ปปง.อายัดทรัพย์ขบวนการค้าไม้พะยูงและสัตว์ป่าข้ามชาติ

ปปง. อายัดทรัพย์ขบวนการค้าไม้พะยูงและสัตว์ป่า 98 รายการ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท คาดเปิดสวนสัตว์บังหน้าเพื่อพักสัตว์ที่ลักลอบรอส่งขาย พบกระแสเงินหมุนเวียนขาเข้า 1,183 ล้านบาท ขาออกกว่า 320 ล้านบาท เผยบัญชีต้นทางจากลาว ปลายทางมาเลเซีย

วันนี้ (6 พ.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ปปง.) กล่าวถึงการพิจารณาผลการตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของนายกัมปนาท หรือ ถัง ชัยมาตร กับพวกขบวนการค้าไม้พะยูงและสัตว์ป่า ในคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการค้า โดยมีการกระทำความผิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 จนถึงปัจจุบัน

สืบเนื่องจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาทำการสืบสวนขยายผล จนทำให้ทราบว่านายกัมนาท หรือ ถัง ชัยมาตร เป็นนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการซื้อขายไม้พะยูงในคดีของสถานีตำรวจภูธรอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2557 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกันกับคณะเจ้าหน้าที่ประจำเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 (คลองน้ำมัน) ร่วมจับกุมตัว นายจักรรินทร์ ลาภชัย นายปราโมทย์ สีดำ และ นายเสกสรร ดวงจันทร์ พร้อมด้วยของกลาง 1. ไม้พะยูงแปรรูป จำนวน 11 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตรจำนวน 0.87 ลบ.ม. คิดเป็นราคาไม้พะยูงของกลางประมาณ 3 ล้านบาท 2. รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ฮจ7966 กทม. และ 3. รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ สี่ประตู หมายเลขทะเบียน ณก1245 กทม.

ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมนายจักรรินทร์ กับพวกนั้น ได้มี นายสุเชษฐ อัตถาวงศ์ และ นายระเวีย ยิ้มกระโทก เข้ามาพูดคุยกับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเสนอเงินสดจำนวน 1,500,000 บาท ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่จับกุมนายจักรรินทร์ กับพวก เพื่อดำเนินคดี เจ้าหน้าที่จึงแกล้งตอบตกลง ต่อมานายสุเชษฐ ได้ติดต่อกับนายถัง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ทางโทรศัพท์ เพื่อให้นำเงินจำนวนดังกล่าวมามอบให้ โดยมี น.ส.ลัดดาวัลย์ บุตรสุ่ย และนางสุดคะนึง สุทธิประภา เป็นผู้นั่งซ้อนท้ายนำถุงบรรจุเงินสดมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุมตัวทั้งหมดไว้ พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 1,500,000 บาท และสิ่งของอื่นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันกระทำผิดฐานเป็นผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่” หรือติดสินบนเจ้าพนักงาน

เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายกัมปนาท หรือ ถัง ชัยมาตร เป็นบุคคลเดียวกับที่อยู่ในคดีของสถานีตำรวจภูธรครบุรี เมื่อ วันที่ 26 ม.ค. 57 จึงจับกุมดำเนินคดี

เลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม มีมติยึดและอายัดทรัพย์สินของนายกัมปนาท กับพวก จำนวน 98 รายการ เป็นรถยนต์จำนวน 29 คัน เงินสดประมาณ 6,000,000 บาท ที่ดิน 24 แปลง และทรัพย์สินอื่นๆมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท ไว้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

นอกจากนี้ ปปง. ได้ตรวจสอบข้อมูลการถูกดำเนินคดีอาญาของนายกัมปนาท กับพวก พบข้อมูลการถูกดำเนินคดีอาญาอื่น จำนวน 4 คดี และยังตรวจพบว่าบุคคลใกล้ชิดกับนายกัมปนาท มีประวัติถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับข้อหาค้าและมีสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองฯ และในคดีที่มีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมไม้พะยูงจำนวนหลายคดีหลายพื้นที่ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายกัมปนาท หรือ ถัง ชัยมาตร กับพวก พบว่ามีกระแสการเงินหมุนเวียนจำนวน ระหว่างปี พ.ศ. 2554 - 2557 มีธุรกรรมการเงินขาเข้า จำนวน 1,183,093,448.21 บาท และธุรกรรมการเงินที่โอนออกไปยังบุคคลอื่น จำนวน 320,593,570 บาท ซึ่งสอดคล้องกับการลักลอบนำสัตว์ป่าหรือสัตว์สงวนฯ จำพวกตัวนิ่ม หรือซากสัตว์ป่า เช่น งาช้างมาจากพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศไทย และมีจุดหมายปลายทางของการส่งสินค้าเหล่านั้นไปยังประเทศจีน ที่มีความต้องการเช่นเดียวกันกับไม้พะยูงที่มีสูงมากบริเวณชายแดนประเทศไทยด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถบจังหวัดหนองคาย นครพนม มุกดาหาร เป็นสำคัญ และมีชาวต่างชาติเกี่ยวข้องกับขบวนการเครือข่ายดังกล่าวมากกว่า 3 รัฐขึ้นไป

สำหรับเส้นทางการเงินต้นทางมาจากประเทศลาว และโอนเข้ามาบัญชีในประเทศไทย เข้าบัญชีคนกลาง 8 คน ซึ่ง หนึ่งในนั้นคือนายกัมปนาท โดยการโอนเงินจะโอนเงินเป็นทอดๆ ก่อนถูกโอนออกไปยังบัญชีของบุคคลทางภาคใต้ของไทยและส่งต่อไปยังบัญชีที่ประเทศมาเลเซีย

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวต่อว่า สำหรับบริษัท สวนสัตว์ชัยภูมิสตาร์ไทเกอร์ จำกัด ที่นางดาวเรือง ชัยมาตร พี่สาวของนายกัมปนาท เป็นเจ้าของกิจการและเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่นั้น ตนคาดว่าเป็นที่พักสัตว์ที่ลักลอบขาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าสัตว์ที่ครอบครองถูกต้องหรือไม่