ่ หมู่ 4 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จึงนำกำลังตำรวจเข้าปิดล้อมจนสามารถจับกุมได้ทั้งหมด
นายฉัตรชัย รับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจากเครือข่ายยาเสพติดตามแนวชายแดนเพื่อนำเข้ามาจำหน่ายให้วัยรุ่นในพื้นที่ อ.ครุบรี อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์ โดยมีนายนักโทษชายชื่อเล่นว่า โต ซึ่งอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นตัวสั่งการให้นำยาบ้าส่งให้ลูกค้าตามคำสั่ง และทำมาหลายครั้งแล้วจนถูกตำรวจจับได้
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในทางสาธารณโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป