นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่ความมั่นคงหลายฝ่ายสนธิกำลังเข้ายึดไม้ซุงเถื่อนในที่ดินของเจ้าพนักงานอัยการอาวุโสในท้องถิ่นรายหนึ่ง เบื้องต้นพบเป็นไม้เนื้อแข็งหายากกว่า 60 ท่อน มีอายุแต่ละท่อนไม่น้อยกว่า 150 ปี มูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท
วันนี้ (2 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.จ.อ.ศุภโชค พราหมพูล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจกราบปรามการลักลอบตัดไม้ และทำลายทรัพยากรธรรมชาตินครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ส่วนรักษาป่าสำนักอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช เข้าสนธิกำลังร่วมกับทหารติดอาวุธจากกองทัพภาคที่ 4 เข้าตรวจยึดไม้ซุงเถื่อนกว่า 60 ท่อน ที่ถูกกองทิ้งอยู่ในที่ดินเอกสารสิทธิ โฉนดในท้องที่หมู่ที่ 7 ตำบลนาสาร อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากรับแจ้งว่ามีไม้ซุงต้องสงสัยจำนวนมากถูกขนย้ายมากองไว้ในที่ดินแปลงดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบเบื้องต้นไม่ปรากฏว่ามีเจ้าของที่ดินปรากฏตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่มีท่อนซุงขนาดใหญ่จำนวนมากถูกกองไว้อย่างเป็นระเบียบ โดยพบว่าแต่ละท่อนมีขนาดเส้นรอบวงกว่า 2 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 1 เมตร ยาวท่อนละ 5 เมตรเศษ รวมกว่า 60 ท่อน ทั้งหมดเป็นไม้เนื้อแข็งหายากซึ่งมีทั้งไม้รักเขา ไม้พะยอม ไม้หลุมพอ ไม้ตะเคียนทอง ไม้ตะเคียนหิน ไม้ยางนา มีมูลค่าซุงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า ไม้ทั้งหมดเป็นของอัยการอาวุโสรายหนึ่ง ขณะที่รั้วติดกันนั้นเป็นบ้านหลังงามของนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังรายหนึ่งของนครศรีธรรมราช
นายกฤษฎา มิตรมาศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลนาสาร อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ไม้ทั้งหมดกองอยู่บนที่ดินของอัยการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่านำเอาไม้ทั้งหมดมาหมายสร้างบ้านเพราะว่ามีการปรับพื้นที่เตรียมก่อสร้างรออยู่แล้ว ไม้ทั้งหมดนั้นล็อตแรกถูกขนมาล่วงหน้าแล้ว 2-3 วัน เป็นไม้ขนาดใหญ่มาก และล็อตหลังนั้นเพิ่งขนมาเมื่อเย็นวานนี้ด้วยรถบรรทุกสิบล้อสีขาว มีสติกเกอร์สีส้มติดอยู่ด้านหน้า ป้ายทะเบียนจังหวัดยะลา และรถเครนสำหรับยกซุงลงมาจากรถสิบล้ออีก 1 คัน ส่วนตัวเลขทะเบียนนั้นจำไม่ได้
พ.จ.อ.ศุภโชค พราหมพูล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรธรรมชาตินครศรีธรรมราช ระบุว่า วานนี้ได้พยายามสืบสวนติดตามรถบรรทุกคันที่ขนไม้มาส่งยังที่ดินแปลงนี้ แต่คลาดกันแถวร่อนพิบูลย์อย่างหวุดหวิด จนมีสายข่าวแจ้งว่าพบไม้ถูกกองไว้ที่นี่จึงสนธิกำลังหลายฝ่ายเข้าทำการตรวจยึด ส่วนที่มาของไม้นั้นสันนิษฐานว่าจะมาจากแถบป่าในอำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
ขณะที่นายอชิระ ณ นคร ผู้อำนวยการส่วนรักษาป่าสำนักอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช ระบุว่า ตรวจสอบเบื้องต้นนั้นไม่พบว่าซุงท่อนใดตีตราสัญลักษณ์การผ่านกระบวนการทางกฎหมายมาก่อน สันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า เป็นไม้ซุงเถื่อนทั้งหมด หลังจากนี้จะเรียกจ้าของที่ดินมาตรวจสอบถึงที่มาของไม้จำนวนนี้ว่าได้มาอย่างไร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
“บางต้นมีร่องรอยเพิ่งตัดโค่นมาได้ไม่นาน เข้าใจว่าไม้เหล่านี้จะต้องมาจากป่าแห่งใดแห่งหนึ่งในนครศรีธรรมราช แต่ละต้นล้วนเป็นไม้พื้นเมืองเนื้อแข็งชั้นเยี่ยมของทางภาคใต้ราคาสูงมาก แต่ละต้นมีอายุไม่น้อยกว่า 150 ปีทั้งสิ้น โดยหลังจากนี้จะตรวจยึดทั้งหมด และดำเนินคดีต่อเจ้าของที่ดินไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ผู้อำนวยการส่วนรักษาป่าสำนักอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 12 ระบุ
ส่วนชาวบ้านในย่านที่เกิดเหตุระบุต่อเจ้าหน้าที่ว่า พบเห็นรถบรรทุกขนาดใหญ่พร้อมด้วยรถเครนได้บรรทุกไม้มาตั้งแต่เย็นวานนี้ และได้ใช้เครนยกไม้ทั้งหมดมาวางไว้ โดยเชื่อว่ามีการว่าจ้างมาอย่างเป็นระบบ เนื่องจากมีการกำหนดจุดวางที่ชัดเจน และมีแรงงานมาดำเนินการอย่างพร้อมเต็มที่