ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แล้งอีสานใต้ขยายวงกว้าง ประกาศภัยพิบัติแล้งแล้ว 2 จังหวัด 10 อำเภอ ปชช.เดือดร้อนกว่า 2.5 แสนคน ชัยภูมิหนักสุด ส่วนเกษตรกรปลูกพริกโคราชเดือดร้อนหนัก อากาศร้อนทำพริกหด ไม่สมบูรณ์ ขาดทุนยับ เตรียมโละเปลี่ยนปลูกพืชอื่นแทน
วันนี้ (13 มี.ค.) นายมนตรี ชนะชัยวิบูลวัฒน์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งใน 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง(นครราชสีมา,ชัยภูมิ,บุรีรัมย์ และสุรินทร์)ว่า ล่าสุดขณะนี้ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยแล้ง)แล้ว 2 จังหวัดคือ จ.ชัยภูมิ และจ. บุรีรัมย์ รวม 10 อำเภอ 61 ตำบล 679 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 82,888 ครอบครัว 252,970 คน แบ่งเป็นจ.ชัยภูมิ 9 อำเภอ 60 ตำบล 671 หมู่บ้าน 81,980 ครอบครัว 252,970 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย พืชไร่ 50,023ไร่ พืชสวน 9,878 ไร่ นาข้าว 25,443 ไร่ และ จ.บุรีรัมย์ 1 อำเภอ 1 ตำบล 8 หมู่บ้าน 908 ครอบครัว
ทั้งนี้ ศูนย์ปภ.เขต 5 นครราชสีมา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่วางไว้ โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์กู้ภัยให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่เกษตรกรผู้ปลูกพริก บ้านขุนละคร หมู่ 2 ต.หนองหลัก อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ได้เร่งเก็บพริกที่ปลูกไว้ออกขายหลังประสบกับปัญหาภัยแล้งทำให้พริกเน่า ปริแตก เม็ดหงิกงอไม่สมบูรณ์ เพื่อให้เสียหายน้อยที่สุด ซึ่งผลผลิตพริกที่เก็บมาต้องทำการคัดแยกพริกที่เน่าปริแตกออกตากแดด ทำเป็นพริกแห้ง
นางจำรัส รั่นสันทัน เกษตรกรผู้ปลูกพริกบ้านขุนละคร กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ โดยในช่วงเช้ามีอากาศเย็นหมอกลง แต่ช่วงสายอากาศกลับร้อนจัด ทำให้ต้นพริกเหี่ยวเฉา ผลผลิตที่ออกมาไม่สมบูรณ์ และเน่าเสียคาต้นเสียหายจำนวนมาก ฉะนั้นช่วงนี้จึงต้องเร่งเก็บพริกก่อนที่จะเสียหายมากกว่านี้ แม้ว่ายังไม่แก่จัดก็ตาม สำหรับราคาขายพริกแห้งกิโลกรัมละ 100 บาท พริกสดกิโลกรัมละ 30-40 บาท
"ทำไร่ขาดทุนมา 2 ปีแล้ว เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดประสบกับภาวะภัยแล้ง ปีหน้าคิดว่าที่จะเปลี่ยนไปปลูกพืชอย่างอื่นแทน"นางจำรัสกล่าว
