ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจภาค 3 สกัดจับแก๊งลักลอบขนตัวนิ่มสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางตัวนิ่มเป็นๆ 169 ตัว มูลค่ากว่า 2 ล้าน สารภาพรับจ้างขนจากภาคใต้ส่งลูกค้าที่อุดรฯ เพื่อลำเลียงต่อยังปลายทางประเทศจีน เป็นยาโด๊ป
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (27 มี.ค.) ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 แถลงผลการจับกุม นายสุดใจ กิ่งสวัสดิ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/6 ม1 ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม และนายอนุเทพ พลังธนาสิทธิ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/141 ซอยบางนา-ตราด 14 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง หรือ สัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิชอบ
พร้อมของกลางเป็นตัวนิ่มจำนวน 169 ตัว ที่บรรจุอยู่ในถุงตาข่ายสีเขียวใส่ไว้ในตะกร้าพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง มูลค่าส่งออกกว่า 2 ล้านบาท บรรทุกมาในรถยนต์กระบะบรรทุกแค็บ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บฉ 4836 จังหวัดสุราษฏร์ธานี ซึ่งดัดแปลงมาเป็นอย่างดี 1 คัน
พล.ต.ต.สุรชัย เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจบูรณาการ ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.หินดาด ริมถนนสายด่านขุนทด-ลำนารายณ์ ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เพื่อกวดขันการกระทำความผิดทั้งยาเสพติดและอื่นๆ เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมักเป็นจุดบอด ไม่มีการตั้งด่านตรวจทำให้คนร้ายมักใช้เป็นเส้นทางลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย และจากการตั้งด่านตรวจครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนตัวนิ่มซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองโดยผิดกฎหมาย และจากการตรวจสอบพบว่า ทะเบียนรถยนต์คันก่อเหตุเป็นทะเบียนปลอม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบหาผู้ครอบครองรถที่แท้จริงต่อไป
นายสุดใจ กิ่งสวัสดิ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนตัวนิ่มจากนายโน๊ตไม่ทราบชื่อสกุลจริง อยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ให้นำตัวนิ่มทั้งหมดไปส่งต่อให้นายป็อก ซึ่งเป็นลูกค้าที่ จ.อุดรธานี โดยจะมีคนมารับช่วงต่อไปส่งที่จ.หนองคาย ก่อนนำข้ามแม่น้ำโขงไปขายให้พ่อค้ารับซื้ออีกทอดหนึ่ง เพื่อนำส่งไปยังปลายทางที่ประเทศจีนเพื่อไปทำยาโด๊ปชูกำลังโดยได้ค่าจ้างคนละ 5,000 บาท ทำมาแล้ว 5 ครั้ง แต่ครั้งนี้มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำ 2 ผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หินดาด อ.ด่านขุนทด เพื่อดำเนินคดี ส่วนตัวนิ่มทั้งหมดนั้น จะส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการฟื้นฟูอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าต่อไป
