xs
xsm
sm
md
lg

ตร.กรุงเก่าคุมตัวผู้ต้องหาอ้างเป็นตำรวจจี้ชิงรถแท็กซี่ขับไล่ตามกิ๊กสาวทำแผนสารภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบุญรุ่ง โพธิ์เชิด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 11 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถยนต์แท็กซี่
พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา คุมตัวผู้ต้องหาอ้างเป็นตำรวจจี้ชิงรถแท็กซี่ขับไล่ตามรถกิ๊กสาวที่หนีไปกับชายหนุ่ม ก่อนหลบหนีไปกบดานอยู่ที่ชัยนาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองเครื่องกระสุนปืนในพื้นที่นครนายก และได้ประกันตัวออกมา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (21 เม.ย.) พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.อนุสรณ กลิ่นขร ผกก.สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัว นายบุญรุ่ง โพธิ์เชิด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 11 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถยนต์แท็กซี่โตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู-ขาว ทะเบียนป้ายเหลือง ทศ 4345 กรุงเทพมหานคร ของนายสนิท พุทธมาตร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 296 หมู่ที่ 7 ต.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณริมถนนสายเอเชียขาขึ้น หลักกิโลเมตรที่ 19 หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.หมู่ที่ 4 ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายสนิท พุทธมาตร เจ้าของรถแท็กซี่คันดังกล่าวเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้โบกเรียกรถแท็กซี่ของตนที่บริเวณหน้าโรงแรมแมนฮัตตัน จ.ปทุมธานี แล้วบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงเชื่อเพราะเห็นสวมใสเสื้อแจ็กเกตสีดำ มีเครื่องหมายตำรวจติดอยู่ แล้วให้ตนขับไล่ตามรถยนต์เก๋งสีขาวคันหนึ่งที่ว่งนำหน้ารถตนไปก่อนหน้านี้

แต่ตนขับไล่ติดตามไม่ทัน จนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้ผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนจี้ที่หน้าอกของตน แล้วบังคับให้จอด จากนั้นให้ตนลงจากรถแล้วผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์แท็กซี่ของตนหลบหนีไป วันนี้ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้รถยนต์แท็กซี่ของตนคืน เนื่องจากรถคันนี้เป็นเครื่องมือทำมาหากินของตน และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจมากที่เร่งติดตามจับกุมคนร้ายได้

นายบุญรุ่ง โพธิ์เชิด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพขับรถยนต์แท็กซี่เหมือนกัน โดยวันเกิดเหตุได้ไปเที่ยวในสถานบันเทิง พบเห็นแฟนสาวอยู่กับชายอื่นจึงเข้าไปต่อว่า และแฟนสาวได้ขึ้นรถยนต์เก๋งสีขาวหลบหนีไป ตนจึงได้ขับรถยนต์แท็กซี่ตามไปแล้วไปชนกับรถจักรยานยนต์รับจ้างจนรถยนต์แท็กซี่ของตนขับต่อไปไม่ได้

เป็นจังหวะที่รถแท็กซี่ของนายสนิท พุทธมาตร ผู้เสียหายผ่านมาพอดี ตนจึงได้เรียกให้หยุด และอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วให้ขับรถติดตามรถยนต์เก๋งที่แฟนสาวของตนขึ้นหนีไป แต่ตามไม่ทัน ตนจึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาจี้รถยนต์แท็กซี่ของนายสนิท พุทธมาตร แล้วหลบหนีไปหาแฟนสาวอีกคนที่ จ.ชัยนาท อยู่ด้วยกัน 3 วัน แล้วกลับเข้ามาบ้านพักที่ จ.ปทุมธานี จนกระทั่งมาถูกจับกุม

พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า เคยมีประวัติถูกจับกุมตัวในข้อหาครอบครองเครื่องกระสุนปืนในพื้นที่ จ.นครนายก และได้ประกันตัวออกมา ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร เพราะผู้ต้องหามีพฤติกรรมชอบดื่มสุราและมักชอบอ้างตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอฝากไปยังกรมการขนส่งในการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะต่อไปน่าจะมีมาตรการในการตรวจสอบมากกว่านี้





กำลังโหลดความคิดเห็น